กระเทียม
“กระเทียม” (Garlic) เป็นพืชผักที่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ถูกนำมาเป็นเครื่องปรุงในอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารคาว อย่างต้ม ผัด ทอด ยำ เมื่อไหร่ที่ได้กลิ่นกระเทียมเราจะรู้สึกหิวขึ้นมาทันที กระเทียมจึงจัดเป็นเครื่องปรุงอาหารชั้นเลิศของอาหารคาวที่ให้กลิ่นหอม น่าอร่อย ชวนหิว แต่บางคนก็ไม่ชอบกลิ่นฉุนนี้ เพราะกลิ่นรุนแรงและติดแน่น จึงไม่อยากกินอาหารที่มีกลิ่นของกระเทียม ทำให้พลาดโอกาสได้รับสรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียม ที่เรียกว่าต้านสารพัดโรค แถมยังช่วยเรื่องความสวยความงามได้อีก ชักอยากรู้แล้วล่ะสิ...ว่ากระเทียมช่วยอย่างไร? งั้นเราไปดูกันเลยค่ะ
ลักษณะของกระเทียม
กระเทียมเป็นพืชที่หาซื้อได้โดยทั่วไป เป็นพืชสวนครัวที่จัดว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับครัวคนไทย เนื่องจากกระเทียมนั้นมักถูกนำมาประกอบอาหารหรือปรุงเป็นเครื่องแกงเพื่อให้ให้มีรสชาติและมีกลิ่นหอมอร่อยมากขึ้น นอกจากประโยชน์ในครัวแล้วกระเทียมยังมีสรรพคุณทางยาต่างๆ มากมายจนมีการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากกระเทียมเพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพขึ้นมาหลายชนิดเลยทีเดียว
ลำต้น : เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นแท้คือหัวกระเทียมที่อยู่ใต้ดิน และลำต้นเทียมที่เป็นใบ โดยแต่ละหัวนั้นจะมีหลายกลีบเรียงซ้อนกัน แต่ละกลีบจะมีกาบหรือเปลือกบางๆหุ้มหลายชั้น อาจจะมีสีม่วง ชมพู หรือขาวก็ได้ สามารถแยกออกจากกันได้ ด้านบนของกลีบเรียวแหลมเพื่อเติบโตไปเป็นใบ กระเทียมหนึ่งกลีบนำไปขยายพันธุ์ได้หนึ่งต้น แต่มีกระเทียมบางสายพันธุ์ที่มีเพียงกลีบเดียว เช่น กระเทียมโทน รากของกระเทียมเป็นระบบรากฝอย
ใบ : เจริญมาจากส่วนกลีบกระเทียม มีลักษณะแบนยาว ปลายแหลม แผ่นใบแบนเรียบ
ดอก : ดอกออกเป็นช่อโดยติดกันเป็นกระจุกที่ปลายก้านดอก มีใบประดับบางๆห่อหุ้มทั้งกระจุก ในกระจุกมีดอกย่อยอยู่เป็นจำนวนมาก มีกลีบดอก 6 กลีบ เกสรตัวเมีย 1 อัน เกสรตัวผู้ 6 อัน
เมล็ด : หรือผลกระเทียม มีขนาดเล็ก รูปไข่ ค่อนช้างกลม มีสามพู เมล็ดมีสีน้ำตาล ใช้ขยายพันธุ์ได้ แต่ในประเทศไทยสภาพอากาศไม่เหมาะสมจึงไม่นิยมรอให้ติดผล
กระเทียม...สรรพคุณทางยา ช่วยผิวสดใสอมชมพู
กระเทียมมีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นแหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย กระเทียมมีกรดนิวคลีอิก (nucleic acid) ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก เป็นอาหารผิวชั้นเลิศ ช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ผิวพรรณสดใสอมชมพู
นอกจากนั้นกระเทียมยังถือเป็นสมุนไพรตำรับโบราณมาช้านาน เพราะกระเทียมเป็นยารักษาโรคชั้นดีทั้งรักษาโรคภายในร่างกาย และภายนอกร่างกาย อยากรู้แล้วใช่ไหมว่า “กระเทียม” มีสรรพคุณดีเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง มารู้จักกระเทียมให้ลึกซึ้งกันเลยดีกว่า
25 สรรพคุณ...ประโยชน์เกินคาดจาก “กระเทียม”
1. กระเทียมให้ความร้อนแก่ร่างกาย ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย ทำให้เลือดลมดี ช่วยขับเหงื่อและเสมหะ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ลดไข้ แก้อาการหายใจติดขัด คัดจมูก
2. กระเทียมช่วยต้านทานโรคไตได้ เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต
3. กระเทียมช่วยขับลม แก้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง จุกเสียด
4. กระเทียมช่วยต้านทานโรครูมาติสซั่ม โรครูมาติก และโรครูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
5. ประโยชน์ของกระเทียมช่วยขับพยาธิเส้นด้าย และพยาธิไส้เดือน
6. กระเทียมช่วยขับสารพิษจากร่างกายได้
7. กระเทียมมีสรรพคุณต้านโรค จัดเป็นสมุนไพรต้านโรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด ป้องกันโรคโลหิตจาง
8. กระเทียมสรรพคุณช่วยคุมน้ำตาล โดยกระเทียมช่วยปรับสมดุลในร่างกาย และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
9. กระเทียมช่วยแก้อาการปวดหัว และโรคไมเกรน แก้วิงเวียนศีรษะ
10. กระเทียมเป็นยาแก้อักเสบอ่อนๆ นำเนื้อกระเทียมมาพอกที่สิวจะช่วยลดการอักเสบได้ ช่วยลดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ทั้งยังช่วยสมานแผลเน่าเปื่อย แผลอักเสบเป็นหนอง และกากเกลื้อน
11. กระเทียมเป็นสมุนไพรต้านมะเร็งชั้นดี มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็ง
12. กระเทียมมีกลิ่นฉุนซึ่งช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้
13. ประโยชน์ของกระเทียมช่วยลดความอ้วน ความเผ็ดร้อนนิดๆของกระเทียมทำให้ร่างกายร้อน นำมาปรุงอาหาร จะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดความอ้วน ช่วยลดไขมันส่วนเกิน และลดระดับน้ำตาล ช่วยในการเผาผลาญ
14. กระเทียมช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น และทำให้รู้สึกสบายท้อง
15. กระเทียมทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยให้ผู้ที่อดนอนรู้สึกกระปรี่กระเปร่าขึ้น
16. กระเทียมอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 และบี 6 ที่ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา และโรคปากนกกระจอก
17. กระเทียมช่วยขับปัสสาวะ แก้โรคขัดเบาได้
18. กระเทียมเป็นสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เสริมสร้างพละกำลัง และควบคุมฮอร์โมนเพศ
19. กระเทียมช่วยลดอาการนอนกรนเสียงดังได้ เนื่องจากความร้อนในร่างกายทำให้จมูกโล่ง
20. กระเทียมช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ทำให้คอโล่ง เยียวยาอาการคอแดง คออักเสบ
21. กระเทียมมีกลิ่นฉุนช่วยไล่ยุงได้
22. กระเทียมช่วยลดความดันได้
23. กระเทียมช่วยบำรุงผม โดยกระเทียมช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ยาวเร็ว ทำให้สีผมดำ แก้ปัญหาผมบาง
24. กระเทียมป้องกันไขัหวัดได้ รวมถึงช่วยรักษาโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ได้
25. กระเทียมบรรเทาอาการหืด หอบได้
รักษาสิวด้วยกระเทียม
นอกจากกระเทียมจะเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายแล้ว เนื้อของกระเทียมยังมีข้อดีที่โดดเด่นคือให้ความร้อนที่ช่วยขับลม ขับเสมหะ แก้หวัดได้ดีทีเดียวเชียว ยังไม่หมดเท่านี้เพราะนอกจากจะมีสรรพคุณที่ดีต่อภายในร่างกายแล้ว ยังดีต่อภายนอกด้วย ในด้านของการบำรุงผิว ลดรอยดำ ลดสิวอักเสบ ไม่ต้องบีบสิวให้เมื่อยแค่เอาเนื้อกระเทียมมาพอกบางๆ ทิ้งไว้ 15 นาทีก็สามารถทำให้สิวหัวช้างยุบได้...กระเทียมนี่เด็ดจริงๆ..!! ส่วนวิธีใช้กระเทียมรักษาสิวก็มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. นำกระเทียมมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด ฝานเป็นแผ่นบางแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น โดยทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออก หลังจากนั้นประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดอาการแสบร้อน
2. นำกระเทียมมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด นำไปปั่นหรือบดผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วนำสำลีก้านมาชุบน้ำกระเทียมที่ได้ ทาบางๆ เฉพาะบริเวณที่เป็น ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะแสบน้อยกว่าเนื่องจากกระเทียมถูกเจือจางไปบ้างแล้วด้วยน้ำนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรักษาสิวด้วยกระเทียมนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลดีสำหรับทุกคน เพราะสภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย การรักษาสิวด้วยกระเทียมอาจจะไม่เหมาะสมเพราะจะทำให้ผิวไหม้ได้ ดังนั้นก่อนจะลองใช้กระเทียมรักษาสิวนั้น ควรนำกระเทียมมาทาที่บริเวณท้องแขนเพื่อทดสอบอาการแพ้ก่อน
โทษของกระเทียม...หากทานไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดีแม้สรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียมจะมีมากมาย แต่โทษของกระเทียมก็มีเช่นกัน ในกรณีต่อไปนี้คือ....
1. การรับประทานกระเทียมในปริมาณจะทำให้มีกลิ่นตัวและกลิ่นปาก
2. กระเทียมมีรสเผ็ดร้อน อาจจะทำให้ร้อนใน หรือถ้าทานตอนท้องว่างจะทำให้แสบร้อนกระเพราะอาหารและแน่นท้องได้
3. กระเทียมมีสรรพคุณในการช่วยลดการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดเหลวและแข็งตัวช้าขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้าหรือกำลังรับประทานยาที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์หากจะรับประทานกระเทียมเป็นอาหารเสริม
4. กระเทียมก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ หากรับประทานกระเทียมแล้วมีอาการคัน และผื่นขึ้นตามร่างกายควรหยุดรับประทานแล้วไปพบแพทย์ทันที
5. ผู้ที่เตรียมตัวผ่าตัดไม่ควรรับประทานกระเทียมในปริมาณมากก่อนผ่าตัด
ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากกระเทียม
1. กระเทียมแคปซูล-กระเทียมอัดเม็ด-น้ำมันกระเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกเสริมในการดูแลสุขภาพ เพราะกระเทียมที่เรารับประทานกันโดยทั่วไปมักผ่านความร้อนจากการปรุงอาหารมาแล้วจึงทำให้สารอาหารในกระเทียมลดลงอย่างอย่าง แต่การรับประทานกระเทียมสดสำหรับหลายๆ คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากรสชาติและกลิ่นของกระเทียมนั้นไม่น่าถูกใจมากนัก จึงมีการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกระเทียมขึ้นเพื่อลดเงื่อนไขเรื่องกลิ่นและรสชาตินั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิดนั้นมีคุณค่าคล้ายๆ โดยมีสรรพคุณหลักๆ คือ ลดการแข็งตัวของเลือด ลดคอเลสเตอรอลและไขมัน ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยขับลมป้องกันท้องผูกและฆ่าเชื้อในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย โดยกระเทียมแปรรูปทั้ง 3 ชนิดมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยคือ
กระเทียมแคปซูล เป็นกระเทียมตากแห้งที่บดเป็นผงแล้วนำมาบรรจุแคปซูล
กระเทียมอัดเม็ด เป็นกระเทียมตากแห้งที่บดเป็นผงแล้วนำมาตอกเป็นเม็ด จากนั้นเคลือบด้วยฟิล์ม เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้น
น้ำมันกระเทียม เป็นสารสกัดจากกระเทียมนำมาบรรจุในแคปซูลอ่อนแบบเจลาติน หรือบรรจุขวดก็ได้
แต่การรับประทานกระเทียมเป็นอาหารเสริมนั้นไม่สามารถทดแทนยาแผนปัจจุบันและการรับประทานอาหารแบบปกติได้ ดังนั้นควรรับประทานกระเทียมในปริมาณที่พอเหมาะแล้วรับประทานอาหารอย่างครบ 3 มื้อและหลากหลายทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
2. กระเทียมดอง กระเทียมดองนั้นทำเพื่อถนอมอาหารและยืดอายุการเก็บรักษากระเทียม ลดกลิ่นและรสชาติของกระเทียมให้รับประทานง่ายขึ้น สารอาหารในกระเทียมดองนั้นจะลดลงเล็กน้อยเพราะผ่านการหมักดองมาแล้ว แต่ก็ลดลงไม่มากนั้น แต่ถ้าหากจะรับประทานเพื่อสุขภาพควรรับประทานแบบสดจะดีกว่า เนื่องจากสารอาหารยังอยู่ครบถ้วน
3. สีผึ้งกระเทียม หรือครีมผสมกระเทียม ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน เป็นต้น โดยสามารถทำเองได้โดยบดกระเทียมผสมลงไปในครีมหรือสีผิวแล้วนำมาทาในบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง
กระเทียมแคปซูล...ทานง่าย ให้ประโยชน์สูง
ไม่น่าเชื่อว่า “กระเทียม” จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ถึงขนาดที่ว่านำมาทำเป็นแคปซูลเพื่อกินบำรุงร่างกายกันเลยทีเดียว เพราะกระเทียมแคปซูลสะดวกในการทาน ทานง่าย ช่วยต้านโรคได้สารพัดโรคแล้ว ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายทั้ง ซีลีเนียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส แคลเซียม และธาตุเหล็ก
กระเทียมแคปซูล
วิธีเลือกซื้อกระเทียม
1. เลือกกระเทียมที่ไม่มีเชื้อรา โดยสังเกตที่เปลือกกระเทียมจะไม่มีจุดสีดำๆ หรือน้ำตาล
2. เลือกโดยดูจากลักษณะกระเทียม เปลือกต้องบาง กลีบแน่น ไม่ฝ่อ
3. หากอยากได้กระเทียมที่มีกลิ่นแรงควรเลือกแบบกระเทียมกลีบเล็ก
4. เนื้อกระเทียมเมื่อแกะเปลือกแล้ว ต้องมีสีเหลืองอ่อน สด ผิวเรียบ ไม่มีมีจุดดำ