ไม้เลื้อย

1. ต้นถั่วฝักยาว

เป็นถั่วชนิดหนึ่งที่เป็นไม้เลื้อย ลำต้น เป็นเถาเลื้อย เถาแข็งและเหนียว คล้ายกับถั่วพู แต่มีอายุเพียงปีเดียว หรือฤดูเดียว เถาสีเขียวอ่อน ลำต้นม้วนพันสิ่งยึดเกาะได้ดี ใบเป็นใบประกอบแบบฝ่ามือ มี 3 ใบย่อย รูปสามเหลี่ยมยาว 6 -10 เซนติเมตร ดอก เป็นดอกช่อออกตามซอกใบกลีบดอกสีขาว หรือน้ำเงินอ่อน ฝักเป็นฝักกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 – 1 เซนติเมตร ยาว 20 – 80 เซนติเมตร มีหลายเมล็ด

2.ซุ้มถั่วพู

นิยมนำถั่วพูมาประกอบอาหารประเภทยำหรือกินสด ถั่วพูเป็นผักที่เสียเร็ว เหี่ยวง่ายและเกิดสีน้ำตาลเร็ว เก็บได้ไม่นาน คุณค่าทางอาหาร ถั่วพูมีคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน ไขมัน แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี อี บี1 บี2 ไนอะซิน สรรพคุณทางยาบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดเมื่อย แก้ตัวร้อน ลดไข้

3.ต้นดอกขจร หรือ ดอกสลิด

ต้นขจร หรือ ต้นสลิด มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและอินเดีย โดยจัดเป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันกับต้นไม้ชนิดอื่น สามารถเลื้อยพันไปได้ไกลประมาณ 2-5 เมตร เถามีขนาดเล็ก ลักษณะกลมเหนียวมากและเป็นสีเขียว เมื่อแก่เถาขจรจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตามยอดอ่อนมีขนสีขาวขึ้นปกคลุม แตกใบเป็นพุ่มแน่นและทึบ ทำให้บางครั้งพุ่มของของต้นขจรจะแผ่ปกคลุมต้นไม้อื่นได้มิดเลยทีเดียว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำและวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

4. ต้นคอนสวรรค์

“ต้นคอนสวรรค์ ” มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เข็มแดง แข้งสิงห์ ดาวนายร้อย พันสวรรค์ สนก้างปลา มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเขตร้อน จัดเป็นพรรณไม้เลื้อยล้มลุก ลำต้นเลื้อยพันกัน มีอายุเพียง 1 ปี เมื่อออกดอกแล้วต้นก็จะแห้งเหี่ยวไปเอง ดอกมีลักษณะเป็นช่อรูปดาว ออกดอกตามง่ามใบให้สีสันสวยงามทั้ง แดง ชมพู และขาว

5. ต้นพวงแสด

ซุ้มพวงแสด เพิ่มเสนห์สวนสวย ดอกสีส้มอมเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนงตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อละ 10-30 รูปเข็ม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว 3-6 เซนติเมตร ปลายแยก 5 กลีบ รูปแถบยาว และม้วนงอ ไปด้านหลัง มีขนละเอียด ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ออกดอกช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม

6.ต้นพวงชมพู หรือ ชมพูพวง

เป็นไม้เลื้อยดอกสีชมพูหรือขาวมีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก จัดเป็นพืชรุกรานในฟลอริดา พวงชมพูเป็นไม้เลื้อยโตเร็ว ใบเป็นรูปหัวใจหรือสามเหลี่ยม ดอกเป็นดอกช่อ นอกจากสีมพูแล้ว ยังมีสีขาวอีกด้วย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ชมพูพวง (กรุงเทพฯ), หงอนนาก (ปัตตานี), พวงนาก (ภาคกลาง)

7.เล็บมือนาง

มีชื่ออังกฤษว่า Rangoon creeper เป็นไม้เลื้อยดอกหอมเป็นช่อ พบในแถบเอเชีย เป็นพืชไม้เลื้อย เถาแก่เป็นไม้เนื้อแข็ง ใบเดี่ยวรูปวีหรือรูปไข่ปลายแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ดอกมีลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ 4 นิ้ว ตรงปลายดอกจะแยกออกเป็น 5 กลีบ ดอกมีสีแดงอมขาว หรือสีชมพู หลอดของดอกจะโค้งเล็กน้อย และจะมีเกสรยาว ๆ ยื่นออกมาจากกลางดอก 5 อัน เป็นช่อสีขาว แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีชมพู มีกลิ่นหอม ผลสีน้ำตาลแดงเป็นมัน มี 5 พู

8. ต้นใบระบาด

มีชื่อพื้นเมืองเช่น ผักบุ้งเงิน ผักระบาด หรือ เมืองมอน เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ในวงศ์ผักบุ้ง ลำต้นสีเขียว เลื้อยพันได้ ใบสีเขียวเทา ใต้ใบและผิวนอกของกลีบดอกมีขนสีขาวแกมเงิน วงกลีบดอกรูปหลอด ภายในสีชมพูอมม่วงอ่อน ผลเป็นแบบกระเปาะมีกลีบเลี้ยงติด เป็นไม้พื้นเมืองของอินเดียมีชื่อในภาษาสันสกฤตว่า विधारा (Vidhara) มีการกระจายพันธุ์ไปทั่วโลก รวมทั้งในฮาวายและประเทศแถบทะเลแคริบเบียน พบมากที่ฮาวาย

9. ต้นม่านบาหลี

ต้น ม่านบาหลี ไม้เลื้อยที่เด่นด้วยรากอากาศ นิยมเลี้ยงเป็นไม้ประดับซุ้มเพื่อให้ความร่มรื่น และสดชื่น ม่านบาหลีมีใบสีเขียวเข้ม รากอากาศเมื่อแตกใหม่จะมีสีชมพู แต่เมื่อแก่แล้วจะเป็นสีน้ำตาล หากรากอากาศย้อยถึงดินหรือแหล่งน้ำปลายรากจะเกิดรากฝอย มีการดูดน้ำและอาหารได้

10. ต้นลดาวัลย์

ไม้เลื้อยขนาดเล็ก เป็นพันธุ์ไม้หอมเลื้อยที่การเจริญเติบโตไม่รวดเร็ว น้ำหนักต้นไม่มาก เหมาะที่จะทำเป็นไม้ขึ้นซุ้มที่นั่งพักผ่อน

11.ต้นสร้อยอินทนิล

ไม้เลื้อยที่มีดอกสีม่วงอ่อนๆ เลื้อยได้ไกลถึง 15-20 เมตรเลยทีเดียว ปลูกได้ในดินทั่วไปเจริญเติบโตได้เร็ว ชอบความชื้น มักจะทำเป็นซุ้มหลังคาโรงรถ หลังคาระเบียงบ้าน

12.ต้นมาลัยทอง

ไม้เลื้อยดอกเป็นช่อสีเหลืองทองสดใส ห้อยย้อยดูแล้วเหมือนม่านมาลัยสีทอง ชอบแดดออกดอกตลอดปี นิยมทำเป็นซุ้มไม้เลื้อยในสวนและหน้าบ้าน

13. ต้นการเวก

ไม้เลื้อยกลิ่นหอมดอกสีเหลืองที่ใครที่กลิ่นก็ต้องตกหลุมรัก นิยมปลูกทำซุ้มหลังคาหน้าบ้านและในสวน

14.พวงโกเมน

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ออกดอกสีแสดเป็นช่อตามลำต้นเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 20-25 เมตร พวงโกเมนจะออกดอกในช่วงฤดูฝน เหมาะสำหรับปลูกทำซุ้มประตู

15 ต้นบานบุรีเหลือง

เป็นพรรณไม้พุ่มกึ่งเลื้อยมีดอกสีเหลือง 5 กลีบ ลำต้นกลมเรียบ สูงประมาณ 2 – 4.5 เมตร ขึ้นกลางแจ้งชอบแสงแดดจัด ชอบน้ำปานกลาง

16.มาลัยทอง

ไม้เลื้อยขนาดกลาง มีมือเกาะและกิ่งก้านเป็นเหลี่ยม ใบเกลี้ยงสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อย่อย กลีบดอกสีเหลืองเชื่อมติดกันเป็นหลอด มีขนปกคลุม เมื่อนำมาปลูกเลี้ยงจะออกดอกเป็นระยะตลอดปี แต่ในธรรมชาติออกเดือนสิงหาคมถึงกันยายน มีสีสันสดใสสะดุดตา นิยมปลูกไว้หน้าบ้าน หรือทำซุ้มไม้เลื้อยในสวน หรือปลูกในกระถางแขวนไว้กับต้นไม้ใหญ่

17.จันทร์กระจ่างฟ้า

พรรณไม้เลื้อยลำต้นอ่อน ใบกว้างสีเขียวสด ออกดอกตลอดปี ดอกสีเหลืองสดคล้ายแตร กลีบดอกสีเหลืองอมเขียว เหมาะกับการทำซุ้มกันแดดในสวนหรือจะตัดแต่งให้เป็นทรงพุ่ม ปลูกลงในกระถางที่มีโครงเหล็กครอบไว้ เพื่อจัดทิศทางให้ต้นไม้เลื้อยขึ้นไปด้านบนเพื่อทำซุ้มหรือม่านกันแดดที่ระเบียง

18.พวงประดิษฐ์

หรือ “ต้นเครือออน” ไม้เลื้อยขนาดใหญ่ เลื้อยพันต้นไม้ต้นอื่นได้ไกลถึง 10-15 เมตร ปลายกิ่งทอดห้อยลง ตามลำต้นและกิ่งก้านมีขนละเอียดสีขาวขึ้นหนาแน่น ออกดอกช่อย่อยเป็นกระจุก มีใบประดับสีม่วงอมชมพู ดอกย่อยเป็นสีขาวขนาดเล็ก หลุดร่วงได้ง่าย กลีบดอกส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับรั้วบ้าน และปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยเพื่อให้ร่มเงา และเพิ่มบรรยากาศในสวน

19.หิรัญญิการ์

เป็นไม้เถาขนาดใหญ่เนื้อแข็ง ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเนปาล มักเลื้อยเกาะพันต้นไม้อื่นและสามารถเลื้อยไปได้ไกล แตกกิ่งก้านสาขาแผ่เป็นพุ่มแน่น นิยมปลูกต้นหิรัญญิการ์เป็นไม้ประดับกันมาก สามารถปลูกเพื่อประดับเป็นซุ้มกลางแจ้งได้ดี โดยนิยมนำมาปลูกประดับอาคารสถานที่ สวน และสนามต่าง ๆ บริเวณที่ปลูกควรได้รับแสงแดดแบบเต็มวัน เพราะการปลูกในที่มีแสงแดดน้อยจะทำให้ต้นไม่แข็งแรง ส่วนซุ้มที่ให้ยึดเกาะก็ต้องมีขนาดใหญ่และแข็งแรง

ดอกของหิรัญญิการ์เป็นดอกขนาดใหญ่ สีขาว ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกมีลักษณะคล้ายถ้วย ตอนปลายของดอกจะบานกว้างมี 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ติดอยู่กับเนื้อบริเวณโคนกลีบ มีลักษณะเป็นเส้นยาว แยกออกจากกัน คือจะมีเกสรติดอยู่กลีบละ 1 อัน ในแต่ละดอกมีเกสรตัวผู้อยู่ 5 อัน ส่วนเกสรตัวเมียจะมีลักษณะเป็นแท่งขนาดเล็กซ่อนอยู่ข้างในดอก ช่อดอกหนึ่ง ๆ จะมีดอกตั้งแต่ 6-15 ดอก ดอกจะผลัดกันบานครั้งละประมาณ 4 ดอก

20.ดอกชมนาด

ดอกชมนาด หรือ ชำมะนาด จัดอยู่ในพวกไม้เถาขนาดกลาง สามารถแผ่ขยาดได้ถึง 6-8เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่แกมรี ปลายแหล่ม โคนมน สีเขียว มีกลิ่นหอมเหมือนใบเตย ซึ่งคล้ายกลิ่นข้าวใหม่ทำให้ได้ชื่อว่า ข้าวใหม่ เป็นไม้ที่ชอบแดดจัดต้องการรับแสงแดดเต็มวัน ชอบดินร่วนซุยที่สามารถ ระบายน้ำได้ดี การใช้ประโยชน์ เป็นไม้ที่ดอกมีกลิ่นหอม ใช้ทำน้ำอบ ข้าวแช่

ออกดอกปีละครั้ง ช่วงฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) มีกลิ่นหอมแรง และนานทนอยู่หลายวัน กลิ่นหอมแรงเป็นพิเศษช่วงหัวค่ำ กลิ่นหอมของชมนาดคล้ายกับ กลิ่นใบข้าวอ่อน หรือข้าวหอมหุงใหม่ๆ บางคนว่าเหมือนกลิ่นมะพร้าว น้ำหอม หรือน้ำต้มใบเตยหอม เป็นต้น

21.พุทธชาดก้านแดง หรือ มะลิก้านแดง

ไม้เลื้อยในตะกูลเดียวกับมะลิ เข้ามาในเมืองไทยยาวนานแล้ว โดยเจ้านายและชนชั้นสูงนำเข้ามาปลูก พุทธชาดก้านแดงไม่กึ่งเลื้อยที่ก้านดอกมีสีแดง เลยเรียกกันตามลักษณะของดอก

ดอกมีสีขาวบริสุทธ์กลิ่นหอมชื่นใจรุ่นแรงมาก เริ่มส่งกลิ่นตั้งแต่ยามเย็นไปจนเช้า หอมจัดช่วงกลางดึก สามารถนำดอกมาสกัดน้ำมันหอมและอบเครื่องหอมได้ดีมาก เนื่องจากกลิ่นหอมชื่นใจและมีกลิ่นแรง เก็บมาฝากยามเย็นค่ะ สำหรับตามตลาดต้นไม้จะหายากซักหน่อยไม่ค่อยเห็นมีขาย

กุมาริกา

ไก่แดง

ขจร

ตีนตุ๊กแก

ขมนาด

ดีปรี

พลูด่าง

โนรา

พวงแก้ว

พวงทองเครือ

พวงแส

พวงชมพู

กระดังงา

อัญชัน

พุดธชาดก้านแดง

เฟื่องฟ้า

มอนิ่งกลอรี่(ผักบุ้งฝรั่ง)

มะลอพวง

มะลิวัลย์

มะลอไส้ไก่

ม่านบาหลี

แย้มปีนัง

ราตรี

ลดาวัลย์

เล็บมือนาง

สนก้างปลา

อรพิมพ์

สร้อยอินทนิล

เคราฤาษี

โปร่งฟ้า

สายน้ำผึ้ง