Acne aestivalis
Acne aestivalis
หรือ Acne estivalis หรือ Mallorca acne
สิวผด
สาเหตุ
จริงๆไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าอาจสัมพันธ์กับ เชื้อราหรือที่เราเรียกว่ายีสต์ (P.Ovale)
สาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการรบกวนใบหน้า ขัดถู เช็ดหน้าแรงๆ ความร้อน แสงแดด เครียด เครื่องสำอาจบางประเภท
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน จะพบสิวชนิดนี้มากกว่าคนทั่วๆไปและมักรักษาไม่หายขาด
ลักษณะของสิวผด { Multiple , uniform, red, popular lesion }
จัด เป็นสิวที่มีรูปแบบเฉพาะคือ จะเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ จำนวนมาก ดูคล้ายผดผื่นเล็กๆ เมื่อลูบสัมผัสจะเหมือนคลำได้ตุ่มหนามเล็กๆ มักอยู่เป็นผืนใหญ่ ผิวหน้าดูแดงๆ กระจัดกระจายรูปแบบไม่ชัดเจน มักไม่พบหัวหนองแต่ก็อาจมีได้
ตำแหน่ง ที่พบบ่อยมักเป็นบริเวณที่ถูกแดด หน้าผาก ข้างจมูก
ประวัติ มัก ได้ประวัติว่า ตอนเช้าตื่นนอน ใบหนังยังปกติดีอยู่ ช่วงกลางวัน บ่ายๆ จะเห่อขึ้นมาเป็นผื่นแดงๆมีตุ่มเล็กๆกระจายตัวอยู่ อาจมีอาการคัน นอกจากนี้อาจได้ประวัติตากแดด หรือ ชอบเป็นในวันที่มีอากาศร้อนจัด เป็นสิวที่ขึ้นได้ง่ายและขึ้นเร็ว และหายเร็วเช่นกัน อาการมักเป็นซ้ำขึ้นบ่อยๆ พบได้บ่อยในคนไทย หากรักษาหรือดูแลไม่ถูกต้องอาจเป็นมากขึ้น
การรักษา
ทั่วไปปกติรักษาไม่ยาก เนื่องจากเป็นเร็วหายเร็ว แต่ต้องดูแลผิวให้ดี
ขั้นแรกดูแลรักษาเรื่องทั่วๆไปก่อน
การรบกวนหน้าต้องให้น้อยที่สุด
งดใช้เครื่องสำอาง ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงแสงแดด เหงื่อ
ระวัง ความมันความชื้น ไม่ให้เจอฝุ่นละออก
โดยการใช้ยา
ยาที่แนะนำ
1.Pimecrolimus(Elidel®) ยาตัวใหม่ ไม่ใช่สเตียรอยด์
ช่วยลดอาการผื่นสะเก็ดเงินหรือสิวผดลงได้เป็นอย่างดี ใช้ระยะยาวได้
2.Tacrolimus(Protopic®) 0.03%, 0.01% เริ่มขนาดต่ำก่อน
ยาอื่นๆ
1.Betamethazone หรือ clebethasol ทาใช้รักษาได้ดีในช่วงสั้นๆ แต่ระยะยาวจะดื้อและเกิดภาะแทรกซ้อน เช่นผิวบางแตก เส้นเลือดฝอยขยาย หรืออาจเป็นสิวจากสเตียรอยด์
2.Ketoconazole cream ปลอดภัย ได้ผลดี มักให้ในสูตรที่ผสม linoleic ด้วยซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบได้ด้วย
ส่วนยารับประทาน สมัยก่อนมีใช้กันมากแต่ปัจจุบันใช้น้อยลง เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดตับอักเสบ จึงต้องระวังในการใช้
3.Selenium sulfide ทาแล้วล้างออกหรือแบบแชมพู แต่ระวังเรื่องผิวแห้ง ซื่งอาจใช้ 2% selenium sulfide แบบทาแล้วล้างออกจะช่วยได้
4.Moiturizer แบบเข้มข้น ได้ผลในบางราย ทำให้อาการดีขึ้นได้
5.ยาก ลุ่มลอกผิวหนังกำพร้า AHA,BHA,PHA ได้ผลดีพอควร แต่ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นได้เพราะยาอาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ยาได้ ง่าย ควรพิจารณาให้ดีก่อนใช้
6.แสงบางช่วงคลื่น เช่น Excirmer laser, Excirmer light, UVB สามารถรักษาผลได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อห้ามและข้อควรระวัง
1.Mechanical irritation : รบกวนผิวหน้าให้น้อยที่สุด เช่น งดการนวดหน้า ขัดหน้า เช็ดถูหน้าบ่อยหรือแรงๆ เป็นต้น ห้ามกดสิว แงะแกะเกาสิว
2.Chemical irritation : งดหรือเลี่ยงสารเคมีหรือยาครีมที่ทำให้เกิดการระคายเคือง หน้าขาวใส เช่น BP, retinoic acid , AHA, BHA, Salicylic acid เป็นต้น
4.ไม่ใช้สบู่หรือน้ำอุ่นล้างหน้า ไม่ควรล้างเกิน 2-3 ครั้งต่อวัน
5.หลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 15-30 ขึ้นไป และมีค่า PA++ เป็นอย่างน้อย
6.การทำเลเซอร์แบบอื่นที่ไม่ใช่รักษาสิวผดโดยตรงดังกล่าวข้างต้น
การเลือกการรักษา
ขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์ ความพร้อมเครื่องมือของสถานที่ให้การรักษา
Ref.
http://www.route035.com/webboard/index.php?topic=193.0
http://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=3&sdata=&col_id=242