hasanah page เว็บไซต์สำหรับมุสลิมะห์
– “และพวกเจ้าจงอย่าท้อแท้ และจงอย่าเสียใจ และพวกเจ้านั้นคือผู้ที่สูงส่งยิ่ง หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 139)
– “ขณะที่ทั้งสอง (ตัฟซีร: คือท่านนบีและอบูบักร) อยู่ในถ้ำนั้นคือขณะที่เขา (ตัฟซีร: คือท่านนบี) ได้กล่าวแก่สหายของเขา (ตัฟซีร: คืออบูบักร) ว่า ท่านอย่าเสียใจ แท้จริงอัลลอฮฺทรงอยู่กับเรา (ตัฟซีร: หมายถึง ทรงรู้เห็นและพร้อมที่จะทรงช่วยเหลือ) แล้วอัลลอฮฺก็ทรงประทานลงมาแก่เขา (ตัฟซีร: คือแก่ท่านนบี กล่าวคือทรงให้ท่านนบีมีความสงบใจ) ซึ่งความสงบใจจากพระองค์” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 40 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “ดังนั้นผู้ใดประกอบกรรมดีทั้งหลาย โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา สำหรับการอุตสาหะวิริยะของเขาจะไม่ถูกปฏิเสธ และแท้จริงเราเป็นผู้บันทึกความดีสำหรับเขา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอัมบิยาอฺ 94)
– “แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย ชนเหล่านั้น พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ดียิ่ง การตอบแทนของพวกเขา ณ ที่พระเจ้าของพวกเขาคือสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร ณ เบื้องล่างของมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล อัลลอฮฺทรงปิติต่อพวกเขา และพวกเขาก็ยินดีในพระองค์ นั่นคือสำหรับผู้ที่กลัวเกรงพระเจ้าของพวกเขา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบัยยินะฮฺ 7-8)
– “ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงได้กลับบ้านพร้อมกับวะฮีย์และร่างกายของท่านที่สั่นสะท้าน ท่านได้ไปหาท่านหญิงเคาะดีญะฮฺและบอกนางว่า “ห่มผ้าให้ฉันหน่อย ห่มผ้าให้ฉันหน่อย” พวกเขาจึงเอาผ้ามาห่มให้ท่านจนกระทั่งความกลัวของท่านหายไป ท่านบอกท่านหญิงเคาะดีญะฮฺว่า “เคาะดีญะฮฺ อะไรเกิดขึ้นกับฉันก็ไม่รู้?” และท่านก็ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นางฟัง หลังจากนั้นได้กล่าวว่า “ฉันกังวลเรื่องตัวเองเหลือเกิน (ว่าจะไม่สามารถแบกความรับผิดชอบได้)” ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺกล่าวว่า “อย่าเลย จงยินดีเถิด” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 3 และมุสลิม เลขที่ 160)
– “จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า “พวกท่านจงทำงานเถิด แล้วอัลลอฮฺจะทรงเห็นการงานของพวกท่าน และร่อซูลของพระองค์และบรรดามุอฺมินก็จะเห็นด้วย และพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผยแล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่าน ในสิ่งที่พวกท่านทำไว้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 105)
กำลังใจแด่ผู้ร่วมญิฮาด ต่อสู้ ยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺ
– “แท้จริงข้าจะไม่ให้สูญเสียซึ่งงานของผู้ทำงานคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม โดยที่บางส่วนของพวกเจ้านั้นมาจากอีกบางส่วน บรรดาผู้ที่อพยพ และที่ถูกขับไล่ให้ออกจากหมู่บ้านของพวกเขา และได้รับความเดือดร้อนในทางของข้า และได้ต่อสู้และถูกฆ่าตายนั้น แน่นอนข้าจะลบล้างให้พ้นจากพวกเขา ซึ่งบรรดาความผิดของพวกเขา และแน่นอนข้าจะให้พวกเขาเข้าบรรดาสวนสวรรค์ซึ่งมีบรรดาแม่น้ำไหลอยู่เบื้องล่างของสวนสวรรค์เหล่านั้น ทั้งนี้เป็นรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์มีการตอบแทนอันดีงาม” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 195)
– “และพวกเขาได้วางแผน และอัลลอฮฺก็ทรงวางแผนด้วย และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงวางแผนที่ดีเยี่ยม” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 54)
– “ดังนั้นเจ้าจงอดทน แท้จริงบั้นปลายที่ดีนั้นสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง” (ส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 49)
– “และเจ้าจงอดทน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้รางวัลของผู้ทำความดีสูญหาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 115)
เมื่อทุกข์ เสียใจ เหนื่อย นึกถึงโลกหน้านะ
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครที่ให้อะไรบางอย่างไปในหนทางของอัลลอฮฺ จะถูกเรียกในสวรรค์ “โอ้ บ่าวของอัลลอฮฺ นี่เป็นสิ่งดี” ดังนั้น ใครก็ตามอยู่ในหมู่คนที่เคยปฏิบัตินมาซจะถูกเรียกจากประตูแห่งการนมาซ ใครที่อยู่ในหมู่คนที่เคยร่วมในการญิฮาดจะถูกเรียกจากประตูแห่งการญิฮาด ใครที่อยู่ในหมู่ผู้เคยให้เศาะดะเกาะฮฺจะถูกเรียกจากประตูแห่งการเศาะดะเกาะฮฺ และใครที่อยู่ในหมู่ผู้เคยถือศีลอด จะถูกเรียกจากประตูอัรรอยยาน” อบูบักรกล่าวว่า “ไม่มีความทุกข์ระทมใดจะเกิดขึ้นกับคนที่ถูกเรียกจากประตูเหล่านั้นทั้งหมด มีใครผู้ใดที่จะถูกเรียกจากประตูเหล่านี้ทั้งหมดบ้าง?” ท่านนบีตอบว่า “มีสิ และฉันหวังว่าท่านจะเป็นหนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรี เลขที่ 1897 และมุสลิม เลขที่ 1027)
– “ซึ่งพระองค์ทรงให้เราได้พำนักใน สถานที่พำนักอันสถาพรด้วยความโปรดปรานของพระองค์ (ตัฟซีร: ที่เรียกสวนสวรรค์ว่าเป็นที่พำนักอันสถาพร ก็เพราะพวกเขาจะเข้าไปพำนักอยู่และจะไม่ออกมา) ความเหน็ดเหนื่อยจะไม่ประสบแก่เราในนั้น และความเบื่อหน่ายก็จะไม่ประสบแก่เราในนั้น” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฟาฏิร 35 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านอย่าหวังความตายเด็ดขาด เนื่องจากความทุกข์ทนลำบากที่ประสบ แต่หากมันถึงจุดที่สุดๆ แล้วจริงๆ ก็ให้พูดว่า โอ้ อัลลอฮฺ หากการมีชีวิตอยู่ดีสำหรับฉัน ก็ขอให้ฉันมีชีวิตต่อไป แต่หากการตายดีสำหรับฉัน ก็ขอให้ฉันตายลงเสียเถิด” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรีและมุสลิม)
– “โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงอัลลอฮฺอย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตาย เป็นอันขาดนอกจากในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 102)
– “เรามิได้เปิดหัวอกของเจ้าแก่เจ้าดอกหรือ? และเราได้ปลดเปลื้องภาระหนักของเจ้าออกจากเจ้าแล้ว ซึ่งเป็นภาระหนักอึ้งบนหลังของเจ้า และเราได้ยกย่องให้แก่เจ้าแล้ว ซึ่งการกล่าวถึงเจ้า ฉะนั้นแท้จริงหลังจากความยากลำบากก็จะมีความง่าย แท้จริงหลังจากความยากลำบากก็จะมีความง่าย ดังนั้นเมื่อเจ้าเสร็จสิ้น (จากงานหนึ่งแล้ว) ก็จงลำบากต่อไป ที่เจ้าจะต้องพุ่งความปรารถนาในการประกอบกิจการทั้งหลายโดยไม่มุ่งเอาเฉพาะโลกนี้เท่านั้น” (ตัฟซีร:”นี่คือแนวทางการดำเนินชีวิตของมุสลิมคือ เมื่อเจ้าเสร็จสิ้นจากกิจกรรมทางด้านศาสนาก็จงลำบากต่อไปในการกิจกรรมเกี่ยวกับโลกดุนยา ดังกล่าวนี้เจ้าจงตั้งเจตนาและความมุ่งมาตรปรารถนาเพื่ออัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น) และยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นก็จงมุ่งปรารถนาเถิด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัชชัรฮฺ (อัลอินชิรอฮฺ) 1-8 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “โอ้ มนุษย์ แท้จริงเจ้าต้องพากเพียรไปสู่พระเจ้าของเจ้าอย่างทรหดอดทนแล้วเจ้าจึงจะพบพระองค์ ส่วนผู้ที่ถูกยื่นบันทึกของเขาให้ทางเบื้องขวาของเขา เขาก็จะถูกชำระสอบสวนอย่างง่ายดาย และเขาจะกลับไปยังครอบครัวของเขาด้วยความดีใจ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอินซิก๊อก 6-9 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “และหากว่าอัลลอฮฺ ทรงให้ความเดือดร้อนอย่างหนึ่งอย่างใดประสบแก่เจ้า แล้วก็ไม่มีผู้ใดจะเปลื้องมันได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น และหากพระองค์ทรงให้ความดีอย่างหนึ่งอย่างใดประสบแก่เจ้า แท้จริงพระองค์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 17)
– “สิ่งใดที่อัลลอฮฺทรงประทานให้จากความเมตตาแก่มนุษย์ชาติ ไม่มีผู้ยับยั้งมันได้ และสิ่งใดที่พระองค์ทรงยับยั้งไว้ ก็ไม่มีผู้ใดให้มันได้หลังจาก (การยับยั้ง) ของพระองค์และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฟาฏิร 2)
– “ดังนั้น บางทีเจ้าอาจเป็น ผู้ทำลายชีวิตของเจ้าด้วยความเสียใจ เนื่องจากการผินหลังของพวกเขา หากพวกเขาไม่ศรัทธาต่ออัลกุรอานนี้” (ตัฟซีร: อายะฮฺนี้เป็นการปลอบใจท่านนบี อะลัยอิสลาม เพราะบุคคลจำพวกนี้ ไม่สมควรที่เจ้าจะเสียใจสงสารพวกเขา)” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟฺ 6)
– “เจ้าจะไม่พบหมู่ชนใดที่พวกเขาศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลกรักใคร่ชอบพอผู้ที่ต่อต้านอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อของพวกเขา หรือลูกหลานของพวกเขา หรือพี่น้องของพวกเขา หรือเครือญาติของพวกเขาก็ตาม ชนเหล่านั้นอัลลอฮฺได้ทรงบันทึกการศรัทธาไว้ในจิตใจของพวกเขา และได้ทรงเสริมพวกเขาให้มีพลังมากขึ้นด้วยการสนับสนุนพระองค์ และจะทรงให้พวกเขาได้เข้าสวนสวรรค์หลากหลาย มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่างของสวนสวรรค์ โดยเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล อัลลอฮฺทรงโปรดปรานต่อพวกเขาและพวกเขาก็ยินดีปรีดาต่อพระองค์ ชนเหล่านั้นคือพรรค ของอัลลอฮฺ พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพรรคของอัลลอฮฺนั้น พวกเขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมุญาดะละฮฺ 22)
– “พระองค์คือผู้ทรงประทานความเมตตาให้แก่พวกเจ้า และมะลาอิกะฮฺของพระองค์ด้วย เพื่อพระองค์จะทรงนำพวกเจ้า ออกจากความมืดทึบทั้งหลายสู่ความสว่าง และพระองค์ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้ศรัทธาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอะหฺซาบ 43)
– “มาตรแม้นว่าบ่าวของข้า(อัลลอฮฺ)ภักดีต่อข้า แน่นอน ว่าข้าจะหลั่งน้ำฝนลงมายังพวกเขาในเวลากลางคืน และข้าจะให้ดวงตะวันขึ้นมายังพวกเขาในเวลากลางวัน และข้าจะไม่ให้พวกเขาได้ยินเสียงฟ้าผ่าเลย” (หะดีษกุดซีย์ ฉบับแปลไทย ลำดับที่ 95/221 รายงานโดย อะหมัด และฮะกีม จากอะบีฮุรอยเราะฮ์)
อัลลอฮฺทรงเป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียว
– “แท้จริงอัลลอฮฺนั้น เป็นผู้ทรงคุ้มครองพวกเจ้า ผู้ทรงคุ้มครองที่ดีเลิศ และผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีเยี่ยม” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันฟาล 40)
– “ไม่มีชีวิตใด (อยู่โดยลำพัง) เว้นแต่มีผู้เฝ้ารักษามัน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัฏฏอริก 4)
พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างผู้ศรัทธาเสมอ
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “โอ้ เด็กน้อย! ฉันจะสอนเจ้าสามสี่ประโยค จงระลึกถึงอัลลอฮฺอยู่เสมอแล้วอัลลอฮฺก็จะทรงคุ้มครองเจ้า จงระลึกถึงอัลลอฮฺอยู่เสมอ แล้วเจ้าก็จะพบว่า พระองค์นั้นทรงอยู่เคียงข้างเจ้า เมื่อเจ้าจะขอสิ่งใดก็จงขอจากอัลลอฮฺ และเมื่อเจ้าจะขอความช่วยเหลือก็จงขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ และจงทราบไว้ว่า ประชาชาตินี้ ทั้งหมดหากพวกเขารวมตัวกันเพื่อจะให้เกิดคุณอย่างหนึ่งแก่เจ้า พวกเขาจะไม่สามารถให้คุณแก่เจ้าได้เว้นแต่ในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงบันทึกไว้แล้วสําหรับเจ้า และหากพวกเขารวมตัวกันเพื่อจะให้เกิดโทษอย่างหนึ่งให้กับเจ้า พวกเขาก็ไม่สามารถจะทําให้เกิดโทษแก่ตัวเจ้าได้เว้นแต่ในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงบันทึกไว้แล้วต่อตัวเจ้า ซึ่งปากกาได้ถูกยกออกแล้ว และสมุดบันทึกก็แห้งเรียบร้อยแล้ว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะหฺหมัด เลขที่ 2669 และอัลติรมิซีย์ตามสํานวนนี้ เลขที่ 2516)
– “บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนจงต่อสู้ต่อไปเถิด” (ตัฟซีร: อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า ความโปรดปรานที่ชาวสวรรค์ได้รับอยู่นี้คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และด้วยการตอบแทนเช่นนี้ จำเป็นที่บรรดาผู้ปฏิบัติความดี จงปฏิบัติต่อไป และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนไปในหนทางของอัลลอฮฺ จงกระทำต่อไปเถิด) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัศศ็อฟฟาต 61 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
พระองค์ทรงช่วยเหลือผู้ศรัทธาเสมอ
– “ด้วยการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ พระองค์ทรงช่วยเหลือผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรรูม 5)
– “หน้าที่ของเราคือการช่วยเหลือบรรดาผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรรูม 47)
– “หรือพวกเจ้าคิดว่า พวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์ โดยเยี่ยงอย่างของผู้ล่วงลับไปก่อนพวกเจ้า ยังมิได้มายังพวกเจ้าเลย ซึ่งบรรดาความลำบากและความเดือดร้อนได้ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาได้รับความหวั่นไหว จนกระทั่งร่อซูลและบรรดาผู้ศรัทธา ซึ่งอยู่กับเขา กล่าวขึ้นว่า เมื่อไรเล่าการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ? พึงรู้เถิดว่าแท้จริงการช่วยเหลือของอัลลอฮฺใกล้อยู่แล้ว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 214)
พระองค์ทรงปกป้องในวันกิยามะฮฺ และไฟนรก
– “และอัลลอฮฺจะทรงให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้น เพราะชัยชนะของพวกเขา (โดยที่) ความชั่วร้ายจะไม่ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่เศร้าโศกเสียใจ” (ตัฟซีร: อัลลอฮฺจทรงให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้น เพราะความสุขและชัยชนะของพวกเขาตามที่พวกเขาต้องการ คือสวนสวรรค์ที่พำนักของคนดีๆ ทั้งหลาย ความเบื่อหน่าย ความตกใจจะไม่เกิดขึ้นแก่พวกเขา และพวกเขาก็จะไม่เศร้าโศกเสียใจในวันกิยามะฮฺแต่พวกเขาจะมีความปลอดภัย) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซุมัร 61 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– นบีดาวุดกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ แล้วอะไรคือการตอบแทนแก่ผู้ที่น้ำตาของเขาไหลลงบนแก้มทั้งสองข้างของเขาเพราะความกลัวพระองค์” พระองค์ทรงตอบว่า “ข้าจะป้องกันใบหน้าของเขาให้พ้นจากเปลวไฟ นรกยะฮันนัม และจะรักษาเขาในวันกิยามะฮฺ ให้ปลอดภัยไปจากความน่าตระหนก อันยิ่งใหญ่” (ส่วนหนึ่งของหะดีษกุดซีย์ ฉบับแปลไทย ลำดับที่ 207/221 รายงานโดย อิบนุอะซากิร และอัดดัยละมี จากอิบนิมัสอูด)
รางวัลแด่ผู้ศรัทธาในโลกนี้ (ดุนยา)
– “และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า แท้จริง สำหรับพวกเขาจะได้รับความโปรดปรานอันใหญ่หลวงจากอัลลอฮฺ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอะหฺซาบ 47)
– “ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขา ที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ 97)
รางวัลแด่ผู้ศรัทธาในโลกหน้า (อาคิเราะฮฺ)
– “และบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายนั้น แน่นอนเราจะลบล้างความชั่วทั้งหลายของพวกเขาไปจากพวกเขา และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาสิ่งที่ดียิ่ง ซึ่งพวกเขาได้กระทำไว้“ (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอังกะบูต 7)
– “และพวกเขากล่าวว่า บรรดาการสรรเสริญทั้งมวลเป็นของอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งได้ทำให้สัญญาของพระองค์เป็นที่สมจริงแก่พวกเรา (ตัฟซีร: นักตัฟซีรกล่าวว่า การกล่าวถึงสัญญาของอัลลอฮฺ ตะอาลา แก่พวกเขาด้วยคำกล่าวของพระองค์ที่ว่า “นั่นคือสวนสวรรค์ซึ่งเราให้เป็นมรดกแก่ปวงบ่าวของเรา ผู้ที่มีความยำเกรง) และทรงทำให้เราได้ครอบครองแผ่นดินในสวนสวรรค์ เพื่อที่เราจะได้พำนักอยู่ตามที่เราประสงค์ ดังนั้นรางวัลของบรรดาผู้กระทำความดีช่างยอดเยี่ยมแท้ๆ (ตัฟซีร: ผลบุญของผู้กระทำความดีด้วยการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺนั้นคือ สวนสวรรค์ช่างยอดเยี่ยมแท้ๆ) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซุมัร 74 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าจะให้ฉันบอกแก่พวกท่านถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่านั้นไหม? คือบรรดาผู้ที่ยำเกรงนั้น ณ พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา พวกเขาจะได้รับบรรดาสวนสวรรค์ ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เหล่านั้นตลอดกาลและจะได้รับบรรดาคู่ครองที่บริสุทธิ์ และความพึงใจจากอัลลอฮฺด้วย และอัลลอฮฺนั้นทรงเห็นบรรดาบ่าวทั้งหลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 15)
– “คือบรรดาผู้ที่กล่าวว่า โอ้พระเจ้าแห่งพวกข้าพระองค์ แท้จริงพวกข้าพระองค์ศรัทธากันแล้ว โปรดทรงอภัยโทษให้แก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด ซึ่งบรรดาความผิดของพวกข้าพระองค์และโปรดได้ทรงป้องกันพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟรกด้วย บรรดาผู้ที่อดทน และบรรดาผู้ที่พูดจริง และบรรดาผู้ที่ภักดี และบรรดาผู้ที่บริจาคและบรรดาผู้ที่ขออภัยโทษในยามใกล้รุ่ง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 16-17)
ชีวิตชาวสวรรค์ ปลายทางของผู้ศรัทธา
– “โอ้ ปวงบ่าวของข้า ไม่มีความหวาดกลัวอันใดแก่พวกเจ้าในวันนี้ และพวกเจ้ามิต้องเศร้าสลดใจ บรรดาผู้ศรัทธาต่อสัญญาณทั้งหลายของเรา และพวกเขาเป็นผู้นอบน้อม (ตัฟซีร: พระองค์จะตรัสว่า โอ้ ปวงบ่าวของข้าที่เป็นผู้ศรัทธา ในวันนี้พวกเจ้าไม่ต้องหวาดกลัวและเศร้าโศกเสียใจในสิ่งที่ได้ผ่านพ้นไปแล้วในโลกดุนยา บรรดาผู้ศรัทธาต่ออายาตทั้งหลาย (อัลกุรอาน) ของเรา และพวกเขายอมจำนนต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ คือ ข้อใช้และข้อห้ามของพระองค์ และนอบน้อมจงรักภักดีต่อพระองค์) พวกเจ้าจงเข้าไปในสวนสวรรค์ ทั้งตัวของพวกเจ้าและคู่ครองของพวกเจ้าอย่างแช่มชื่นแจ่มใส” (ตัฟซีร: มีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงเข้าสู่สวรรค์พร้อมด้วยคู่ครองที่เป็นมุอฺมินะฮฺของพวกเจ้าด้วยความสดชื่นและดีใจเถิด) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลซุครุฟ 68-71 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “จะมีจานทำด้วยทองคำและแก้วน้ำถูกนำมาเวียนรอบ ๆ พวกเขา และในสวนสวรรค์นั้น จะมีสิ่งที่จิตใจของพวกเขาต้องการและสายตาของพวกเขาชื่นชมยินดี และพวกเจ้าจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล และนั่นคือสวนสวรรค์ ซึ่งพวกเจ้าได้ถูกให้รับเป็นมรดกตามที่พวกเจ้าได้กระทำ (ความดี) ไว้ (ตัฟซีร: สวนสวรรค์ที่พวกเจ้าได้รับมรดกอยู่นั้น เนื่องมาจากการกระทำความดีของพวกเจ้าในโลกดุนยา ซึ่งเป็นความเมตตาของอัลลอฮฺแก่พวกเจ้า เพราะคนหนึ่งคนใดจะไม่ได้เข้าสวรรค์เพราะการกระทำของเขา แต่ด้วยความเมตตาและความโปรดปรานของอัลลอฮฺ) ในสวนสวรรค์นั้นจะมีผลไม้มากมายสำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าจะได้กินส่วนหนึ่งจากมัน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลซุครุฟ 72-73 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)