ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงเผยแผ่จากฉัน แม้เพียงหนึ่งอายะฮฺ(เพียงเล็กน้อย)”
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 3461)
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราฟังเรื่องเล่าจากสื่อหลักที่ตะวันตกคอยหนุนหลังมาตลอด คราวนี้สื่อเล็กๆ ผ่านมือถือเข้าถึงเราแล้ว เนื้อหาในหน้านี้ อ้างอิงจากอัลกุรอานและหะดีษ มีดังนี้ (คลิกหัวข้อเรื่องที่คุณสนใจได้เลย)
แผนการแยบคายของตะวันตก และความจริงของแนวคิดตะวันตก (อยู่หน้าถัดไป)
เบื้องหลังการตลาดสมัยใหม่ หมิ่นเหม่ชิริก (ตั้งภาคี มีหุ้นส่วน)
เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
เรื่อง "แผนการแยบคายของตะวันตก"
โดย อ.คอลิด วารีย์
มีนักวิชาการท่านหนึ่งได้กล่าวว่า "ชาวตะวันตกคนหนึ่งที่ชื่อว่า ชากิรี เขาบอกว่า 'หากต้องการจะทำลายมุสลิม ให้ทำลายชะบ๊าบ (วัยรุ่น) มุสลิม เริ่มทำลายที่วัยรุ่น ชากิรีได้บอกว่า อัลกุรอานเป็นที่มาของวัฒนธรรม เป็นเรื่องของจิตวิญญาณของมุสลิม เพราะฉะนั้นวิธีที่จะทำลายอัลกุรอานออกไปจากหัวใจของวัยรุ่น คือ ต้องใช้วัฒนธรรมตะวันตกแทรกเข้าไป"
ผู้บรรยายอธิบายเพิ่มเติมว่า
เวลาเราตามฝรั่ง แต่งตัวเหมือนฝรั่ง ทำตัวเหมือนฝรั่ง กินเหมือนฝรั่ง ร้องเพลงฝรั่ง อะไรก็เป็นฝรั่ง มันทำให้จิตวิญญาณของความเป็นอิสลามมันน้อยลง และหลายคนก็เริ่มดูถูกความเป็นอิสลาม มองว่า อ่อนแอเหลือเกิดมุสลิมเรา ดูสิ ไม่เจริญ ไม่เหมือนเขา เขามีความเจริญ
ชากิรี ได้บอกวิธีการคือ ให้เริ่มทำลายวัยรุ่น ทำลายอัลกุรอาน ไม่ใช่ว่าไปบิดเบือนหรือแต่งอัลกุรอาน มันไม่มีประโยชน์ เขาพยายามทำมาเป็นพันปีแล้ว ทำไม่ได้
วิธีการก็คือ เอาวัฒนธรรม ประเพณีของชาวตะวันตก เช่นในเรื่องประวัติศาสตร์ ให้เห็นความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ตะวันตก เวลาศึกษา ตัดประวัติศาสตร์อิสลามออกไป ไม่ไห้เห็นประวัติศาสตร์อิสลาม
อาณาจักรอิสลามเป็นอาณาจักรที่ปกครองโลกนี้มาพันกว่าปี แต่กลับไม่มีการกล่าวถึงเท่าไหร่นัก หายไปหมด เขากล่าวถึงยุคสำริด ยุคมนุษย์หิน ยุคมืด และยุคยุโรป โรมัน กรีก อาณาจักรเปอร์เซีย พูดหมด แต่อาณาจักรอิสลามพูดเพียงเล็กน้อย ทั้งที่อาณาจักรอิสลามพันกว่าปียืนยาวกว่าทุกอาณาจักรในอดีต เพิ่มล่มสลายไปแค่ 100 กว่าปีนี้เอง (ไม่พูดถึง)
นอกจากเอาประวัติศาสตร์ตะวันตกเข้าไป ยังเอาประเด็นอิสรภาพ ภารดรภาพใส่เข้าไปด้วย ตรงนี้จึงสามารถทำลายจิตวิณญาณวัยรุ่นมุสลิมได้
ปัจจุบันเราก็เป็นแบบนี้จริงๆ พอเราอยู่ในการเรียน เราก็เรียนแบบตะวันตก เราก็ตามฝรั่ง หาอาชีพแบบตะวันตก ศึกษาแบบตะวันตก ใช้ชีวิตแบบตะวันตก รู้สึกฟุ้งเฟ้ออยู่กับการซื้อของแบบตะวันตก และมันก็ทำลายเราจริงๆ ตามแผนการของเขาทุกอย่าง
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เล่าว่า : ท่านรอซูลุลลอฮฺกลับมาในตอนที่ฉันได้ติดม่านที่มีรูปบางอย่างไว้เหนือประตูห้องของฉัน เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺเห็น ท่านได้ดึงมันออกมาและกล่าวว่า “คนที่จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงที่สุดในวันแห่งการฟื้นคืนชีพคือคนที่พยายามจะทำสิ่งถูกสร้างของอัลลอฮฺ” ดังนั้น เราจึงได้ตัดม่านนั้นมา เปลี่ยนเป็นหมอนหนึ่งหรือสองใบ
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 5954)
ความจริงของแนวคิดตะวันตก
การศรัทธา คือ การเชื่อโดยไม่ลังเลสงสัย ระวังแนวคิด/วัฒนธรรมตะวันตกไว้ เพราะอาจทำให้คุณสงสัย ไม่ยอมรับในหลักการอิสลาม และเข้าทางชัยฏอน ลองเช็คลิสต์ คุณคิดแบบเขา เชื่อตามเขา ใช้ชีวิตแบบเขา กี่ข้อ
1.พื้นฐานความคิดแบบนักวิทยาศาสตร์
ฝึกให้เป็นคนช่างสงสัย ช่างวิเคราะห์ ช่างถาม นำไปสู่การสงสัยและไม่เชื่อในหลักการอิสลาม เช่น การทำหมัน จะมีการพิสูจน์ว่า ทำหมันดีกับคน/แมว แต่อิสลามสอนไว้ “จะท้อง/แท้ง เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺเท่านั้น” อัลลอฮฺจะทรงให้เกิดมาในจำนวนที่เหมาะสม ตามความสามารถ และพระองค์จะทรงประทานริสกี
ไม่เชื่อตามข้อมูลเดิม ประวัติศาสตร์เขียนใหม่ เขียนตามข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบทางวัตถุ ประวัติศาสตร์อิสลามจึงถูกบิดเบือน บางทฤษฎีมีเพื่อพิสูจน์สมมติฐานที่ตั้งไว้ ไม่จริงเสมอไป เช่น ทฤษฎีที่บอกว่าคนเกิดจากลิง แต่ในอัลกุรอานบอกไว้ชัดว่า มนุษย์เกิดจากดิน ตั้งแต่สมัยนบีอาดัม
ผลการวิจัยไม่จริงเสมอไป และที่ระบุชัดว่าให้ผล 100% (ในโลกนี้ไม่มีอะไร 100%) กำหนดวันเห็นผลแน่นอนก็หมิ่นเหม่ชีริค เพราะผลลัพธ์อยู่ที่อัลลอฮฺ เช่น ผลการวิจัยที่ระบุว่าเห็นผลใน 10 วัน บางคนป่วยไม่เหมือนกัน ตัวแปรต่างกัน ยาบางตัวไม่ถูกกับบางคน และอย่าเชื่อว่ายานั้นมีส่วนช่วยในการรักษา เพราะอัลลอฮฺเท่านั้นที่ให้หาย หมอ ยา วิธีการรักษาเป็นเพียงสาเหตุเท่านั้น
ความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีประโยชน์มาก แต่บางอย่างเลียนแบบการสร้างของอัลลอฮฺ เช่น โคล่นนิ่งมนุษย์ หุ่นยนต์เป็นการทำเจว็ด(รูปปั้น)
2. ทฤษฎีการออกแบบ ใช้ภาพอธิบายเข้าใจ เห็นภาพ จริง แต่ก็ต้องไม่ทำภาพสิ่งมีชีวิตหรือภาพที่เป็นสัญลักษณ์ศาสนาอื่น เพราะมีชัยฏอนในภาพ ต้นเหตุของความเจ็บป่วย ฟิตนะห์ ความปั่นป่วนวุ่นวาย ซึ่งตอนนี้ ภาพพวกนี้มีไปทั่ว ประชิดถึงตัว เช่น เสื้อผ้ารูปการ์ตูน หรือสัญลักษณ์ซักมือ ยังมีรูปมือ (อเมริกากำหนดสัญลักษณ์)
“โอ้ บรรดาผู้ศรัทธา หากพวกเจ้าสนับสนุน (ศาสนาของ) อัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงสนับสนุนพวกเจ้าและจะทรงตรึงเท้าของพวกเจ้าให้มั่นคง”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮฺมุฮัมมัด 7)
แนวคิดแบบตะวันตก
1. แนวคิดเรากำหนดอนาคตได้ นำไปสู่การคิดเปลี่ยนโลก
ทฤษฎีกฎแรงดึงดูด เขียนแผนชีวิต จินตนาการวาดอนาคตตัวเองได้ หลักคิดแบบนี้ จะนำไปสู่การคิดเองว่า สำเร็จได้ด้วยตัวเขาเอง แต่จริงๆ สำเร็จได้ด้วยอัลลอฮฺเท่านั้น พระองค์เป็นผู้ทรงกำหนดทุกอย่างอย่างเหมาะสม ถ้าหวังให้มีอนาคตที่ดี ทำเท่าที่มีความสามารถ ดุอาอฺ และมอบหมายต่อพระองค์
ยิ่งขอบคุณยิ่งเพิ่มพูน สอนให้เขียนขอบคุณสิ่งต่างๆ สอนว่าคิดบวกให้พลังบวก ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การคิดว่าที่เขาเจอเรื่องดีๆ มาจากเขาเอง แต่จริงๆ แล้วพลังทุกอย่างมาจากอัลลอฮฺ เพียงชูโกร ขอบคุณอัลลอฮฺ อัลลอฮฺจึงจะเพิ่มพูนให้ อัลลอฮฺให้เป็นไปตามที่บ่าวคิด/หวัง คิดดี อัลลอฮฺให้ได้ดี คิดลบ อัลลอฮฺให้ได้ลบ
รักตัวเอง ชมตัวเอง ขอบคุณตัวเอง นำไปสู่การหลงตัวเอง ตะกั๊บโบ๊ร (หยิ่ง ทะนงตน) มีสอนให้ขอบคุณร่างกาย แล้วเชื่อว่าสั่งจิตได้
โฟกัสอะไรได้อย่างนั้น บางอย่างนำไปสู่การตั้งภาคี (ชิริก) เพราะใจอาจเชื่อว่าข้อความนั้นมีผลกับเรา เช่น ติดข้อความบนแก้วน้ำแล้วดื่มทุกเช้า ใส่เสื้อ/สายรัดข้อมือ หรือติดป้ายในบ้าน หน้าร้าน เช่น โชคดี ใจดี ร่ำรวย จะได้ขายดี รวยๆ เฮงๆ
2.อิสระทางความคิด ความคิดนอกกรอบ
ค่านิยมให้เป็นตัวของตัวเอง be yourself หรือ follow your heart หรือ ฟังเสียงหัวใจตัวเอง นั่นคือฟังเสียงชัยฏอน
คิดนอกกรอบมากๆ นำไปสู่การคิดนอกกรอบศาสนา เช่น การยอมรับในเพศที่สาม
เป็นอิสระ ทำตามใจตัวเอง ตามอารมณ์ (ชัยฏอนนำ) อย่าพูดเล่นๆ ว่าไม่มีอารมณ์ หรือปล่อยตัวตามอารมณ์ เพราะหมิ่นเหม่ชิริก เช่น อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเงิน/คู่ การเขียนระบายอารมณ์ในไดอารี่/บล็อค ก็เป็นการตามชัยฏอน และมีส่วนที่ทำให้เราพูดหรือเขียนไม่กระชับ ยิ่งเขียนมาก ยิ่งคิดมาก มีส่วนทำให้เป็นโรคซึมเศร้า
ผู้หญิงเท่าเทียมกัน ทำเหมือนผู้ชายได้ ขัดกับหลักศาสนาที่อัลลอฮฺให้ทุกคนมีบทบาทเหมาะสม เป็นอามานะฮฺ(ความรับผิดชอบ) ที่ต้องไปตอบคำถามกับอัลลอฮฺ หากไม่ทำตามหน้าที่ ผู้ชายทำงานหารายได้ ผู้หญิงดูแลบ้าน ลูกไม่ดี สาเหตุหลักอยู่ที่ครอบครัว
การละทิ้งนมาซเป็นการแสดงถึงการปฏิเสธศรัทธา
รอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “การทิ้งนมาซเป็นสิ่ง (แตกต่าง) ระหว่างมนุษย์และการตั้งภาคี (ชีริก) และการปฏิเสธศรัทธา (กุฟร์)”
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 82)
ใช้ชีวิตบันเทิงแบบตะวันตก
1. ดนตรี เพลง เรียกชัยฏอน เปิดในร้านค้าขายซบเซา ขาดบารอกะห์ เปิดในบ้าน/ทีทำงาน เสียสมาธิ ฟังเพลงจนติดหู อาจกล่าวกาลิเมาะฮฺก่อนตายไม่ได้ มีวัยรุ่นที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่สามารถกล่าวกาลิเมาะฮฺ แต่กลับร้องเพลงก่อนตาย วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
2. เกม ละคร หนัง เน้นความรุนแรง เล่นเกม ดูหนัง ละครที่ใช้ความรุนแรงบ่อยๆ เราจะชินและเห็นเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งเมื่อมีสงคราม จะเห็นว่าการใช้วิธีทำลายล้างชุมชนเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ทั้งๆ ที่วิถีแห่งบุรุษ เขารบเฉพาะกับนักรบ ห่างไกลชุมชน และไม่ทำร้ายเด็ก ให้เกียรติสตรี และคนชรา และดูแลเชลยศึกเท่าเทียม
3. ติดซีรีย์ ไม่มีเวลาศึกษาศาสนา เข้าทางชัยฏอน ชัยฏอนจะหลอกให้เราห่างไกลจากการทำอิบาดะห์ ไม่สนใจศาสนา ทำให้เราไม่รู้ว่าอะไรคือบาป การดูสิ่งบันเทิง ทำให้เราตื่นละหมาดซุบฮิยาก เพราะมันเป็นบาปเล็ก แต่ดูจนติด บาปเล็กกลายเป็นบาปใหญ่ได้ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
4. รายการบันเทิง ที่ขัดกับหลักการศาสนา
รายการเม้าท์มอย ดูบ่อยๆ ชินกับการนินทา วิพากษ์วิจารณ์ ตัดสินคน เหมารวม จากเม้าท์ดารา วิจารณ์จังหวัด ประเทศ เป็นการอธรรมต่อคนอื่น
มายากล หลอกให้คนดูเชื่อ หมิ่นเหม่ชิริก
รายการแฟชั่น หรือประกวดนางงาม เป็นการเผยเอารัต(สิ่งที่ต้องปกปิด) การดูสิ่งหะรอมเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางตา และการเดินของนางแบบมีบุคลิกหยิ่ง (ตะกั๊บโบ๊ร) ไม่ควรเลียนแบบ วัลลอฮุอะอฺลัม
5. ถนัดมือซ้าย มีพรสวรรค์ รอซูลบอกไว้ “มือซ้ายเป็นการงานของชัยฏอน” และการออกแบบภาพสิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งที่รอซูลห้าม เพราะมีชัยฏอนอยู่ในภาพ หรือจะทานอาหารใช้มีด(มือขวา)-ส้อม(มือซ้าย) กินมือซ้าย ชัยฏอนกินด้วย
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "บรรดาสตรีที่มีบะเราะกะฮฺ (ความจำเริญ)ที่ยิ่งใหญ่ คือ ความเรียบง่ายของพวกนาง (ในการใช้จ่าย)"
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะหมัด อัลหากิม)
เทรนด์ แฟชั่น เงินไหลเข้าฝั่งตะวันตก
ตะวันตกผลิตสินค้าส่งออกทั่วโลก ส่งออกอาหารอันตราย บั่นทอนสุขภาพ ส่งออกสินค้าสิ้นเปลือง ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ยาแผนปัจจุบันที่มีผลข้างเคียง ของใช้/เครื่องสำอางใส่น้ำหอม มุสลิมะฮฺใส่ออกนอกบ้านหะรอม เงินไหลเข้ากระเป๋าเขา เอาไว้บำรุงประเทศเขา ซื้ออาวุธเพิ่ม ในประเทศเขาให้ใช้อาวุธอิสระจนชิน
กินแบบเขา ทำลายสุขภาพ อาหารส่วนใหญ่ไม่ฮาลาล อาหารฟาสต์ฟู้ด ทำร้ายสุขภาพ เช่น น้ำอัดลม ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร ของหวานทานบ่อยไม่ดีต่อโรคหัวใจ เครื่องดื่มเย็นจะปิดหลอดเลือดดำของหัวใจ เป็นสาเหตุของการเกิดหัวใจวาย ไอศกรีมหลายยี่ห้อ มาจากอเมริกา มีโฆษณา ให้ดาราเป็นแบบ แต่เบื้องหลัง เขาไม่ได้ใช้แบรนด์นั้น พวกเขากินอาหารคลีน อาหารสุขภาพ สุขภาพไม่ดี
ช้อปตามเขา ใช้ชีวิตตามเขา ห่างหลักการศาสนา กินหรู อยู่สบาย ท่องเที่ยว ขี่บิ๊กไบค์ เปลี่ยนมือถือบ่อย มีไม่เงินไม่พอ ผ่อนได้ กู้หนี้มีดอกเบี้ย ทำประกันชีวิต แต่งตัวตามแฟชั่น ที่เขาจะกำหนดว่าในแต่ละปี ให้สั้นกี่เซนติเมตร
ตามไอดอล ระวังไม่ตามนบี จำแต่คำคม ลืมคำสอนนบี บางสำนวนหมิ่นเหม่ชีริค รอซูลเน้นย้ำเสมอว่าให้ปฏิบัติตามซุนนะฮฺของท่าน เพราะจะตอบคำถามมลาอิกะฮฺในกุโบร์ว่ารอซูลคือผู้นำของเราได้นั้น ต้องใช้ชีวิตผูกผันกับรอซูล ไม่ใช่แค่รู้จักรอซูล แต่ไม่คิด ไม่เชื่อ ไม่ทำตาม ใช้ชีวิตตามใคร เสี่ยงตอบคำถามเป็นคนนั้นแทน
อ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเองตามเขา เล่นบททดสอบทางจิตวิทยา
หลักจิตวิทยาบางอย่างดี จะได้ไม่ทำตาม เช่น บุคลิกของคนหยิ่ง ตะกั๊บโบ๊ร จะนั่งไขว่ห้างบ่อย ยืนเท้าสะเอว แต่บททดสอบทางจิตวิทยา เช่น บททดสอบเจาะจุดแข็ง(พรสวรรค์) เป็นเพียงทดลองจากกลุ่มตัวอย่าง แล้วสรุปเหมารวม
สีบอกนิสัย/ความรู้สึก ถ้าเชื่อ หมิ่นเหม่ชิริก อัลกุรอานบอกไว้ “พระองค์คือผู้ทรงทำให้หัวเราะ และทรงทำให้ร้องไห้”
หนังสือเคล็ดลับความสำเร็จของคนตะวันตก ส่วนใหญ่ มาจากความคิดที่ว่า ความสำเร็จมาจากตัวเอง ซึ่งหมิ่นเหม่ชิริก อ่านมากๆ เชื่อตามเขาได้
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดที่เลียนแบบกลุ่มชนใด เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา”
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรีและมุสลิม)
วัฒนธรรมตะวันตก
1.ฉลองครบรอบ
วันปีใหม่สากล คือวันที่มุสลิมสูญเสีย เหตุการณ์สูญเสียที่มั่นสุดท้ายของมุสลิมอาณาจักรฆอรนาเฏาะฮฺ หรือ แกรนาดา ในอัลอันดะลุส (สเปน)ต่อสู้นาน 800 ปี
ฉลองวันเกิด ฉลองครบรอบ รอซูลก็ไม่ทำ ศาสนาจึงมีวันสำคัญ 2 วัน คือ วันอีด 2 อีด เมื่อเข้าใจไปว่า วันครบรอบทำได้ ก็เข้าใจว่า เมาลิดทำได้ ซึ่งหลังรอซูลเสีย ไม่มีศอฮาบะห์คนใดจัด เมาลิดครั้งแรกมาจากอียิปต์ พิธีกรรมใด ทำเกินคำสั่งนบี เป็นบิดอะห์ (อุตริกรรมทางศาสนา) แม้เราไม่จัด แต่เราก็มีส่วนร่วมไม่ได้ เพราะถือว่าไปสนับสนุนพิธีกรรมนั้น ทำบุญครบรอบก็เข้าข่าย
2. วาเลนไทน์ คบก่อนแต่ง เข้าใกล้ซีนา อิสลามห้ามไม่ให้เข้าใกล้ซีนา ลดสายลงต่ำ พูดธรรมดาเท่าที่จำเป็นกับคนต่างเพศ เพราะนำไปสู่ความปั่นป่วนวุ่นวาย ในหะดีษกล่าวไว้ว่า สาเหตุฟิตนะห์ส่วนหนึ่งมาจากผู้หญิง เพราะชัยฏอนจะยุยงให้ผู้หญิงเข้าใกล้ ผู้ชายคิดไปไกล อัลลอฮฺจะให้ชีวิตคู่มีบารอกะฮฺ (ความจำเริญ) เฉพาะคู่ครองที่ไม่ได้คุย/คบกันก่อนแต่งงาน คบนานแค่ไหน ก็ไม่รู้ตัวจริง ต้องละหมาดอิสติคอเราะห์
ความเชื่อแบบเขา เสี่ยงอากีดะห์เราเสีย
แนวคิดมูเตลู สายมู เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เมื่ออยากรวยเร็ว หรืออยากมีคู่ เห็นเขาทำกัน เราทำบ้าง นำไปสู่การเล่นเครื่องรางของขลัง เช่น เบอร์โทรเลขซ้ำ ป้ายทะเบียนสวย หินสีมงคล เล่น pick a card ดูไพ่ยิบซี ฟังคำทำนายราศี
แนวคิดคู่แท้ทวินเฟรมและกฎแรงดึงดูด คิดว่าถ้าเจอเลขซ้ำ เช่น 11:11 เป็นสัญญาณบอกว่าจะได้เจอคู่ หรือมีเรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิต คนค้าขายบางทีก็ใช้โปรเลขซ้ำ บางองค์กรก็ใช้เป็นฤกษ์ดี เช่น โปร 11:11 ซึ่งความเชื่อนี้หมิ่นเหม่ชิริก อัลลอฮฺทรงกำหนดชีวิตเราโดยไม่มีสัญญาณเหล่านี้
D-Day ฤกษ์ดี ไม่มีในอิสลาม อัลลอฮฺทรงให้ทุกวันเป็นวันที่ดี แนวคิด D-Day ดี-เดย์ เป็นรหัส D หมายถึง deliverrance การมอบคืน ดี-เดย์คือวันมอบคืนอิสรภาพให้แก่ประเทศที่เยอรมนีตียึดครองในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
"ในวันที่ผู้อธรรมจะกัดมือของเขาแล้วจะกล่าวว่า “โอ้! ถ้าฉันได้ยึดแนวทางร่วมกับรอซูลก็จะเป็นการดี โอ้ความวิบัติแก่ฉัน! หากฉันไม่คบคนนั้นเป็นเพื่อน แน่นอน เขาได้ทำให้ฉันหลงผิดจากการตักเตือน (ตัฟซีร: หลังจากการฮิดายะฮฺและการอีมาน)"
อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลฟุรกอน 27-29
(ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
ถ้าคุณติดโซเชียลจนเกินไป ระวังว่าคุณกำลังเข้าทางชัยฏอนแล้ว เราสนุกอยู่กับความบันเทิง สิ่งไร้สาระ แต่ยิวเอาเวลาพัฒนาไปไกลแล้ว
เชียร์ให้โพสต์รูป เจ้าของสื่อโซเชียลอาจไม่รู้ แต่มุสลิมไม่ควรลืม เพราะรูปสิ่งมีชีวิต เป็นเหตุให้เกิดความริษยาของคน และในภาพมีสายตาริษยาของญิน และชัยฏอน คนที่ทำภาพสิ่งมีชีวิตเป็นการเลียนแบบการสร้างของอัลลอฮฺ มีโทษหนัก วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
แชร์ให้บอกสถานะ เล่าเรื่องตัวเอง การเล่าเรื่องตัวเอง ทำให้ห่างจากความอิคลาศ เสี่ยงต่อการโอ้อวด (ชีริกเล็ก) การโพสต์ว่าคนอื่น ก็เหมือนการนินทาใส่ร้าย การบ่นก็ทำให้เราขาดผลบุญ ความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺจะมาในช่วงแรกของการอดทน
โฆษณาตามติดเรา รู้ได้ไงว่าเราชอบอะไร เจ้าของสื่อโซเชียลบางคนเป็นยิว และรู้ข้อมูลส่วนตัว มีวิธีให้คนที่ต้องการโฆษณา ใส่ข้อมูลลูกค้า เช่น ชื่อ เบอร์โทร และระบุว่าต้องการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มใด ข้อมูลส่วนตัวไม่เป็นความลับอีกต่อไป บางพรรคการเมืองเอาวิธีนี้นี้ใช้หาเสียงด้วย
มีเพื่อนในโซเชียลเยอะ มีเพื่อนสนิทเป็นคนต่างศาสนิก เสี่ยงซึมซับแนวคิดหมิ่นเหม่ชิริก เช่น เราสร้างงานได้ แต่จริงๆ อัลลอฮฺเป็นผู้กำหนดอาชีพให้ตั้งแต่แรกเกิดแล้ว ว่าโตมาจะทำอะไร
แชทกับเพื่อนต่างเพศ คือการเข้าใกล้ซีนา การแชทถึงคนอื่นมากๆ นำไปสู่การใส่ร้าย (พูดเรื่องไม่จริง ต้องไปขอโทษเจ้าตัว) คนฟังก็ได้รับบาปจากการร่วมนินทา และบาปของการนินทาใส่ร้ายคือ ความดีเราจะไปอยู่ที่เขา และถ้าความดีเราหมด ความชั่วเขาจะตกมาที่เราแทน วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
แชทส่งสติ๊กเกอร์ให้กัน มีชัยฏอนในภาพร่วมด้วย นำไปสู่การเม้าท์ นินทา(พูดเรื่องจริงที่เขาไม่ชอบ) และทะเลาะกัน
แนวคิดการตลาดสมัยใหม่ เสี่ยงใจไม่อิคลาศ นำไปสู่การโอ้อวด ตะกั๊บโบ๊ร คือ ชีริกซ่อนเร้น รอซูลเป็นห่วงอุมมะห์ของท่านเรื่องนี้มาก วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
ใส่ภาพคน มีรีวิว ไลฟ์สด ทุกส่วนในร่างกายมุสลิมะห์ต้องปกปิด อย่ากลัวว่าจะขายไม่ได้ถ้าไม่ทำแบบนี้ ค้าขายจะมีบารอกะฮฺเมื่อทำตามเจ้าของริสกี (อัลลอฮฺ) เท่านั้น
การตลาดแฝง บทความที่ดูดีมีสาระ แต่ลงท้ายขายของนั้นไม่อิคลาศเพราะเจตนาแฝงขายของ เขียนบทความแยก ขายแยกกันให้ชัดเจน
เน้น Personal Brand การเล่าเรื่องตัวเอง เน้นสร้างภาพลักษณ์ เสี่ยงต่อการโอ้อวด ตะกั๊บโบร ชัยฏอนจะคอยกระซิบกระซาบให้เราทำการตลาดแบบมี story telling อาจจะขาดความอิคลาศได้
เขียนสรรพคุณ “ช่วย” อัลลอฮฺเท่านั้นที่ช่วยเรา ผลลัพธ์อยู่ที่อัลลอฮฺ ใส่สรรพคุณ/หน้าที่ของผลิตภัณฑ์นั้น อย่าใส่คอนเทนต์ที่มีคำว่า “ช่วย” เพราะคนซื้ออาจจะเข้าใจว่า สินค้านั้นช่วยได้จริงๆ ไม่มีตัวช่วย ไม่มีอะไรเป็นส่วนช่วย เพราะในการละหมาดทุกครั้ง เราบอกอัลลอฮฺเสมอในซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ “เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราเคารพสักการะ เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ” ทุกการกระทำควรสอดคล้องกับคำพูด
โฆษณาซ้ำๆ ให้เห็นบ่อยๆ ใช้วิธีคล้ายชัยฏอนกระซิบกระซาบเรา พอเราฟังบ่อยๆ ก็เชื่อ นึกว่าเป็นไอเดียดี และทำตาม การโฆษณาก็เช่นกัน
การใช้ influencer รีวิว เช่น คนดังมารีวิว โฆษณาให้ ไม่ตรงไปตรงมา ไม่อิคลาศ เพราะมีเจตนาสร้างความน่าเชื่อถือ ไม่จริงเท่าลูกค้ารีวิวเอง พอขายได้ อาจจะคิดว่าขายได้เพราะคนดัง แต่จริงๆ ขายได้ เพราะอัลลอฮฺให้และเป็นบททดสอบความศรัทธา วัลลอฮุอะอฺลัม
ดุอาอฺขอให้พ้นจากชิริกชนิดเบาบาง (ชิริกเล็ก)
"อัลลอฮมมะ อินนา นะอูซูบิกา มินอันนุชริกา บิกาชัยอัน นะละมุฮู วะนัสตัฆฟิรุกา ลิมาลา นะละมุฮู"
(โอ้ อัลลอฮฺ แท้จริงเราขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจากการตั้งภาคีต่อพระองค์ในสิ่งที่เรารู้และเราขออภัยโทษต่อพระองค์ในสิ่งที่เราไม่รู้"
7. มีแบรนด์ มีโลโก้ ใส่คอนเทนต์เกินจริง การใส่ชื่อสินค้า/เขียนคอนเทนต์เกินจริง ขาดบารอกะฮฺ เช่น คำว่า ราชา เทพ ดีที่สุด การให้ความหมายแบรนด์โลโก้เสี่ยงต่อการคิดว่าขายได้เพราะแบรนด์ แต่จริงๆ ขายได้เพราะอัลลอฮฺเท่านั้น และถ้าใส่ภาพสิ่งมีชีวิตลงไปในโลโก้/ฉลากสินค้า ยิ่งมีโทษหนัก เพราะเพิ่มชัยฏอน สาเหตุความเจ็บป่วย ความวุ่นวาย
8. ขายมีของแถม/รางวัล วิธีนี้ศาสนาห้าม เพราะถือเป็นการพนัน ไม่ยุติธรรมต่อสินค้า/ร้านอื่น คนซื้อสนใจของแถมมากกว่า และคนขายก็อาจเสี่ยงต่อการไม่อิคลาศ เพราะคิดว่าขายไม่ได้แน่ ถ้าไม่แถม/มีรางวัล แต่จริงๆ ขายของมีคุณภาพ ราคาย่อมเยาว์ จึงจะมีบารอกะฮฺ
9. เปิดบริการถึงเที่ยงคืนหรือ 24 ชั่วโมง อาจทำงานเหนื่อยจนพลาดโอกาสรับผลบุญละหมาดตะฮัดญุด อัลลอฮฺทรงตอบรับทุกดุอาอฺที่ดี ทรงปกป้องให้ห่างไกลจากฟิตนะหฺร้ายๆ โรคร้ายๆ (อ่านผลบุญละหมาดตะฮัดญุดเพิ่มเติม) และอาจลืมเวลาหมาดวันศุกร์ เพราะการซื้อขายหลังจากมีการอะซานครั้งที่ 2 สำหรับคนที่ต้องละหมาดวันศุกร์ เป็นสิ่งต้องห้าม
10. เร่งปิดการขาย อัลลอฮฺกำหนดเวลาที่เหมาะสมไว้แล้ว การเร่งลูกค้าให้ตัดสินใจ เป็นการกดดันลูกค้า เขาอาจไม่ซื้อเพราะไม่ให้เวลาเขาดู
11. บริจาคในนามองค์กร/ร้านค้า แล้วโพสต์ ทำความดี มีโอกาสฟาวล์ เมื่อริยาอฺ โอ้อวด เช่น รู้สึกสุขใจเมื่อมีคนเห็น
อ่าน "ค้าขายตามหลักการอิสลามมีบารอกะฮฺ” <คลิก> มีข้อห้ามการซื้อขายและเคล็ดลับการขายตามหลักการอิสลามรวมอยู่ในนั้น
"และเรามิได้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้น โดยไร้สาระ นั่นคือการนึกคิดของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น ความหายนะคือไฟนรกจงประสบแก่ บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา" (ตัฟซีร: ที่เป็นเป้าหมายนั่นก็คือ เพื่อเคารพอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ตามที่พระองค์ทรงบัญญัติให้แก่ปวงบ่าวของพระองค์ เช่น การอิบาดะฮฺทางจิตใจ ทางคำพูด และทางปฏิบัติ)
อัลกุรอาน ซูเราะฮฺศอด 27
(ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
บางรายการข้างต้น ถ้าทำผิดเพียงข้อเดียว ไม่รีบกลับตัว อาจสายเกินแก้ การคิดแบบเขา ใช้ชีวิตแบบเขา บางอย่างเสี่ยงหมิ่นเหม่ชีริค รอซูลเคยเตือนไว้ว่า เมื่อใกล้วันกิยามะฮฺ “เช้าเป็นมุสลิม เย็นเป็นกาเฟร” วัลอิยาซุบิลลาฮฺ ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องรีบทำคือ เตาบะฮฺ (กลับตัว)และปรับปรุง แก้ไข เพราะมีผลที่ดุอาอฺจะถูกตอบรับ วัลลอฮุอะอฺลัม
กล่าวคำปฏิญาณตนใหม่ทันที ดังภาพ หากมีความเชื่อที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ และสัญญากับพระองค์ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก อัลลอฮฺทรงเมตตาเสมอ
ศึกษาศาสนา เรียนรู้หลักศาสนาที่เกี่ยวกับสาขาวิชาชีพ เพราะเป็นฟัรดูอีน ควรเรียนก่อนที่จะทำอาชีพนั้น จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของแนวคิดตะวันตก ที่เริ่มจากให้คิด/เชื่อตาม ทำตามเขา ปฏิเสธในหลักการศาสนาเรา และสุดท้าย ศรัทธาในศาสนาของเขาแทน วัลอิยาซุบิลลาฮฺ ในอัลกุรอาน-หะดีษ มีวิธีแก้ปัญหา กุญแจไขริสกี เคล็ดลับความสำเร็จที่แท้จริง ทั้งดุนยา อาคิเราะฮฺ
ปฏิบัติอิบาดะห์สม่ำเสมอ เพิ่มอิบาดะห์สุนัต เช่นละหมาด/ถือศีลอดสุนัต กุญแจไขริสกี นั่นคือการเรียนรู้ศาสนา ทำอิบาดะห์เป็นหลัก อ่านอัซการเช้า-เย็น อัลลอฮฺทรงคุ้มครองครอบคลุมทุกด้าน ทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ
มอบหมายชีวิตต่ออัลลอฮฺ(ตะวักกัล)ละทิ้งวัฒนธรรมตะวันตก เมื่อมอบหมายชีวิต อัลลอฮฺทรงดูแลอย่างดี ชีวิตลงตัวและง่ายดาย ที่เคยวุ่นวาย มีเงินไม่พอใช้ เพราะไม่เข้าหาอัลลอฮฺ ลำดับความสำคัญผิด ชีวิตลำบาก อัลลอฮฺต้องมาอันดับ 1
ทุกการงานเนียตทำเพื่ออัลลอฮฺ และอ่านดุอาอฺขอให้พ้นจากชีริคเล็ก (ตะกั๊บโบร โอ้อวด) หากรู้ตัวว่าเป็นคนอ่อนไหวง่าย ปิดสื่อโซเชียล เลือกเฉพาะที่เป็นส่วนตัว
ปรับปรุงแก้ไขได้แล้ว ตักเตือนกันเพื่ออัลลอฮฺ เพราะเป็นฟัรดูกีฟายะห์ หากในชุมชนหนึ่งมีฟิตนะห์ แล้วไม่มีใครตักเตือนกัน มีผลต่อการที่จะมีอาซาบได้
บททดสอบหลังเตาบะฮฺ โอกาสในการลบความผิด เช่น โรคทางกาย เช่น หูอื้อ มีเสียงในหู เพราะฟังเพลง นินทา โรคทางใจ ซึมเศร้า หูแว่ว แพนิค วิตกกังวล เพราะห่างอัลลอฮฺ หรือโรคเกี่ยวกับพฤติกรรม เช่น กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ เพราะตามอารมณ์ วัลลอฮุอะอฺลัม อดทนเพื่ออัลลอฮฺ
“อุปมาของสวนสวรรค์ซึ่งบรรดาผู้ยำเกรงได้ถูกสัญญาไว้ในสวนสวรรค์นั้นมีธารน้ำหลายสายที่ไม่ผันแปร (ทั้งรสและกลิ่น) และธารน้ำนมหลายสาย ที่รสชาติของมันไม่เปลี่ยนแปลง และธารน้ำจัณฑ์ (เหล้า) หลายสายเป็นโอชะอร่อยแก่ผู้ดื่ม และธารน้ำผึ้งที่สะอาดบริสุทธิ์หลายสาย และสำหรับพวกเขาในสวนสวรรค์นั้นมีผลไม้หลายชนิด และการอภัยโทษจากพระเจ้าของพวกเขาจะเหมือนกับผู้ที่พำนักอยู่ในไฟนรก และถูกให้ดื่มน้ำร้อนจัดแล้วมันตัดลำไส้ของพวกเขากระนั้นหรือ?”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮฺมุฮัมมัด 15)
อัลลอฮฺทรงประทานศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาแห่งความเมตตา ให้อภัย ผ่อนปรนและง่ายดาย มีอัลกุรอานและหะดีษเป็นทางนำในการใช้ชีวิต ไม่ได้ลำบากอย่างที่เข้าใจ
1. การใช้ชีวิตตามแบบรอซูลสอน ถูกมองข้าม
ปิดหน้าทำไม ณ ตอนนี้เวลามีสงคราม มีคนมองลบว่า ถ้าดีจริงทำไมต้องปิดหน้า แต่การปิดหน้านั้น ดีต่อการรักษาใจให้อิคลาศ ไม่เสี่ยงฟิตนะห์ และห่างไกลจากสายตาริษยาของคน ญิน และชัยฏอน
ไว้เคราทำไม การไว้เคราในดุนยา เพื่อแยกเพศสภาพ ว่าใครเป็นชาย เป็นหญิง แต่ในสวรรค์หนุ่มๆ ไม่ต้องไว้เคราแล้ว
ใช้ไม้ซิวากแปรงฟัน เชยไปไหม มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ป้องกันแบคทีเรียได้นานกว่าการใช้แปรงสีฟัน เวลาเหงือกบวม/ปวดฟัน พอใช้แล้ว อัลลอฮฺให้หายเร็วมาก อินชาอัลลอฮฺ ลองใช้ก่อนคิดว่าไม่ดี
แมลงวันตกน้ำ สกปรก ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "เมื่อแมลงวันตกลงในเครื่องดื่มของพวกท่าน จงทำไห้มันจมทั้งตัวของมัน แล้วเอาแมลงวันออก(จากเครื่องดื่ม) แท้จริงแล้วหนึ่งในสองของปีกมันนั้นมีโรค และอีกอันคือยา"
ผู้ชายมีภรรยาได้ 4 คน เป็นเรื่องจริง แต่ไม่จบประโยค อัลกุรอานกำหนดไว้ชัด ความว่า “จงแต่งงานกับผู้ที่ดีแก่พวกเจ้า ในหมู่สตรี สองคน หรือสามคน หรือสี่คน แต่ถ้าพวกเจ้าเกรงว่าพวกเจ้าจะให้ความยุติธรรมไม่ได้ ก็จงมีแต่หญิงเดียว หรือไม่ก็หญิงที่มือขวาของพวกเจ้าครอบครองอยู่ นั้นเป็นสิ่งที่ใกล้ยิ่งกว่าในการที่พวกเจ้าจะไม่ลำเอียง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิซาอฺ 3)
การเลือกคู่ครอง ให้ดูที่ความสวย รวย ตระกูลดี แต่ศาสนาให้เลือกหญิงที่ดีมีศาสนา ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ผู้หญิงถูกแต่งงานด้วยเหตุผลหนึ่งในสี่ประการนี้ คือ เพื่อทรัพย์สินของนาง สถานะ ความสวยงาม และศาสนาของนาง ดังนั้น จงเลือกหญิงที่มีศาสนา ขอให้มือของท่านเปรอะไปด้วยฝุ่น" (ขอให้มีความสุขนะ) (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี 5090)
"ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การประหารฆาตกรให้ตายตามในกรณีที่มีผู้ถูกฆ่าตายนั้น ได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว คือชายอิสระต่อชายอิสระ และทาสต่อทาส และหญิงต่อหญิง แล้วผู้ใดที่สิ่งหนึ่งจากพี่น้องของเขาถูกอภัยให้แก่เขาแล้ว ก็ให้ปฏิบัติไปตามนั้นโดยชอบ และให้ชำระแก่เขาโดยดี นั่นคือการผ่อนปรนจากพระเจ้าของพวกเจ้า และคือการเอ็นดูเมตตาด้วย"
(อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 178)
2. กฎหมายอิสลามที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและยุติธรรม แต่มองว่ารุนแรง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ชัด
การประหารชีวิตด้วยวิธีตัดคอ โหดไปไหม ประหารชีวิต ด้วยวิธีฟันคอ เมตตาที่สุด สุภาพที่สุด นิ่มนวลที่สุด ในแง่วิทยาศาสตร์ พิสูจน์แล้ว ดีที่สุด เจ็บน้อยที่สุด หากใช้วิธีอื่นนั้นเป็นการทรมาน "อัลลอฮฺทรงเมตตาปราณีต่อปวงบ่าวของพระองค์ บทบัญญัติจากพระองค์จึงมีความละเอียด มีความเมตตา แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย" สิ่งที่หะรอมเอามาใช้ในการประหารชีวิตไม่ได้ เช่น ให้ดื่มแอลกอฮอล์จนตาย บุหรี่มาจี้ ไฟช็อต รอซูลกล่าวว่า "ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะทรมานด้วยไฟ นอกจากองค์พระผู้อภิบาลของไฟ" (อัลลอฮฺ) (เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ ในตัฟซีรอัลบะเกาะเราะฮฺ 194 สอนโดย เชคริฎอ อะหมัด สมะดี)
การฆาตกรรมที่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต เป็นการกระทำที่รุนแรง อัลลอฮฺทรงเลือกวิธีการตัดสินที่เหมาะสมและเมตตา ยังให้โอกาสฆาตกรในการกลับเนื้อกลับตัว และจ่ายค่าชดเชยแทนได้ หากญาติของผู้ตายอภัยให้
การลงโทษขโมยด้วยวิธีตัดมือ แรงไปไหม การลงโทษที่เด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไม่ให้ทำไปมากกว่านี้ ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "มือต้องไม่ถูกตัดยกเว้นการขโมยอะไรบางอย่างที่มีค่าหนึ่งในสี่ของดีนาร์ หรือมากกว่านั้น" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี) และอีกหะดีษหนึ่งท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺทรงสาปแช่งชายคนหนึ่งที่ขโมยไข่ฟองหนึ่งและให้ตัดมือของเขา หรือขโมยเชือกเส้นหนึ่งและให้ตัดมือของเขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 7683) เมื่อกฎหมายชัด สังคมสงบสุข เช่น ซาอุดิอาระเบีย เมื่อถึงเวลาละหมาดพ่อค้าก็คลุมผ้าบนแผงขายของ แล้วไปละหมาดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องขโมย