ทำหน้าใส

วิธีทําให้หน้าใส ด้วยตัวเอง

    1. ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม ควรนอนระหว่าง 3 ทุ่มถึงตี 4 และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพราะการนอนดึกจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายเสื่อมโทรม ทำให้มีอายุสั้นลง ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานไม่เป็นปกติ

    2. ออก กำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ทำให้สุขภาพผิวดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

    3. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย วันละ 8 แก้ว เพราะจะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้หน้าดูสดใส น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้นไม่เหี่ยวย่นด้วย ซึ่งถ้าหากร่างกายมีน้ำเพียงพอก็สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ออกมาได้มาก

    4. รับประทาน ผักผลไม้สดเป็นประจำ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี่ มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงต้านทานโรคต่างๆ ทำให้ผิวสวย ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

    5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆทุกชนิด ซึ่งจะทำให้หน้ามันและอาจเกิดสิวตามมาได้ หรือถ้าอดใจไม่ได้หลังจากกินแล้วควรดื่มน้ำตามไปมากๆ

    6. ตอนมีประจำเดือน ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันเพราะอาจจะทำให้หน้าของคุณสาวๆ ยิ่งมันขึ้นไปใหญ่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้

    7. ทำจิตใจให้ร่าเริง สดชื่น แจ่มใส มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ และยังช่วยชะลอวัยได้ด้วย

    8. ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอัยควร หน้าตาไม่สดใส และมีสิวอุดตันตามมา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง เพราะเหล้าและบุหรี่มีผลเสียหลายต่อสุขภาพในร่างกายของเรามาก

    9. ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดๆ เพราะแสงแดดจะทำให้หน้าเราหมองคล้ำได้ เมื่อออกกลางแจ้งควรสวมแว่นตาและกางร่ม (ร่มกัน UV ก็มีนะ) และทาครีมกันแดดด้วย

    10. หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ โดยไม่จำเป็น

    11. เวลาว่างควรทำทรีทเม้นท์สักอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย

    12. ไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ก่อนล้างหน้าควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนทุกครั้ง และควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และไม่เกิน 3 ครั้งเพราะจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้

    13. เมื่อล้างหน้าเสร็จควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผิวคุณสะอาดปราศจากสารตกค้างแล้วจริงๆ

    14. หลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า เพื่อป้องกันริ้วรอยและรอย

    15. ควรจะแยกผ้าเช็ดหน้า กับผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผมออกจากกัน ใช้อย่างละผืน และควรซักเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

    16. ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน

    17. สำหรับคนผิวมัน ถ้ารู้สึกว่าหน้ามันในระหว่างวัน ควรใช้กระดาษซับมันแทนการล้างหน้าบ่อยๆ

วิธีทําให้หน้าใสด้วยอาหารเสริมและเครื่องสำอาง

    • อาหาร เสริมและวิตามิน ที่ทำให้หน้าใสตัวหลักๆ ก็จะมี วิตามินซี (แต่วิตามินซีไม่ทำให้ขาว) และตัวถัดมาที่แนะนำก็คือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น , โคเอนไซม์คิวเท็น , และกลูต้าไธโอน (ใช้โดยวิธีกินจะไม่ค่อยเห็นผล)

    • เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของ วิตามินซี,AHA,อาร์บูติน,Licoric เป็นต้น

วิธีทำให้หน้าใสด้วยเลเซอร์และเครื่องมือแพทย์

    1. การฉีดวิตามินซี เพราะช่วยเรื่องความใสโดยตรง ควรฉีดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และสุขภาพผิวแข็งแรง ผิวจะนุ่มลื่นมากๆ ราคาประมาณ 200-500 บาท

    1. การ ทำไอออนโต เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าในการช่วยผลักวิตามินให้ซึมลึกเข้าสู่ผิว จะได้ผลดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง อย่างแรกที่สำคัญคือ ตัวเจลวิตามินที่ใช้ในการทำว่ามีคุณภาพแค่ไหน เจลวิตามินที่ใช้ทำมีความเข้มข้นเท่าไหร่ ตัววิตามินที่ใช้ทำตรงกับความต้องการหรือไม่ ระยะเวลาการทำ(อย่างน้อย 30 นาที จึงจะเห็นผล) และการปรับความแรงของกระแสไฟ(ควรปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและปัญหาที่ เป็นอยู่) โดยเจลวิตามินที่ทำให้หน้าใสตัวหลักๆก็คือ วิตามินซี(ทำให้หน้าใสโดยตรง) , Licoric (ช่วยเรื่องความขาวและใสด้วย) , และตัวที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นสิวแล้วอยากหน้าใสคือวิตามินเอ โดยวิตามินเอจะมีหลายความเข้มด้วยกัน 0.025-0.1% เมื่อทำแล้ว อีก 2-3 วันหน้าจะเริ่มผลัดเซลล์ผิวเก่าออก หน้าลอกออกเป็นขุยๆ จะช่วยเอาสิวอุดตันเก่าๆออกมา ช่วงนี้สิวอาจจะเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่ต้องกังวล ทำไปนานๆ จะทำให้สิวหายด้วย แล้วหลังจากนั้นหน้าก็จะใสขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้อเสียคือเวลาทำจะรู้สึกช๊อตๆ จี๊ดที่หน้าหน่อย ยิ่งถ้ากลิ้งไปโดนตรงบริเวณแผลสิวหรือสิวอักเสบจะจี๊ดมากๆ วิธีแก้คือแปะเทปกาวแบบที่แพทย์ใช้เป็นแผ่นเล็กๆ ลักษณะคล้ายการแปะหัวสิวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กระแสไฟฟ้าถูกผิวสิวโดยตรง ส่วนราคาที่ทำจะอยู่ประมาณ 200-500 บาท

    1. การ ทำโฟโน เพิ่มการดูดซึมของเจลวิตามินโดยใช้คลื่นอัลตราโซนิกหรือคลื่นเสียง ส่วนตัวแล้วขณะทำจะรู้สึกสบายหน้ามากๆ (ทำแล้วอาจเผลอหลับได้เลยทีเดียว) ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนก็คือช่วยรักษาเรื่องริ้วรอยได้เป็นอย่างดี แต่ประสิทธิภาพการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวจะไม่ดีเท่ากับเครื่องไอออนโต ส่วนราคาที่รับทำก็จะอยู่ที่ 200-500 บาทโดยประมาณ

    1. การ ทำ IPL หน้าใสแบบทันใจ ใช้หลักการของคลื่นแสง สามารถใช้รักษารอยแดงจากสิว กระ กำจัดขนถาวร เส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยที่เกิดจากการรักษาฝ้า ปานบางชนิด ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และหน้าใสทันที ราคาต่อครั้งก็ 2,000 บาทขึ้นไป

    1. การ ทำเมโสหน้าใส หลักการคือใช้เข็มเล็กๆ ฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวตื้นๆ โดยตัวยาที่นิยมใช้ก็คือวิตามินซี โดยหลังทำหน้าจะขาวผ่องใสทันที โดยผู้หญิงจะได้ผลดีกว่าผู้ชาย เพราะชั้นใต้ผิวหนังของผู้ชายส่วนใหญ่เป็นพังผืด แต่ข้อเสียคือบางจุดอาจเป็นแผลได้และการทำวิธีนี้เห็นผลได้ไม่นานนัก จึงไม่แนะนำ ส่วนราคาก็ประมาณหลักพันขึ้นไป

    1. เดี๋ยวขอคิดก่อนแล้วจะมาอัพเดทให้อ่านกันทั้งข้อดีและข้อเสียครับ

วิธีทําให้หน้าใสด้วยการทำทรีทเม้นท์ด้วยตัวเองง่าย

    • สูตรน้ำผึ้งมะนาว ช่วยทำให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นและช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป

    • ส่วนผสม น้ำผึ้ง 1 ถ้วย , น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

    • วิธีทำ ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้าประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    • สูตรแอปเปิ้ล ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าดูสดใส เปล่งปลั่ง

    • ส่วนผสม เนื้อแอปเปิ้ลไร้เปลือก , น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

    • วิธีทำ นำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น

    • สูตรแตงกวา (สำหรับผิวมันและผิวผสม) ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนชุ่มชื่น

    • ส่วนผสม แตงกวาหั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ผล , ไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้เฉพาะไข่ขาว) , น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

    • วิธีทำ นำแตงกวา ไข่ขาว มะนาว ไปปั่นรวมกันจนละเอียด แล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก

**ผลไม้ที่ใช้ต้องสดใหม่เสมอ โดยก่อนการพอกหน้าต้องล้างหน้าให้สะอาด และหลังจากพอกหน้าไม่ควรหัวเราะพูดคุยเพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยได้**