hasanah page เว็บไซต์สำหรับมุสลิมะห์
– “โอ้ ผู้ห่มกายอยู่! จงลุกขึ้น แล้วประกาศตักเตือน และแด่พระเจ้าของเจ้า จงให้ความเกรียงไกร (ต่อพระองค์) และเสื้อผ้าของเจ้า จงทำให้สะอาด และสิ่งสกปรกก็จงหลบหลีกให้ห่างเสีย และอย่าทำคุณ เพื่อหวังการตอบแทนอันมากมาย และเพื่อพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นจงอดทน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมุดดัซซิร 1-7)
– และแน่นอนผู้ที่อดทนและให้อภัย แท้จริงนั่นคือ ส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่นมั่นคง” (ตัฟซีร: และสำหรับผู้ที่อดทนต่อการทำร้าย และให้อภัยเพื่อพระพักตร์ของอัลลอฮฺ เพราะการอดทนและการให้อภัยนั้น ป็นกิจการที่น่าสรรเสริญ ซึ่งอัลลอฮฺทรงใช้ให้กระทำ) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัชชูรอ 43 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่า
อาหรับ ประเทศไทย)
– “ผู้ใดที่พยายามทำตัวเป็นผู้อดทน อัลลอฮฺจะทำให้เขาสามารถอดทนได้ และผู้ใดที่ไม่ต้องการจะพึ่งพาใคร อัลลอฮฺก็จะให้เขาเพียงพอ และพวกเขาจะไม่ได้รับการให้สิ่งใดที่ดีไปกว่าและสะดวกกว่าการให้มีความอดทน” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 6470, บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 1053)
– “และจงอดทนเถิด และการอดทนของเจ้าจะมีขึ้นไม่ได้ เว้นแต่ด้วย(การเตาฟีกของ) อัลลอฮฺ และอย่าเศร้าโศกต่อพวกเขา และอย่าคับใจในสิ่งที่พวกเขาวางกลอุบาย” คำว่า “เตาฟีก” หมายถึง การได้รับความสำเร็จ (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ 127)
– “พวกเจ้าจงขอความช่วยเหลือ ด้วยการอดทน และละหมาด แท้จริง อัลลอฮฺนั้น ทรงอยู่กับบรรดาผู้อดทน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 153)
– “และจงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์เถิด และจงอย่าขัดแย้งกัน จะทำให้พวกเจ้าย่อท้อ และทำให้ความเข้มแข็งของพวกเจ้าหมดไป และจงอดทนเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอยู่กับผู้ที่อดทนทั้งหลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันฟาล 46)
อดทน..ต่อภัยพิบัติและบททดสอบ การใช้ชีวิต
– “โอ้ ลูกจ๋า เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า (ตัฟซีร: คือจงอดทนต่อความยากลำบาก ความยากแค้น และภัยพิบัติต่างๆ เพราะผู้ที่เรียกร้องไปสู่สัจธรรมนั้นย่อมเผชิญกับการถูกทำร้ายอยู่เสมอ) แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง” (ตัฟซีร: ในกิจการดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากการที่อัลลอฮฺทรงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และทรงใช้ให้กระทำ อิบนฺอับบาสกล่าวว่า ส่วนหนึ่งจากการมีศรัทธาอย่างแท้จริงคือ การอดทนต่อความทุกข์ยาก ความลำบากนานาประการ) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺลุกมาน 17 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริง ความอดทนอยู่ที่ตอนประสบเคราะห์กรรมครั้งแรก” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี)
อดทน..ต่อการฝืนอารมณ์ ข่มใจตนเอง
– “นั่นสำหรับผู้ในหมู่พวกเจ้าที่กลัวการทำชั่ว และการที่พวกเจ้าอดกลั้นไว้ได้นั้น เป็นการดีกว่าสำหรับพวกเจ้า และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิซาอฺ 25)
– “แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้ให้รักษาความยุติธรรมและทำดี (ตัฟซีร: ด้วยการมีมารยาทที่ดีแก่มนุษย์โดยทั่วไป) และการบริจาคแก่ญาติใกล้ชิดและให้ละเว้นจากการทำลามกและการชั่วช้า และการอธรรม (ตัฟซีร: ทั้งคำพูดและการกระทำ) พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจักได้รำลึก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ 90 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
– “และเจ้าจงอย่าทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งที่เราได้ให้ความเพลิดเพลินแก่บุคคลประเภทต่างๆ ของพวกกุฟฟาร ซึ่งความสุขสำราญในโลกดุนยา เพื่อเราจะได้ทดสอบพวกเขาในการนี้ และการตอบแทนของพระเจ้านั้น ดียิ่งกว่าและจีรังยิ่งกว่า และเจ้าจงใช้ครอบครัวของเจ้า ให้ทำละหมาด และจงอดทนในการปฏิบัติ เรามิได้ขอเครื่องยังชีพจากเจ้า เราต่างหากเป็นผู้ให้เครื่องยังชีพแก่เจ้า และบั้นปลายนั้นสำหรับผู้ที่มีความยำแกรง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฏอฮา 131-132)
– “และจงอดทนต่อตัวของเจ้า ร่วมกับบรรดาผู้วิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ทั้งยามเช้าและยามเย็น โดยปรารถนาความโปรดปรานของพระองค์ และอย่าให้สายตาของเจ้าหันเหออกไปจากพวกเขา ขณะที่เจ้าประสงค์ความสวยงามแห่งชีวิตของโลกนี้ และเจ้าอย่าเชื่อฟังผู้ที่เราทำให้หัวใจของเขาละเลยจากการรำลึกถึงเรา และปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา และกิจการของเขาพินาศสูญหาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟฺ 28)
อดทน..เมื่อเจอคำพูดไม่ดีของคนอื่น
– แท้จริงการซุบซิบนินทากันนั้นเป็นการงานของชัยฏอน เพื่อมันจะก่อความเสียใจให้แก่บรรดา มุอฺมิน แต่มันจะไม่ให้ร้ายแต่อย่างใดแก่พวกเขา เว้นแต่ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ และ เฉพาะอัลลอฮฺเท่านั้นบรรดา มุอฺมินต้องมอบความไว้วางใจ (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมุญาดะละฮฺ 10)
– “ดังนั้น อย่าได้ให้คำพูดของพวกเขาเป็นที่เสียใจแก่เจ้า แท้จริงเรารู้ดีถึงสิ่งที่พวกเขาปิดบัง และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺยาซีน 76)
อดทน..เมื่อเจอพฤติกรรมไม่ดีของคนอื่น
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางผู้คนและยังคงอดทนต่อพฤติกรรมไม่ดีของผู้คนเหล่านั้น ดีกว่า ผู้ศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางผู้คนและไม่มีความอดทนต่อพวกเขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี)
– จากท่านอบูฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ รายงานว่า: ชายคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นว่า “โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮฺ ฉันมีญาติๆ ที่ฉันเชื่อมสัมพันธ์กับพวกเขาขณะที่พวกเขาตัดขาดฉัน ฉันทำดีกับพวกเขาขณะที่พวกเขาทำไม่ดีกับฉัน ฉันต้องอดทนกับพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สนใจฉัน” ท่านก็กล่าวว่า “หากท่านเป็นไปตามที่กล่าวมา ก็เหมือนกับท่านกำลังป้อนขี้เถ้าร้อนๆ ใส่ปากพวกเขา และจะยังคงมีการสนับสนุนจากอัลลอฮฺคอยช่วยท่านเหนือพวกเขาตราบใดที่ท่านยังคงดำเนินการเช่นนี้” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2558)
– “เรารู้ดีว่า สิ่งที่พวกเขากล่าวกัน นั้นทำให้เจ้าเสียใจ แท้จริงพวกเขาหาได้ปฏิเสธเจ้าไม่ แต่ทว่าบรรดาผู้อธรรมนั้นปฏิเสธโองการต่างๆ ของอัลลอฮฺต่างหาก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 33)
– “และแน่นอนบรรดา ร่อซูลก่อนเจ้านั้นได้ถูกปฏิเสธมาแล้ว แล้วพวกเขาอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาถูกปฏิเสธมา และถูกทำร้ายจนกระทั่ง ความช่วยเหลือของเราได้มายังพวกเขา และไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพจนารถของอัลลอฮฺได้ และแท้จริงนั้นได้มายังเจ้าแล้วจากข่าวคราวของบรรดาผู้ที่ถูกส่งมา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 34)
– “มลาอิกะฮฺและอัรรูหฺ (ญิบริล) จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับ ห้าหมื่นปี (ของโลกดุนยานี้) ดังนั้นเจ้าจงอดทนด้วยความอดทนที่ดีงามเถิด” (ตัฟซีร: อัรรูหฺในที่นี้หมายถึงญิบรีล วันหนึ่งคือวันกิยามะฮฺ คือในวันนั้นมลาอิกะฮฺและญิบรีลจะขึ้นไปหาพระองค์และในวันนั้นวันหนึ่งมีระยะเวลาเท่ากับห้าหมื่นปีของเวลาในโลกดุนยานี้ มีรายงานหะดีษกล่าวว่า “มีผู้ถามว่า โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮฺ วันนี้มันช่างยาวเสียนี่กระไร ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า ฉันขอสาบานต่อพระผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า แท้จริงมันเป็นเวลาที่สั้นสำหรับมุอฺมิน จนกระทั่งมันสั้นยิ่งกว่าเวลาที่ถูกกำหนด (ละหมาดฟัรฎู) ที่เขาละหมาดอยู่ในโลกดุนยาเสียอีก” ดังนั้น โอ้ มุฮัมมัด! เจ้าจงอดทนต่อการเย้ยหยันหรือการทำร้ายจากหมู่ชนของเจ้าเถิด อย่าได้คับอกคับใจเพราะอัลลอฮฺจะทรงช่วยเหลือเจ้าให้มีชัยชนะเหนือพวกเขา) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมะอาริจญ์ 4-5 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “จงขออัลลอฮฺซึ่งสิ่งดีงาม เพราะแท้จริงแล้ว อัลลอฮฺทรงรักในการถูกขอ และในบรรดาอิบาดะฮฺที่ดีที่สุด คือการรออย่างมีความหวังว่าจะเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” (หะดีษเศาะฮีหฺ รายงานโดยอับดุลเลาะฮฺ)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ชัยชนะจะมากับความอดทนเสมอ ความรื่นรมย์ใจจะมากับความยากลำบาก และพร้อมๆ กับความยากนั้น จะมีความง่ายเสมอ” (หะดีษเศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ เลขที่ 6808)
– “ไม่มีเคราะห์กรรมอันใดเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ และไม่มีแม้แต่ในตัวของพวกเจ้าเอง เว้นแต่ได้มีไว้ในบันทึกก่อนที่เราจะบังเกิดมันขึ้นมา แท้จริงนั่นมันเป็นการง่ายสำหรับอัลลอฮฺ (ตัฟซีร: สิ่งที่เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้เช่น เคราะห์กรรมต่างๆ เป็นต้นว่าความแห้งแล้ง แผ่นดินไหว การสูญเสียพืชผล การเจ็บไข้ได้ป่วย ความยากจน และการสูญเสียลูกหลานญาติพี่น้อง ทั้งหมดนี้ได้ถูกบันทึกไว้ใน อัลลูหฺ อัลมะฮฺฟูซแล้ว พร้อมด้วยจำนวน ขนาด วิธีการ วันเวลาและสถานที่ของมัน ทั้งนี้ก่อนที่พระองค์จะทรงให้เกิดขึ้น) เพื่อพวกเจ้าจะได้ไม่ต้องเสียใจต่อสิ่งที่ได้สูญเสียไปจากพวกเจ้า และไม่ดีใจต่อสิ่งที่พระองค์ทรงประทานแก่พวกเจ้า” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลหะดีด 22-23 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
– “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า จะไม่ประสบแก่เราเป็นอันขาด นอกจากสิ่งที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้แก่เราเท่านั้น ซึ่งพระองค์เป็นผู้คุ้มครองเรา และแด่อัลลอฮฺนั้น มุอฺมินทั้งหลายจงมอบหมายเถิด” (อัลกุรอาน ซูราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 51)
– “แท้จริงผู้ใดที่ยำเกรงและอดทน แน่นอนอัลลอฮฺจะมิทรงให้รางวัลของบรรดาผู้ทำความดีสูญหาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺยูซุฟ 90)
– “เครื่องหมาย แสดงว่า รู้จักข้า(อัลลอฮฺ) ในหัวใจของบ่าวแห่งข้า ก็คือ การมีทัศนคติที่ดีต่อกำหนดของข้า ข้าจะไม่ถูกร้องทุกข์ (ว่ากำหนดสิ่งที่ไม่เหมาะสม) และข้าจะไม่ถูกว่า ล่าช้า และข้าจะไม่ถูกว่า น่าละอาย (ในการกำหนดใดๆ)” (หะดีษกุดซีย์ ฉบับแปลไทย ลำดับที่ 89/221 รายงานโดย อัดดัยละมี จากอะบีฮุรอยเราะฮ์)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดแสวงหาความบริสุทธิ์ผุดผ่อง อัลลอฮฺก็จะประทานความบริสุทธิ์ผุดผ่องให้แก่เขา ผู้ใดแสวหาความมั่งมี อัลลอฮฺ ก็จะทรงให้ความมั่งมีแก่เขา และผู้ใดแสวงหาความอดทน อัลลอฮฺก็จะประทานความอดทนให้แก่เขา และไม่มีผู้ใดได้รับสิ่งของใดที่ดี และกว้างไพศาลไปกว่าความอดทน” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี และมุสลิม)
– อะฏออ์ บินอบูเราะบาฮฺ เล่าว่า : อิบนุอับบาสได้พูดกับฉันว่า “ฉันจะให้ท่านเห็นผู้หญิงชาวสวรรค์คนหนึ่งเอาไหม?” ฉันกล่าวว่า “เอาสิ” เขาจึงกล่าวว่า “ผู้หญิงผิวดำคนนี้ได้มาหาท่านนบีและกล่าวว่า “เมื่อฉันเป็นโรคลมชัก และฉันจะตกอยู่ในสภาพเสื้อผ้าเปิดจนเห็นร่างกาย โปรดวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้ฉันด้วยเถิด” ท่านนบีกล่าวว่า “ถ้าเธอต้องการ จงอดทนและเธอจะได้สวรรค์ และถ้าเธอต้องการ ฉันจะวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้รักษาเธอ” นางตอบว่า “ฉันจะอดทน” และกล่าวว่า “แต่เมื่อฉันเป็นโรคขึ้นมาทีไร เสื้อผ้าของฉันจะเปิดจนเห็นร่างกายทุกที โปรดวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้ฉันไม่ต้องอยู่ในสภาพเสื้อผ้าเปิดด้วยเถิด” ดังนั้น ท่านนบีจึงวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้นาง (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 5652)
ตัวอย่างนบี อดทนเรื่องความเจ็บป่วย
– “และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอัยยูบ เมื่อเขาได้ร้องเรียนพระเจ้าของเขาว่า “แท้จริงข้าพระองค์นั้น ความทุกข์ยากได้ประสบแก่ข้าพระองค์และพระองค์เท่านั้นเป็นผู้ทรงเมตตายิ่ง ในหมู่ผู้เมตตาทั้งหลาย” (ตัฟซีร: บรรดานักตัฟซีรกล่าวว่า อัยยูบเป็นนบีจากประเทศโรมัน เขามีบุตรหลานและทรัพย์สมบัติมากมาย อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงให้ทรัพย์สมบัติของเขาสูญสิ้นไป เขาก็อดทนขันติ แล้วพระองค์ก็ทรงให้บุตรหลานของเขาตายไป เขาก็อดทนขันติ แล้วพระองค์ก็ทรงให้เขาได้รับการทดสอบอื่นๆ และการเจ็บป่วย เขาก็อดทนขันติ ชนกลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเขาผ่านมาได้กล่าวว่า สิ่งที่ประสบกับเขาเช่นนี้ มิใช่อื่นใดเลย นอกจากเป็นบาปอันยิ่งใหญ่ ดังนั้น เขาจึงร้องเรียนขอพรต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา พระองค์จึงทรงปลดเปลื้องความทุกข์ของเขา) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอัมบิยาอฺ 83 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “ดังนั้น เราได้ตอบรับการร้องเรียนของเขาแล้วเราได้ปลดเปลื้องสิ่งที่เป็นความทุกข์ยากแก่เขา และเราได้ให้ครอบครัวของเขาแก่เขา และเช่นเดียวกับที่เขาได้เคยมีมาก่อน (เช่น บุตรหลานและพวกพ้อง) เป็นความเมตตาจากเรา และเป็นข้อตักเตือนแก่บรรดาผู้ที่เคารพภักดี” (ตัฟซีร: อับดุลลอฮฺ อิบนิมัสอูด กล่าวว่า ลูกของเขา 14 คนตายหมด เป็นบุตรชาย 7 คน และบุตรหญิง 7 คน เมื่ออัยยูบพื้นจากการเจ็บป่วย อยู่ในสภาพที่แข็งแรงแล้ว ภรรยาของเขาได้คลอดบุตรซึ่งเกิดจากเขาอีก 14 คน อันเป็นบุตรชาย 7 คน และอีก 7 คนเป็นบุตรหญิง มีรายงานกล่าวว่า อัยยูบได้รับเคราะห์กรรมเป็นเวลาถึง 18 ปี วันหนึ่งภรรยาของเขากล่าวกับเขาว่า ถ้าท่านจะขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺตะอาลา เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ร้อนของเราให้หมดสิ้นไปได้ไหม? เขากล่าวกับนางว่า เรามีชีวิตอยู่ในความเป็นสุขกี่ปี? นางตอบว่า 80 ปี เขากล่าวว่า ฉันละอายต่ออัลลอฮฺที่จะขอพรต่อพระองค์ เพราะฉันมีชีวิตอยู่ในความทุกข์ไม่เท่ากับการมีชีวิตอยู่ในความสุข!) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอัมบิยาอฺ 84 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
ตัวอย่างท่านหญิง อดทนเรื่องครอบครัว
– “และเราได้ดลใจแก่มารดาของมูซา “จงให้นมแก่เขา เมื่อเจ้ากลัวแทนเขาก็จงโยนเขาลงไปในแม่น้ำ และเจ้าอย่าได้กลัวและอย่าได้เศร้าโศก แท้จริงเราจะให้เขากลับไปหาเจ้า และเราจะทำให้เขาเป็นหนึ่งในบรรดาร่อซูล” “และจิตใจของมารดาของมูซาได้คลายความวิตกกังวลลง นางเกือบจะเปิดเผยกับเขาหากเรามิได้ทำให้จิตใจของนางมั่นคง เพื่อที่นางจะเป็นหนึ่งในหมู่ผู้ศรัทธา” “ดังนั้น เราจึงให้เขากลับไปหามารดาของเขา เพื่อที่จะเป็นที่น่าชื่นชมยินดีแก่นางและนางจะไม่เศร้าโศก และเพื่อนางจะได้รู้ว่า แท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริง แต่ส่วนมากพวกเขาไม่รู้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลเกาะศ็อศ 7, 10 ,13)
– “และอัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์แก่บรรดาผู้ศรัทธาถึงภริยาของฟิรเอานฺเมื่อนางได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดสร้างบ้านหลังหนึ่งให้แก่ข้าพระองค์ ณ ที่พระองค์ท่านในสวนสวรรค์และทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากฟิรเอานฺ และการกระทำของเขา และทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากหมู่ชนผู้อธรรม” (ตัฟซีร: อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงยกอุทาหรณ์ถึงผู้ศรัทธาคือภริยาของฟิรเอานฺคือนางอาซิยะฮฺ บินตฺ มะซาฮิม นางได้ศรัทธาต่อนบีมูซา อะลัยฮิสสลาม เมื่อฟิรเอาน์รู้เรื่องการอีมานของนางต่อนบีมูซา เขาจึงสั่งให้ฆ่านาง เมื่อนางรู้ว่าสามีผู้เกรี้ยวกราดจะฆ่านางแล้ว นางได้วิงวอนต่อพระเจ้าของนาง และขอให้พระองค์ช่วยให้พ้นจากหมู่ชนผู้อธรรมคือพวกค็อพท์ชาวอียิปต์โบราณซึ่งเป็นพลพรรคของฟิรเอานฺ อัลหะซันกล่าวว่า เมื่อนางได้วิงวอนขอดังกล่าว อัลลอฮฺ ตะอาลา ก็ทรงช่วยเหลือให้นางพ้นจากการฆ่าของฟิรเอานฺ) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัตตะหฺรีม 11 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
– “และนบีกี่มากน้อยแล้ว ที่กลุ่มชนอันมากมายได้ต่อสู้ร่วมกับเขา แล้วพวกเขาหาได้ท้อแท้ไม่ต่อสิ่งที่ได้ประสบแก่พวกเขาในทางของอัลลอฮฺ และพวกเขาหาได้อ่อนกำลังลง และหาได้สยบไม่ และอัลลอฮฺนั้นทรงรักผู้ที่อดทนทั้งหลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 146)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริงผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่จะมาพร้อมกับการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ และแท้จริงอัลลอฮฺนั้นเมื่อพระองค์ทรงรักกลุ่มชนใด พระองค์จะทรงทดสอบพวกเขา ผู้ใดที่พอใจเขาก็จะได้รับความพอพระทัย และผู้ใดที่โกรธเขาก็จะได้รับความกริ้วโกรธ” (หะดีษหะสัน บันทึกโดย อัตติรมีซีย์)
– “จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด โอ้ ปวงบ่าวผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงพระเจ้าของพวกท่านเถิด สำหรับบรรดาผู้ทำความดีในโลกนี้คือ (จะได้รับการตอบแทน) ความดีและแผ่นดินของอัลลอฮฺนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แท้จริงบรรดาผู้อดทนนั้นจะได้รับการตอบแทนรางวัลของพวกเขาอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องคำนวณ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซุมัร 10)
– “และบรรดาผู้อดทนโดยหวังพระพักตร์ (ความโปรดปราน) ของพระเจ้าของพวกเขา และดำรงการละหมาดและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคือที่พำนักในบั้นปลายที่ดี สวนสวรรค์ทั้งหลายอันสถาพร พวกเขาจะเข้าไปอยู่พร้อมกับผู้ทำดีจากบรรพบุรุษของพวกเขา และคู่ครองของพวกเขา และบรรดาลูกหลานของพวกเขา และมะลาอิกะฮจะเข้ามาหาพวกเขาจากทุกประตู (ของสวนสวรรค์) (พร้อมกับกล่าวว่า) “ความศานติจงมีแต่พวกท่าน เนื่องด้วยพวกท่านได้อดทน มันช่างดีเสียนี่กระไรที่พำนักบั้นปลายนี้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดฺ 22-24)
– “และพระองค์จะทรงตอบแทนแก่พวกเขาด้วยสวนสวรรค์ และอาภรณ์ไหมแพรเนื่องเพราะพวกเขาอดทน นอนเอกเขนก อยู่บนเก้าอี้นวมยาวในสวนสวรรค์ พวกเขาจะไม่พบเห็นแสงอาทิตย์ และความเหน็บหนาว และร่มเงาของสวนสวรรค์จะปกคลุมพวกเขาอย่างใกล้ชิด และผลไม้ในสวนสวรรค์ถูกโน้มต่ำลงมาใกล้พวกเขา และมีภาชนะที่ทำด้วยเงิน และแก้วน้ำที่ทำด้วยแก้วใสถูกวนเวียนรอบๆ พวกเขา แก้วที่ทำด้วยเงินโดยพวกเขาจะเติมมันตามสัดส่วนที่พวกเขาต้องการ และในสวนสวรรค์นั้นพวกจะได้รับเครื่องดื่มจากแก้วซึ่งผสมด้วยขิง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอินซาน 12-17)
– “ในสวนสวรรค์มีตาน้ำพุที่มีชื่อว่า ซัลสะบีลอและมีเด็กวัยรุ่นวนเวียนรอบๆ พวกเขา เมื่อเจ้าเห็นพวกเขา เจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นไข่มุกที่เรียงราย และเมื่อเจ้ามองไปยังที่นั่นเจ้าจะพบแต่ความสุข และอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล บนพวกเขามีอาภรณ์สีเขียวทำด้วยผ้าไหมละเอียด และผ้าไหมหยาบ และถูกประดับด้วยกำไลเงิน และพระเจ้าของพวกเขาจะทรงให้พวกเขาได้ดื่มเครื่องดื่มอันบริสุทธิ์ยิ่ง แท้จริงนี่คือ การตอบแทนแก่พวกเจ้า และการบากบั่นของพวกเจ้านั้นเป็นที่ยอมรับด้วยความยินดี แท้จริงเราได้ประทาน อัลกุรอานให้แก่เจ้าเป็นขั้นตอน ดังนั้น เจ้าจงอดทนคอยข้อตัดสินของพระเจ้าของเจ้า และอย่าเชื่อฟังผู้ประพฤติชั่ว และผู้ปฏิเสธศรัทธาคนใดในหมู่พวกเขา และจงรำลึกถึงพระนามของพระเจ้าของเจ้าทั้งในยามเช้าและยามเย็น และจากส่วนหนึ่งของกลางคืนก็จงสุญดต่อพระองค์ และจงแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ ในยามกลางคืนอันยาวนาน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอินซาน 18-26)