เรื่องที่ 1.2

พระกีสาโคตรมีเถรี

ที่มา : https://th-th.facebook.com/491812030909593/photos/พระกีสาโคตมีเถรีบ้านไหนไม่มีคนตายบ้างพระกีสาโคตมีเถรี-เมื่อบวชเป็นภิกษุณีแล้วได้/707225482701579/

เรื่องที่ 1.2 พระกีสาโคตมีเถรี

พระกีสาโคตมีเถรี หรือพระกีสาโคตมี เกิดในวรรณะเพศย์ มีชื่อ เดิมว่า “โคตรมี” แต่เพราะมีร่างกายผ่ายผอมหลายคนจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “กีสาโคตมี”แปลว่า “นางโคตมีผอม” เดิมเคยมีอดีตเป็นถึงธิดาของมหาเศรษฐีแห่งเมือง สาวัตถีแต่ต่อมาเกิดประสบวิกฤตการณ์บางอย่างทําให้กลายมาเป็นคนจนอย่างไร ก็ตามท่านยังถือว่ามีบุญอยู่มากเพระท่านได้แต่งงานกับบุตรของมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่ง สุดท้ายหลังการเสียชีวิตของบุตรของท่านทําให้ท่านมีความเศร้าโศก เสียใจมาก จนมาได้พบพระพุทธเจ้าและทรงใช้อุบายแก้ความทุกข์ใจของท่านจน เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา พระกีสาโคตมีเถรี เมื่อบวชเป็นภิกษุณีแล้ว ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้ท่านเป็น พระภิกษุณีผู้เอตทัคคะผู้เลิศกว่าภิกษุณีอื่นในด้านผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง

พระกีสาโคตมีเถรี เดิมเป็นบุตรีแห่งเศรษฐีตระกูลหนึ่งในเมืองสาวัตถี ซึ่งต่อมาประสบเคราะห์ กรรมคือเงินและทองกลายเป็นถ่าน แต่เมื่อนางกีสาโคตมีมาแตะถ่านเหล่านั้นถ่านก็กลับกลายเป็นเงินและทองอย่าง เดิม เศรษฐีจึงสู่ขอท่านมาเป็นลูกสะใภ้ แต่ก็ไม่วายที่จะถูกคนเหล่านั้นเหยียดหยามว่ามาจากตระกูลคน ยากจน ต่อมานางจึงให้กําเนิดบุตร แต่บุตรนั้นก็ได้ตายจากไป เมื่ออายุเพียง 3 ขวบ การตายของบุตรจึงทําให้นาง ตกอยู่ในความทุกข์อย่างหนัก ถึงขนาดอุ้มศพลูกไปทุกหนทุกแห่ง จนกระทั่งมาพบพระพุทธเจ้าขณะประทับ อยู่ ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี

ที่มา : Page วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร 

พระพุทธองค์ทรงแนะอุบายคลายความทุกข์โดยการให้นางไปเสาะหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตาย ปรากฏว่านางต้องผิดหวังเพราะทุกบ้านนั้นก็ล้วนแต่มีคนตายทั้งสิ้น ในที่สุดนางจึงได้ ข้อสรุปว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมดาของคนหรือสิ่งมีชีวิต ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ตาย การตายของบุตรคน จึงเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งของชีวิต ครั้นคิดได้แล้วนางจึงสําเร็จเป็นพระโสดาบันบุคคลทั้งที่ยังไม่ได้บวช

เมื่อเป็นพระโสดาบันเล้วพระพุทธองค์ทรงมอบหมายให้ภิกษุและภิกษุณีทําการอุปสมบท เมื่อทําการ อุปสมบทแล้วท่านก็บําเพ็ญจิตภาวนา โดยพิจารณาจากเปลวเทียนในอุโบสถจนได้บรรลุอรหัตผล ท่านได้รับการยกย่อง จากองค์พระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะทางด้านทรงจีวรศร้าหมองยิ่งกว่าภิกษุณีรูปใดในพระพุทธศาสนา

คุณธรรมที่ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง

1. นางกิสาโคตรมีเป็นบุคคลที่มีสติปัญญาอยู่ในระดับอุดมฏิตัญญสามารถเรียนรู้ได้เร็ว ไม่ต้องพูดมาก สอนมาก เพราะพร้อมที่จะรู้อยู่แล้ว

2. นางกีสาโคตรมีเป็นบุคคลที่มีอุปนิสัยประเภทพุทธิจริต คือ ชอบใช้ความรู้และความคิดเชื่อใครยาก ชอบถาม ชอบค้าน ชอบสิ่งที่มีเหตุผล

3. นางกีสาโคตรมีเป็นผู้ที่ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา ขณะที่มาพบพระพุทธเจ้านั้นนางไม่มีความพร้อม ที่จะรับฟังพระธรรมเทศนาเพราะมืดมัวด้วยอวิชชา จิตใจระส่ำระสายเป็นทุกข์ เมื่อนางมีสติก็สามารถใช้ ปัญญาแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด