สิทธิพื้นฐานและบทบาทของผู้บริโภค
สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค
•รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 61 ได้บัญญัติไว้ว่า
“สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับการคุ้มครองในการได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง และมีสิทธิร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค”
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541
ได้บัญญัติสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไว้ 5 ประการ
บทบาทของผู้บริโภคในการปกป้องสิทธิของตน
1.มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการ
2.มีความรู้แ ละเข้าใจถึงสิทธิผู้บริโภคที่บัญญัติไว้ในกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
3.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภค รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการแก่บุคคลอื่นๆ เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิผู้บริโภค และฉลาดในการเลือกซื้อสินค้าและบริการอย่างถูกต้อง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจาก ผู้ประกอบธุรกิจ
ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ ผู้บริโภคต้องตรวจดูฉลากของสินค้า เช่น วันหมดอายุ วันเดือนปีที่ผลิต เป็นต้น หากพบว่าสินค้าหรือบริการขาดคุณภาพควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากผู้บริโภคพบว่ามีการละเมิดสิทธิผู้บริโภคหรือถูกเอารัดเอาเปรียบโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ประกอบการ ผู้บริโภคสามารถดำเนินการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาได้
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
การที่รัฐตรากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นมา มีวัตถุประสงค์สำคัญอยู่ 3 ประการ
เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัย
เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม
เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความประหยัด
กฎหมายที่มีบทบาทเกี่ยวข้องอย่างมากกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
ตัวอย่าง พระราชบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติฉบับนี้เน้นการควบคุมกิจการเกี่ยวกับการผลิตยา การขายยา การนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร
ตลอดจนการควบคุมให้มีเภสัชกรรับผิดชอบเกี่ยวกับการขายยาอันตราย
ตัวอย่างบางมาตรา
มาตรา 12 : ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่ ได้รับใบอนุญาต จากผู้อนุญาต การขออนุญาต และการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 32 :ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ในระหว่างที่เภสัชกร หรือ ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
พระราชบัญญัตินี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การผลิตและจำหน่ายอาหาร ได้คุณภาพและมาตรฐาน สร้างความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ตัวอย่างบางมาตรา
มาตรา 26 : อาหารที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์
(1) อาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ด้วย
(2) อาหารที่มีสารหรือวัตถุเคมีเจือปนอยู่ในอัตราที่อาจเป็นเหตุให้คุณภาพของอาหารนั้นลดลงเว้นแต่
การเจือปนเป็นการจำเป็นต่อกรรมวิธีผลิต การผลิต และได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว
(3) อาหารที่ได้ผลิต บรรจุหรือเก็บรักษาไว้โดยไม่ถูกสุขลักษณะ
(4) อาหารที่ผลิตจากสัตว์ที่เป็นโรคอันอาจติดต่อถึงคนได้
(5) อาหารที่มีภาชนะบรรจุประกอบด้วยวัตถุที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพ
พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2530
พระราชบัญญัตินี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกำกับดูแลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่จำหน่ายในประเทศให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
ตัวอย่างบางมาตรา
มาตรา 33 : เครื่องสำอางที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดในต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย ในการใช้
(1) เครื่องสำอางที่มีสารที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้เจือปนอยู่ด้วย
(2) เครื่องสำอางที่มีวัตถุที่ห้ามใช้ตามมาตรา 5 (4) กำหนดชื่อวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมใน การผลิตเครื่องสำอาง
(3) เครื่องสำอางที่ผลิตหรือใช้ภาชนะบรรจุไม่ถูกสุขลักษณะอันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
(4) เครื่องสำอางที่มีสารอันสลายตัวทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ภายหลังที่บรรจุภาชนะแล้ว และทำให้ เกิดเป็นพิษอันอาจเป็น อันตรายต่อผู้ใช้
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
พระราชบัญญัติฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ โดยมีหน่วยงานของรัฐ คือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ตัวอย่างบางมาตรา
มาตรา 10 : ได้กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1)พิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ
(2)ดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคตามมาตรา 36
(3)แจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้บริโภคในการนี้จะ ระบุชื่อสินค้าหรือบริการ หรือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจด้วยก็ได้
(4) ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการเฉพาะเรื่อง และพิจารณาวินิจฉัยการอุทธรณ์ คำสั่งของ คณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
(5) วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องและคณะอนุกรรมการ
(6)สอดส่องเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐให้ปฏิบัติการตามอำนาจ และหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
(7) ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคที่คณะกรรมการเห็นสมควรหรือมีผู้ร้องขอตามมาตรา 39
(8) รับรองสมาคมตามมาตรา 40
(9)เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภค และพิจารณาให้ความเห็นในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคตามที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมอบหมาย
(๑๐)ปฏิบัติการอื่นใดตามที่มีกฎหมายกำหนดให้ไว้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการในการปฏิบัติ หน้าที่ตามมาตรานี้คณะ กรรมการอาจมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็น ผู้ปฏิบัติการหรือเตรียมข้อเสนอมายังคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
หน่วยงานดูแลคุ้มครองผู้บริโภค
หน่วยงานภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดอย่างโปร่งใส เป็นธรรม
บทบาทหน้าที่
•พิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย อันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือได้รับอันตรายจากสินค้าหรือบริการใด
•ดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค โดยติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจที่กระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
•สนับสนุน หรือทำการศึกษาและวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคได้ตรงกับปัญหาและความต้องการ
•ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในทุกระดับการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและอันตรายที่อาจได้รับจากสินค้าหรือบริการ ซึ่งผู้บริโภคควรจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึงปัญหา ตลอดจนรู้วิธีการป้องกันหรือหลีกเลี่ยง
•ดำเนินการเผยแพร่วิชาการโดยการให้ความรู้และการศึกษาแก่ผู้บริโภคทั้งทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เอกสารบทความ ข่าวสารต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้พื้นฐานในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางในการดำเนินชีวิตประจำวัน
•ประสานงานกับส่วนงานราชการหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุม ส่งเสริม หรือ กำหนดมาตรฐานของสินค้าหรือบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค
•ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมายที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การแจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้บริโภค
•ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ที่คณะกรรมการเห็นสมควรหรือมีผู้ร้องขอและเห็นว่าการดำเนินคดีนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคโดยรวม
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
เป็นองค์กรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขด้านการปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมสุขภาพประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัยและ สมประโยชน์
บทบาทหน้าที่
•ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุอันตราย วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ยาเสพติดให้โทษเครื่องมือแพทย์ การป้องกันการใช้สารระเหยและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
•พัฒนาระบบและกลไก เพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ
•เฝ้าระวังกำกับและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สถานประกอบการและการโฆษณา รวมทั้งผลอันไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์
•ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
•ส่งเสริมและพัฒนาผู้บริโภคให้มีศักยภาพในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่า รวมทั้งเพื่อให้ผู้บริโภคนั้นมีการร้องเรียน เพื่อปกป้องสิทธิของตนได้
•พัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายประชาคมสุขภาพ
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
เป็นหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองดูแลผู้บริโภค ในการกำกับดูแลให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าและบริการ ในราคาที่เป็นธรรมและได้ปริมาณหรือคุณค่าเหมาะสมกับจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายไป อีกทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้บริโภคเข้ามามีบทบาทในการดูแลรักษาประโยชน์ของตนเอง
มาตรการในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค
•รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับราคา ปริมาณ หรือพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมรวมทั้งสืบสวน สอบสวน และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ ประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืน
•ติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งสอดส่องพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจที่จะมีผลกระทบต่อผู้บริโภค
•ศึกษา วิเคราะห์ต้นทุนและพิจารณาความเหมาะสมของราคาสินค้าเพื่อมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยไม่มีเหตุอันสมควร
•กำกับดูแลให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย การห้ามกักตุน การห้ามปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มี เหตุผล เป็นต้น
•กำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งลักษณะการซื้อขายที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการทางการค้า
สายด่วนศูนย์รับเรื่องร้องเรียนราคาสินค้า 1569
หน่วยงานภาคเอกชน
(ตัวอย่างของหน่วยงานภาคเอกชน)
หน่วยงานเอกชน
•สมาคมพิทักษ์ประโยชน์ผู้บริโภค
•สมาคมพลังผู้บริโภคแห่งประเทศไทย
•มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.)
•ชมรมมุสลิมคุ้มครองผู้บริโภค
•คณะกรรมการประสานงานสิทธิมนุษยชน (กปส.)
•โครงการทางเลือกเพื่อเกษตรกรและผู้บริโภค
ที่ตั้ง/ที่ติดต่อ
ตั้งอยู่ที่ อาคาร 4 ตึกวังพลเรือเอกกรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
ภายในกรมประชาสงเคราะห์ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ 10100
โทร. 0-2282-7716 โทรสาร 0-2281-2386
ตั้งอยู่ที่ 645/64 ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0-2331-1308 โทรสาร 0-2381-5000-2
ตั้งอยู่ที่ ๔/๒ ซอยวัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0-2288-3737 www. Consumerthai.org
ตั้งอยู่ที่ 439 ถนนลาดพร้าว 112 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10230 โทร.0-2539-4693 โทรสาร 0-2539-4696
ตั้งอยู่ที่ 109 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ10310 โทร. 0-2275-4231-3 โทรสาร 0-2275-4230
ตั้งอยู่ที่ 4183 ตึกรีเจนน์เฮาส์ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330