เนื้อหาจากการบรรยาย
สอนโดย ครูฟาร์
ฟารีดาห์ หะยีสามะ
“และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา และแท้จริงอัลลอฮฺทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอังกะบูต 69)
ประตูความสำเร็จ (เตาฟีก)
เตาฟีก คือ การที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ให้ความสามารถที่จะทำให้คนหนึ่งสามารถทำอิบาดะฮฺแล้วประสบความสำเร็จได้ อัลลอฮฺดลใจ ทรงเปิดทาง ให้ความง่ายดาย ให้ความสามารถ เพื่อจะทำให้คนนั้นได้ทำอิบาดะฮฺ และการทำอิบาดะฮฺเพื่อพระองค์จะทำให้เขาได้รับความสำเร็จ
เตาฟีก จึงหมายความว่า การได้รับความสำเร็จในการประกอบอาม้าล ความดีต่างๆ เพื่อพระองค์
เตาฟีกจะเกิดขึ้นเมื่อคนๆ หนึ่งพยายามแสดงถึงความตั้งใจอยากได้สิ่งนั้นแค่ไหน แล้วในที่สุดอัลลอฮฺก็จะให้เตาฟีก นำพาให้เขา ดลใจให้เขา ให้ความง่ายดายแก่เขา ให้ความรู้สึกที่ดีแก่เขา เพื่อเป็นองค์ประกอบให้เขาได้ไปสู่ความสำเร็จตามที่เขาได้ตั้งไว้ ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺทำให้เราได้เตาฟีกจากพระองค์
ท่านได้กล่าวว่า เตาฟีกมาจากพระองค์ พระองค์จะอนุญาตให้คนๆ หนึ่งได้ทำความดี ชนิดที่ความดีนั้นสอดคล้องกับความพอพระทัยของพระองค์ เพราะคนๆ นั้นแสดงถึงความรักที่มีต่อพระองค์
ความสำเร็จในที่นี้ ไม่ใช่ความสำเร็จทั่วไป แต่เป็นความสำเร็จของการได้รับเตาฟีก
เตาฟีกที่คนๆ หนึ่งจะได้รับความสะดวก เอื้ออำนวยให้ได้ทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์
สิ่งที่มีค่ากับชีวิตมนุษย์ไม่ใช่การได้มาซึ่งความสำเร็จที่เราอยากได้ แต่คือการที่อัลลอฮฺทรงให้เราได้เป็นบ่าวของพระองค์ สามารถทำอิบาดะฮฺ พระองค์เรียกใช้เรา พระองค์ให้ความง่ายดายกับเรา ทรงให้เรามีแต้มความดีที่เป็นตัวอิบาดะฮฺ
การได้ทำความดีที่พระองค์ทรงพอพระทัย ไม่ใช่ความสามารถอะไรของเราทั้งสิ้น แต่มาจากความช่วยเหลือของอัลลอฮฺทั้งสิ้น การดลใจให้เรามีความพยายามก็มาจากพระองค์เช่นกัน
มาตรวัดความสำเร็จของผู้ศรัทธา คือ การได้เป็นบ่าวที่ได้ทำความดีเพื่ออัลลอฮฺ (ไม่ใช่ทำตามสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน)
เนื้อหาจะกล่าวถึงสิ่งที่จะไปปิดประตูเตาฟีก เพราะเราไม่อยากเป็นคนที่ไม่รู้ตัวว่าทำไมเราถึงทำดีไม่ขึ้นสักที หรือคิดว่าทำดีเป็นเรื่องยาก หรือไม่มีเวลาทำดี หรือว่างแต่ไม่อยากจะทำ เราไม่อยากเป็นคนที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว มีตัวสกัดอะไรบางอย่างในชีวิตเรา ที่ทำให้เราไม่สามารถไปต่อในการทำความดี อัลลอฮฺไม่ได้ดลเตาฟีกให้ เพราะว่าเราทำตัวเราเองให้ปิดประตูเตาฟีก ทำให้เราไม่สามารถได้รับความสำเร็จจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
อิหม่ามอิบนุลก็อยยิม รอฮิมาฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่ามี 6 สิ่งที่ขวางประตูความสำเร็จ (เตาฟีก) (ทำให้ประตูเตาฟีกปิด หรือประตูความสำเร็จปิด)
1. คนๆ หนึ่งง่วนอยู่กับตัวเนียะมัต แทนที่จะง่วนกับการขอบคุณในเนียะมัตนั้น
เนียะมัตคือสิ่งดีต่างๆ ที่อัลลอฮฺให้ เพื่อให้เป็นองค์ประกอบในการขับเคลื่อนให้เราเป็นบ่าวที่ดีต่ออัลลอฮฺมากยิ่งขึ้น เช่น เงินทอง ลูกหลาน สุขภาพดี ลูก
ตัวอย่างเช่น เมื่อได้รับมรดก ง่วนอยู่กับการนำเงินไปลงทุน ใช้สอย แทนที่จะง่วนกับการขอบคุณอัลลอฮฺด้วยสิ่งนั้น หรือซื้อบ้านใหม่ แล้วง่วนอยู่กับการตกแต่งบ้าน ดูแลบ้าน มากกว่าที่จะพาตัวเองให้ได้ขอบคุณอัลลอฮฺ ซึ่งมีความเสี่ยงมากที่ประตูเตาฟีกปิด
การขอบคุณในเนียะมัตของพระองค์ มี 3 อย่างประกอบ คือ ความรู้สึกของเราที่มีต่อเนียะมัตนั้น คำพูด และการกระทำของเรา
เรามีความรู้สึกดีกับเนียะมัตหรือเปล่า เรามีความรู้สึกว่าเนียะมัตมาจากอัลลอฮฺจริงหรือไม่ เพราะบางคนคิดว่าได้มาเพราะความพยายามของตนเอง หรือสามีเป็นคนให้ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
กล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮฺ พูดถึงชื่นชมอัลลอฮฺที่ให้ หรือชมตัวเอง เช่น เพื่อนชมว่าบ้านน่าอยู่ บอกเพื่อนว่าอัลลอฮฺให้ยืม ไปยืมที่อัลลอฮฺได้นะ
การแสดงออกถึงการกระทำ ขอบคุณพระองค์ด้วยการเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณ คือ เอาไปใช้ในทางที่เจ้าของ ผู้ให้พอใจ และไม่ใช้เนียะมัตไปทำในสิ่งที่พระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของไม่พอใจ
พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งว่าเราเอาเนียะมัตไปใช้ทำอะไร การดูแลรักษาเนียะมัตให้อยู่ในสภาพที่เจ้าของพอใจ เป็นหนึ่งในอิบาดะฮฺเช่นกัน เช่น เนียะมัตสุขภาพดี เอาตาไปทำอะไร
ง่วนกับเนียะมัตสุขภาพ เช่น เป็นคนเลือกกิน ดูแลสุขภาพมาก ออกกำลังกาย เพื่อให้ตัวเองมีรูปร่างดี ใส่เสื้อสวยๆ ซึ่งการอวดโฉมเป็นสิ่งที่พระองค์ไม่พอใจ
2. การที่เราได้ความรู้มากมาย แต่ไม่ได้เอาไปใช้ในทางปฏิบัติ (เรียนเยอะ แต่ไม่ปฏิบัติ)
มีวงฮาลาเกาะฮฺที่ไหนเข้าหมด แต่ยังโมโหง่ายเหมือนเดิม แล้วอ้างว่าเป็นพันธุกรรม ก็ฉันเป็นอย่างนี้
เรียนเยอะ รู้เยอะ แต่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่พยายามที่จะใช้ความรู้นั้น แล้วมีข้ออ้างกับตัวเองว่า ยังไม่พร้อมที่จะทำ ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยน
การเรียนเยอะ ที่ไม่ได้เอาไปปฏิบัติ จะเป็นตัวสกัดให้เราไม่ได้รับเตาฟีกจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺทำให้เราเป็นคนที่มีความรู้ที่สามารถเกิดเป็นอาม้าลซอและห์ได้
3. พอถึงเรื่องบาป..เขารีบ แต่พอเรื่องเตาบะฮฺ..เขาเลื่อน
พอจะทำบาป รีบ ไม่รอช้า ไม่คิดหน้าคิดหลัง ตัดสินใจจะทำก็ทำเลย แต่พอต้องเตาบะฮฺ เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ผลัดแล้วผลัดอีก ถามตัวเองว่าเราเป็นคนที่รีบเรื่องอะไร เราควรเป็นคนที่รีบเตาบะฮฺตัวต่อพระองค์
“และพวกเจ้าจงรีบเร่งกันไปสู่การอภัยโทษจากพระเจ้าของพวกเจ้า และไปสู่สวรรค์ซึ่งความกว้างของมันนั้น คือบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน โดยที่มันถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ที่ยำเกรง” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 133
การเตาบะฮฺตัวเป็นหนึ่งในเนียะมัตที่ใหญ่มากของการเป็นมนุษย์ เพราะถ้าไม่มีการให้เตาบะฮฺ เราจะอยู่ไม่ได้ เราทำบาปทุกวัน และการเตาบะฮฺ อัลลอฮฺทรงเมตตาให้เราทำได้เอง ไม่ต้องผ่านใคร ทำเวลาไหนก็ได้ และควรทำตอนที่รู้สึกผิด
พอเรื่องบาปคิดไม่นาน แต่พอเตาบะฮฺคิดแล้วคิดอีก เป็นสัญญาณที่ไม่ดี
4. การที่คนๆ หนึ่งรู้สึกภูมิใจที่เป็นเพื่อนกับคนดี ในขณะที่เขาไม่ได้เอาพฤติกรรมดีๆ จากคนๆ นั้นเลย
เช่น ปลื้มเชคคนหนึ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกอยากเป็นคนดีแบบเขา เท่ากับเราใช้เนียะมัตที่พระองค์ให้อย่างสิ้นเปลือง เพราะเนียะมัตคนดีที่เข้ามาในชีวิตเรา เป็นเนียะมัตที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลง
5. คนที่ไล่ล่าดุนยา ทั้งที่รู้ว่าดุนยานั้นกำลังหนีออกจากตัวเอง
ดุนยาเป็นสิ่งที่หนีเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าทุกวันตื่นเช้ามาไม่ได้คิดอะไรนอกจากหาเงิน ตำแหน่ง ผู้หญิง รถ บ้าน คือสัญญาณที่ไม่ดี
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า "หาก(มนุษย์)ลูกหลานอาดัม ได้รับหุบเขา 2 แห่ง ที่เต็มไปด้วยทองคำ แน่นอนพวกเขายังต้องการหุบเขาทองคำแห่งที่ 3 เพิ่มอีก และจะไม่มีอะไรบรรจุเต็มในท้องของ(มนุษย์)ลูกหลานอาดัมนอกจากก้อนดิน และพระองค์อัลลอฮฺ จะทรงอภัยโทษให้กับผู้ที่สารภาพผิดต่อพระองค์" หมายถึงว่า จนกว่าเขาจะเสียชีวิต จึงจะหยุดได้
คนที่บอกว่า ถ้าได้อย่างนั้นอย่างนี้ ฉันพอใจ คือคนที่ฝากความพอใจไว้กับอนาคต มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ศรัทธาจะมีความสุขพอใจอยู่กับปัจจุบัน ไม่อย่างนั้นก็ต้องไล่ล่าและเหนื่อยกับมัน
คนที่มีเป้าหมายเป็นดุนยา เขาจะเป็นคนที่ขาดทุนมากๆ เราต้องมีเป้าหมายเป็นอาคิเราะฮฺ แล้วก็ทำให้เต็มความสามารถที่ดุนยา ถ้าเรามีกิจการเยอะแยะมากมาย ถามตัวเองว่า ที่เราทุ่มเทแต่ละวัน ตื่นเช้ามานั่งคิดเรื่องกิจการธุรกิจของเรา มันเกี่ยวอะไรกับโลกอาคิเราะฮฺของเราบ้าง และถ้าจากไปวันนี้แล้ว อะไรที่เราเสียดายที่สุดถ้าเราไม่ได้ทำ เสบียงที่เราจะเอาไปอาคิเราะฮฺ มันเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เราทำอยู่ ถ้ามันสัมพันธ์กันเพื่อความพอพระทัยของอัลลอฮฺ เราจะเป็นคนที่กำไร
6. โลกอาคิเราะฮฺกำลังตามหลังเราอยู่ แต่เรากำลังหนีมันออกไป
จริงๆ แล้วอาคิเราะอฺกำลังตามหลังเราอยู่ แต่เราพยายามหนีมันออกไป ถ้ามี 3 คน ข้างหน้าเป็นดุนยา ตรงกลางเป็นเรา ข้างหลังเป็นอาคิเราะฮฺ ไล่กัน แค่หันหลังก็เจออาคิเราะฮฺแล้ว ถ้าเราจะเอาแต่ดุนยาข้างหน้า เราก็จะไม่มีวันไปถึง แต่ถ้าสลับกันจะเป็นแบบที่ท่านรอซูลกล่าว
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครก็ตามที่ไล่ล่าอาคิเราะฮฺ ดุนยาจะตามหลังเขาชนิดที่เขาไม่อยากได้ อัลลอฮฺก็จะให้”
อาคิเราะฮฺเล็กคือความตาย ซึ่งความตายอยู่ใกล้เรามาก คนที่พยายามหนีความตาย ไม่อยากพูดถึงมัน รู้สึกอึดอัด นั่นเป็นสัญญาณว่าชีวิตของเขาจะถูกปิดจากการได้รับความสำเร็จ (เตาฟีก) จากอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
สำหรับผู้ศรัทธา ความตายคือความหวังที่จะได้เจออัลลอฮฺ สำหรับผู้ปฏิเสธ ความตายเป็นสิ่งน่ากลัว เพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปเจอกับอะไรบ้าง
การไล่ล่าอาคิเราะฮฺ ยิ่งไล่หามัน เราจะยิ่งรู้สึกดีกับชีวิต แล้วดุนยา ชีวิตการงานของเราจะถูกเติมเต็ม แล้วเข้าที่เข้าทาง
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครก็ตามที่อาคิเราะฮฺเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา อัลลอฮฺจะจัดการการงานบนดุนยา ทำให้มันเข้าที่เข้าทาง ชนิดที่เขาไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมาย หนำซ้ำดุนยาก็จะไล่ล่าหาเขา แม้ว่าเขาไม่อยากได้ก็ตาม”
“ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ พระองค์ก็จะทรงให้เขาหลงทางไป และผู้ใดที่พระองค์ประสงค์ ก็จะทรงให้เขาอยู่บนทางอันเที่ยงตรง” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 39
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ผู้ใดที่อัลลอฮฺปรารถนาให้เขาได้รับความดีงาม พระองค์จะให้เขาเข้าใจศาสนา และอัลลอฮฺนั้นคือผู้ให้ ส่วนฉันคือผู้จัดสรร" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 71)