การพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
ความหมาย คุณค่า และความสำคัญของสมรรถภาพทางกาย
ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
•ความสามารถของระบบต่างๆ ของร่างกายในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
•บุคคลที่มีสมรรถภาพทางกายที่ดี จะสามารถประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างกระฉับกระเฉง
โดยไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป
คุณค่าและความสำคัญของสมรรถภาพทางกาย
1. การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเต็มที่
2. ผู้ที่มีสมรรถภาพทางกายดีจะช่วยให้มีบุคลิกภาพดี สามารถเคลื่อนไหวหรือเดินได้ด้วยความสง่างาม คล่องแคล่ว และกระฉับกระเฉง
3. ผู้ที่มีสมรรถภาพทางกายดีจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี การประกอบกิจการงานต่างๆ จะมีประสิทธิภาพและได้ผลผลิตที่สูง
4. กล้ามเนื้อหลังตอนล่างมีความสำคัญในการป้องกันโรคปวดหลัง ถ้าได้ออกกำลังกายตั้งแต่วัยเด็ก จะช่วย
เสริมสร้างความแข็งแรงแก่ร่างกาย และป้องกันอาการปวดหลังเมื่อมีอายุมากขึ้นได้
5. การออกกำลังกายเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกาย เป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่งในการควบคุมน้ำหนักตัว
6. การออกกำลังกายเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายเป็นการป้องกันโรคหัวใจวายได้อย่างมีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง
7. การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิต
เกณฑ์สมรรถภาพทางกาย
องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกาย
1. พลังหรือกำลังของกล้ามเนื้อ (Muscular Power)
2.ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscular Strength)
3. ความอดทน (Endurance)
4. ความเร็ว (Speed)
5. ความคล่องตัว (Agility)
6. ความอ่อนตัว (Flexibility)
7. ความสมดุลหรือการทรงตัว (Balance)
8. การประสานสัมพันธ์ (Coordination)
9. เวลาปฏิกิริยาตอบสนอง (Reaction Time)
การพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
ด้านสภาพร่างกาย
โดยพิจารณาว่าขณะนี้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงมากน้อยเพียงใด
ด้านอารมณ์และจิตใจ
โดยพิจารณาความมีระเบียบวินัยในตนเอง ความเชื่อมั่น แรงจูงใจ ความพร้อม และการตัดสินใจเพื่อการพัฒนา
ด้านสังคม
เป็นความสัมพันธ์และการสื่อสารกับผู้อื่นที่ดำเนินไปได้ด้วยดี
การวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย
เราวิเคราะห์เพื่อใช้ในการกำหนดทิศทางการปรับปรุงและพัฒนาพฤติกรรมตนเองให้ดีขึ้น
การกำหนดปัญหาและพฤติกรรมสุขภาพเป้าหมาย
ปัญหา
พฤติกรรมสุขภาพเป้าหมาย
1. เลือกกิจกรรมการออกกำลังกายเบาๆ และตามความถนัด
2. เลือกออกกำลังกายตอนเย็น
1. ไม่ชอบออกกำลังกาย/เมื่อยล้า
2. ไม่มีเวลาออกกำลังกายตอนเช้า
3. ต้องการเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียง
3. หมั่นฝึกซ้อมกีฬาตามความถนัดและความสามารถอย่างสม่ำเสมอ
การเลือกเทคนิควิธีและการวางแผนปรับปรุงตนเอง
1. การเลือกเทคนิควิธีการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
•ควรเลือกวิธีการที่ง่ายและสามารถปฏิบัติได้
•อาจเลือกใช้วิธีเดียวหรือหลายวิธีประกอบกันก็ได้
2. การวางแผนปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
•กำหนดตารางเวลาการออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ
•จัดเตรียมสภาพแวดล้อมและสถานที่ให้เหมาะสม
•กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย รวมถึงการประเมินอย่างชัดเจน
•ขจัดปัญหาหรืออุปสรรคของการพัฒนา
•ชวนบุคคลอื่นเข้ามาร่วมกิจกรรม
การฝึก
1.หลักการฝึกเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
1.1) ความถี่ของการฝึก
ควรมีการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๓-๕ วัน วันละไม่น้อยกว่า ๓๐ นาที
1.2) ความเข้มของการฝึก
การฝึกควรจะหนักพอสมควร โดยยึดถือจากอัตราการเต้นของหัวใจเป็นหลัก ซึ่งควรอยู่ระหว่างร้อยละ ๖๐-๙๐ ของ อัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ
1.3) ระยะเวลาการฝึก
เมื่ออบอุ่นร่างกายแล้ว ควรใช้เวลาระหว่าง ๑๕-๖๐ นาที/วันซึ่งจะเป็นการพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่ดี
1.4) รูปแบบของการออกกำลังกาย
โดยทั่วไปการออกกำลังกายจะต้องคำนึงถึงการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ ความต่อเนื่องของกิจกรรม ความเป็นจังหวะ และการใช้ ออกซิเจนแบบธรรมชาติ
2.ประเภทของการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
2.1) เพื่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
เช่น การดันพื้น การนอนยกตัวขึ้นแล้วนับจำนวนครั้งที่ได้ภายในเวลา ๑ นาที ควรฝึกอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๓ วันนาน ๖-๘ สัปดาห์ จึงจะเห็นผล
2.2) เพื่อความอดทนของกล้ามเนื้อ ระบบหายใจ และระบบไหลเวียนโลหิต
เช่น การวิ่งระยะไม่เกิน ๑,๐๐๐ เมตร สำหรับชาย และ ๘๐๐ เมตร สำหรับหญิง การวิ่งจ็อกกิง (Jogging) โดยวิ่งในระดับ ความเร็วเท่ากันทุกระยะ
2.3) เพื่อความอ่อนตัวของร่างกาย
เช่น การยืดกล้ามเนื้อในท่าต่างๆ การฝึกกายบริหารที่มีการเคลื่อนที่หรือหมุนข้อต่อในร่างกาย
2.4) เพื่อความเร็ว
เช่น การวิ่งเร็ว ๕๐ เมตร การวิ่งเร็ว ๑๐๐ เมตร เป็นต้น
2.5) เพื่อพลังกล้ามเนื้อ
เช่น ยืนกระโดดไกล ยืนกระโดดสูง เป็นต้น
2.6) เพื่อความคล่องตัว
เช่น การวิ่งซิกแซ็ก เป็นต้น
การประเมินผลและการปรับปรุงพัฒนาตนเอง
การเลือกเทคนิควิธีการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
การเรียนรู้ด้วยตนเอง
การเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก
การเรียนรู้จากครู เพื่อน ผู้เชี่ยวชาญ
การเรียนรู้โดยการเลียนแบบจากบุคคลต้นแบบ