เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
หัวข้อ 40 ภารกิจ
ที่ลบล้างความผิดให้ผู้ศรัทธา
สอนโดย อ.ซิดดิ๊ก มูฮำหมัดสะอี๊ด
ภารกิจลบล้างความผิดให้ผู้ศรัทธา (สรุปจากคลิป)
ใครถนัดภารกิจไหน ทุ่มเททำให้มากๆ อย่าปล่อยให้เราไมได้ทำภารกิจใดเลย และก็ปล่อยให้ความผิดนั้นมันหมักหมมอยู่ในบัญชีของเรามากๆ คนที่ปล่อยให้บัญชีความผิดหมักหมมจะเป็นคนที่ขาดทุนที่สุดในอาคิเราะฮฺ ดังนั้น ก่อนที่ความตายจะมาถึง ทำให้เต็ม หวังในความเมตตาจากพระองค์ที่จะทรงลบล้างความผิดออกไปจากบัญชีของเรา
1. การเตาบะฮฺตัวต่ออัลลอฮฺ และหมั่นขออภัยโทษต่อพระองค์
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงกลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮฺเถิด เพราะแท้จริงฉันเองก็กลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮฺ วันละ 100 ครั้ง” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม)
รอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺจะลงมาสู่ฟ้าชั้นที่หนึ่งในทุกๆ คืนในช่วงหนึ่งในสามสุดท้ายของคืน แล้วพระองค์จะกล่าวว่า มีผู้ใดวิงวอนขออะไรจากข้าไหม แล้วข้าตอบรับคำขอนั้น มีผู้ใดขออะไรจากข้าไหม แล้วข้าจะให้เขาในสิ่งที่เขาขอ มีผู้ใดที่ขออภัยโทษต่อข้าไหม แล้วข้าจะอภัยให้แก่เขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 1145 สำนวนนี้เป็นของท่าน และมุสลิม เลขที่ 758)
2. ละหมาดสุนัตเพื่อการเตาบะฮฺตัว (2 รอกะอัต)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ไม่มีบ่าวคนใดที่ทำบาปหนึ่งบาปใด แล้วเขาก็ทำวุฎูอฺ(อาบน้ำละหมาด)อย่างดี จากนั้นก็ลุกขึ้นละหมาดสองร็อกอะฮฺ แล้วก็ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงอภัยให้กับเขา" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอบูดาวุด เลขที่ 1521)
3. การกล่าวขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บุคคลใดที่กล่าว
" أستغفرالله العظيم الذي لا إله إلا هو الحي القيوم وأتوب إليه
อ่านว่า "อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม อัลละซี ลาอิลาฮะอิลลาฮุวัลหัยยุลก็อยยูม วะอะตูบุอิลัยฮิ"
ความว่า "ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์อัลลอฮฺ ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใด ยกเว้นแต่พระองค์ผู้ทรงชีวิน ผู้ทรงดำรงอยู่ถาวร และฉันขอลุแก่โทษต่อพระองค์"
พระองค์อัลลอฮฺจะอภัยโทษให้แก่เขา ถึงแม้เขาเคยกระทำความผิดโดยการหนีสงคราม" (หะดีษ บันทึกโดยอัตติรมีซีย์ ลำดับที่ 2831/3)
4. ออกห่างและไม่ใยดีต่อการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺโดยสิ้นเชิง
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า 'โอ้ ลูกหลานอาดัม! ตราบใดที่เจ้ายังคงวิงวอนและคาดหวังจากข้า ข้าจะอภัยให้เจ้าในสิ่งที่มีอยู่ในตัวเจ้า และข้าไม่ถือสาอะไรเลย โอ้ ลูกหลานอาดัม! ถึงแม้ว่าบาปของเจ้าจะสูงถึงฟากฟ้า แต่หากเจ้าขออภัยโทษจากข้า ข้าจะอภัยให้เจ้า และข้าไม่ถือสาอะไรเลย โอ้ ลูกหลานอาดัม หากเจ้ามาพร้อมกับความผิดมากมายจนเต็มแผ่นดิน และพบกับข้าโดยไม่ตั้งภาคีต่อข้า ข้าจะมอบการอภัยให้เจ้าจนเต็มแผ่นดินเช่นกัน” (หะดีษ (กุดซีย์) หะสัน บันทึกโดยอัตติรมีซีย์ เลขที่ 3540)
5. กล่าวดุอาอฺหลังอะซาน
ท่านรอซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ใครที่ได้ยินมุอัซซินกล่าวอะซาน และกล่าวว่า อัชฮะดุอัน ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วะฮฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺ วะอันนะมุฮัมมะดัน อับดุฮู วะเราะซูลุฮฺ เราะฎีตุบิลลาฮิ ร็อบบา วะบิมุฮัมมะดิน รอซูลา วะบิลอิสลามะดีนา (ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น และพระองค์ไม่มีหุ้นส่วนใดๆ และมุฮัมมัดเป็นบ่าว และรอซูลของพระองค์ ฉันพอใจให้อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าของฉัน และมุฮัมมัดเป็นรอซูล และอิสลามเป็นศาสนา) บาปของเขาจะได้รับการให้อภัย” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 386)
6. การอาบน้ำละหมาด (ล้างถูอย่างทั่วถึง สะอาดสะอ้าน)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “เมื่อมุสลิมทำวุฏู๊อฺ (ชำระล้างร่างกายเพื่อทำนมาซ) และล้างหน้าของเขา บาปทุกอย่างที่เขาได้ทำไปโดยสายตาของเขาจะถูกชำระล้างออกไปด้วยน้ำ (หรือด้วยหยดสุดท้ายของน้ำ) เมื่อเขาล้างมือของเขา บาปทุกอย่างที่เขาทำไปด้วยมือจะหายไปด้วยน้ำ (หรือด้วยหยดสุดท้าย ของน้ำ) และเมื่อเขาล้างเท้าของเขา บาปทุกอย่าง ที่เขาทำไปด้วยเท้าของเขาจะหายไปด้วยน้ำ (หรือด้วยหยดสุดท้ายของน้ำ) จนกระทั่งเขาบริสุทธิ์จากบาปทั้งหมด” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 244)
7. ละหมาดฟัรฎูให้ครบ 5 เวลา ทำเพื่ออัลลอฮฺอย่างแท้จริง
ท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านลองตอบสิว่า ถ้าหากว่าหน้าประตูบ้านของพวกท่านมีแม่น้ำไหลผ่าน เพื่อที่พวกท่านจะได้อาบน้ำชำระร่างกายห้าครั้งในทุกๆวัน แล้วท่านยังจะมีสิ่งสกปรกหรือกลิ่นตัวติดเหลือค้างอยู่อีกไหม?” บรรดาผู้ที่ฟังท่านอยู่ตอบว่า 'จะไม่มีสิ่งสกปรกลงเหลือเลย' ท่านก็กล่าวอีกต่อไปว่า “ดังนั้นการละหมาดห้าเวลาก็เช่นกัน อัลลอฮฺจะทรงชำระบาปและความผิดต่างๆ ของพวกท่านด้วยการละหมาด” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี)
8. ในการละหมาดให้รูกัวะและสุญูดนานๆ
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงบ่าวคนหนึ่งนั้นเมื่อเขายืนละหมาด บาปของเขาทั้งหมดจะถูกนำมาและจะถูกวางไว้บนศีรษะและไหล่ทั้งสองของเขา ซึ่งทุกๆ ครั้งที่เขารุกูอฺหรือสุญูดบาปก็จะร่วงตกลงมาจากตัวเขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ ใน ศอฮีฮุลญามิอฺ เลขที่ 1671)
9. การละหมาดสุนัตในยามค่ำคืน
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “จำเป็นที่พวกท่านจะต้องละหมาดในยามค่ำคืน เพราะแท้จริงมันเป็นคุณลักษณะของบรรดาคนดีก่อนหน้าพวกท่าน และการละหมาดในยามค่ำคืนนั้นเป็นสิ่งที่ใช้แสวงหาความใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ และเป็นการยับยั้งความผิดบาป และลบล้างสำหรับบาปต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการขจัดโรคออกจากร่างกาย” (หะดีษเศาะฮีหฺ ใน ศอฮีฮุลญามิอฺ เลขที่ 4079)
10. การรำลึกถึงอัลลอฮฺหลังจากละหมาดฟัรฎู
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครที่กล่าว ซุบฮานัลลอฮฺ 33 ครั้ง หลังการนมาซทุกครั้ง และกล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮฺ 33 ครั้ง และ อัลลอฮุอักบัรฺ 33 ครั้ง รวมเป็น 99 ครั้ง และกล่าวให้ครบร้อยด้วยคำว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วะฮฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺ ละฮุลมุลกุ้ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะอะลา กุลลิชัยอิงเกาะดีร บาปของเขาจะได้รับการอภัย แม้มันจะมากมาย เหมือนฟองน้ำในทะเลก็ตาม” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 597)
11. การนั่งรอคอยการละหมาดฟัรฎู (หลังจากละหมาดฟัรฎูเวลาหนึ่งเสร็จสิ้นไปแล้ว)
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “คนหนึ่งในหมู่พวกท่านเมื่อนั่งรอคอยการละหมาด(นั่นเท่ากับว่าเขาได้อยู่)ในการละหมาดแล้ว ตราบใดที่เขาไม่มีหะดัษ มวลมะลาอิกะฮฺจะขอดุอาอฺให้แก่เขา 'โอ้ อัลลอฮฺ โปรดอภัยโทษให้แก่เขา โอ้ อัลลอฮฺ โปรดเมตตาเขา'“ (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 649)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เอาไหม ถ้าฉันจะบอกพวกท่านซึ่งการงานที่อัลลอฮฺจะทรงลบล้างความผิดให้แก่พวกท่าน อีกทั้งพระองค์จะทรงยกเกียรติหลายระดับชั้นให้แก่พวกท่าน?” พวกเขา(เศาะฮาบะฮฺ) ตอบว่า 'แน่นอนที่สุดครับท่านรอซูลุลลอฮฺ' ท่านนบีจึงได้กล่าวว่า “พวกท่านจงอาบน้ำละหมาดให้สมบูรณ์ในช่วงที่ท่านไม่ชอบ (หมายถึงช่วงที่มีอากาศหนาว ถึงแม้จะหนาวจับขั้วหัวใจ แต่ก็ให้อาบน้ำละหมาดอย่างดี) และพยายามเดินไปที่มัสญิดให้มาก และให้รอละหมาดอีกเวลาหลังจากที่ได้ละหมาดเสร็จแล้วหนึ่งเวลา นั่นแหละคือการเฝ้าระวัง” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 251)
12. การไปร่วมละหมาดที่มัสญิด
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ใครที่ทำความสะอาดตัวเองในบ้านของเขาและหลังจากนั้นเดินไปยังบ้านหลังหนึ่งหลังใดของอัลลอฮฺ (มัสญิด) เพื่อการนมาซฟัรฺฎ์ ก้าวหนึ่งของเขาจะลบล้างบาปอย่างหนึ่งของเขาและอีกก้าวหนึ่งจะยกฐานะของเขาให้สูงขึ้น" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 666)
13. การเข้าแถวชิดติดกันในระหว่างละหมาด
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ใครก็ตามที่เข้าแถวให้ชิดติดกัน ระหว่างที่ทำการละหมาด เขาจะได้รับอภัยโทษ"
14. การกล่าว "อามีน"
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เมื่ออิหม่ามได้กล่าวว่า :
{ غَيْرِ الْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلَا الضَّالِّينَ }
(อ่านว่า ฆ็อยริลมัฆฎูบิอะลัยฮิม วะลัฎฎอลลีน)
เช่นนั้นพวกท่านก็จงกล่าวว่า : อามีน
เพราะความจริงแล้วผู้ใดที่คำกล่าวอามีนของเขาตรงกับคำกล่าวอามีนของมะลาอิกะฮฺ เขาจะได้รับอภัยโทษจากบาปของเขาที่ผ่านมาแล้ว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 782)
15. การมาละหมาดวันศุกร์ด้วยความตั้งใจ
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า "การละหมาดห้าเวลา และระหว่างการละหมาดวันศุกร์หนึ่งไปยังอีกวันศุกร์หนึ่ง และระหว่างเราะมะฎอนหนึ่งไปยังอีกเราะมะฎอนหนึ่ง จะลบล้างความผิดในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น หากว่าเขาออกห่างจากการทำบาปใหญ่" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 233)
16. การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ใจมุ่งมั่นต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่าทำสิ่งไร้สาระ
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า “ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนด้วยเปี่ยมศรัทธาและหวังในผลบุญ เขาจะได้รับการอภัยจากความผิดบาปที่ผ่านมาของเขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรี เลขที่ 37 และมุสลิม เลขที่ 1276)
17. ถือศีลอดในวันอารอฟะห์ (วันที่ 9 เดือนซุลฮิจญะฮ์)
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้ถูกถาม จากการถือศีลอดวันอารอฟะห์ ดังนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงได้กล่าวว่า “มันถูกลบล้าง(บาป) 1 ปีที่ผ่านมาและ 1 ปีข้างหน้า” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม)
18. การถือศีลอดในวันอาชูรอ
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “ใครได้ถือศีลอดในวันอาชูรอ อัลลอฮฺจะลบล้างความผิดปีที่ผ่านมา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 1162)
19. จ่ายเศาะดะเกาะฮฺไปในหนทางของอัลลอฮฺด้วยหัวใจบริสุทธิ์
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “การทำเศาะดะเกาะฮฺจะลบล้างความผิด เสมือนการเอาน้ำดับไฟ” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกอัตติรมิซียฺ เลขที่ 614)
20. การให้ความเมตตาต่อสัตว์ แม้ว่าสัตว์นั้นจะเป็นสุนัข ยกเว้นสัตว์ที่มีพิษ ถ้าปล่อยแล้วไปกัดคนอื่นได้
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนน เขาได้รู้สึกกระหายอย่างรุนแรง ทันใดนั้น เขาก็เจอบ่อน้ำหนึ่ง แล้วได้ลงไปในนั้นแล้วดื่มน้ำ จากนั้นเขาก็ได้ออกมาจากบ่อน้ำ ซึ่งปรากฏว่ามีสุนัขกำลังแลบลิ้นกินดินอยู่เนื่องจากความกระหาย ชายคนนั้นจึงกล่าวว่า 'แท้จริงสุนัขตัวนี้ได้กระหายน้ำอย่างรุนแรงเหมือนที่ฉันเคยกระหายมาก่อน(เหมือนที่ฉันกระหายก่อนหน้านี้)' ดังนั้น เขาได้ตัดสินใจลงไปในบ่อน้ำอีกครั้ง แล้วได้เติมน้ำจนเต็มคุฟของเขา (ร้องเท้าหนัง) จากนั้น เขาก็คาบมันด้วยปากของเขาจนกระทั่งเขาขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วเขาก็ได้ให้น้ำแก่สุนัข อัลลอฮฺจึงทรงขอบคุณแก่เขา และได้อภัยโทษแก่เขา” บรรดาศอฮะบะฮฺกล่าวว่า 'โอ้รอซูลุลลอฮฺ แท้จริงเราจะได้รับผลบุญตอบแทนในการดูแลปศุสัตว์อย่างนั้นหรือ?' ท่านรอซูลตอบว่า “ในทุก ๆ ตับที่ชุ่มชื้นนั้นมีผลบุญ“(หมายถึงทุกสิ่งที่มีชีวิต)" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 6009)
21. การประกอบพิธีฮัจญ์ (ที่บริสุทธิ์ หมายถึงทำตามแบบอย่างนบี ไม่ทำความผิดใดๆ)
อิบนิอุมัร ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ยินท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ผู้ใดได้ประกอบพิธีฮัจย์โดยเขาไม่ได้พูดคำหยาบ และไม่ได้ทำความชั่ว เขาก็ได้กลับไปสู่สภาพเหมือนวันที่มารดาของเขาได้คลอดเขาออกมา” (บันทึกโดย บุคอรีและมุสลิม)
22. การตอวาฟและการสัมผัสหินดำ
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “การสัมผัสทั้งหินดำและมุมของกะบะห์มุมยะมานีเป็นการล้างบาป” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัลฮากิม และหะดีษหะสัน บันทึกโดย อัลติรมิซิ เลขที่ 959)
23. การโกนศีรษะขณะปลดเอี๊ยะรอม (สำหรับผู้ชาย)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้อภัยบรรดาผู้ที่โกนหัวของพวกเขาด้วยเถิด" พวกเขากล่าวว่า "โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ แล้วคนที่ตัดผมของพวกเขาล่ะ?" ท่านนบีกล่าวว่า "โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้อภัยบรรดาผู้ที่โกนหัวของพวกเขาด้วยเถิด" พวกเขาถามว่า "โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ แล้วคนที่ตัดผมของพวกเขาล่ะ?" ท่านนบีกล่าวว่า "โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้อภัยบรรดาผู้ที่โกนหัวของพวกเขาด้วยเถิด" พวกเขาถามว่า "โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮฺ แล้วคนที่ตัดผมของพวกเขาล่ะ?" ท่านนบีกล่าวว่า "และบรรดาผู้ตัดผมของพวกเขาให้สั้นด้วยเถิด" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 1728)
24. การกล่าวซิรุลลอฮฺ
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดที่อ่าน
لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيْكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ، وَلَهُ الْحَمْدُ، وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ
คำอ่าน: ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮุ วะฮฺดะฮู ลาชะรีก่าละฮฺ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ ยุฮฺยี วะยุมีตุ วะฮุวะ อะลากุลลิชัยอินก่อดีร ความว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีหุ้นส่วนใดๆ สำหรับพระองค์ กรรมสิทธิ์และมวลการสรรเสริญนั้นเป็นของพระองค์ และพระองค์จะทรงให้มีชีวิตและให้ตาย และพระองค์ทรงปรีชาสามารถเหนือทุกสิ่ง” ในยามเช้าและเย็นจำนวน 10 ครั้ง อัลลอฮฺจะทรงบันทึกสำหรับเขา 10 ความดี และลบล้าง 10 ความชั่ว และเขาจะได้รับผลบุญเท่ากับการปลดปล่อยทาสจำนวน 10 คน และอัลลอฮฺจะทรงคุ้มครองเขาจาก (การหลอกล่อของ) ชัยฏอน" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อะหมัด)
25. การรำลึกถึงอัลลอฮฺในขณะร่วมสนทนากัน
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ไม่ว่ากลุ่มชนใดก็ตาม นั่งพูดคุยกัน โดยที่ระหว่างนั้นมีการรำลึกถึงอัลลอฮฺด้วย จะมีมวลมลาอิกะฮฺป่าวประกาศทั่วทั้งชั้นฟ้าว่า 'เมื่อท่านทั้งหลายแยกออกจากวงสนทนา ท่านจะลุกขึ้นออกจากวงสนทนาในสภาพที่ได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ'" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะหฺหมัด)
26. การกล่าวซอลาวาตนบีมากๆ
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้ว่า “ผู้ใดกล่าวซอลาวาตแก่ฉัน 1 ครั้ง อัลลอฮฺจะประทานพรแก่เขา 10 ครั้ง และจะทรงลบล้างความชั่วออกไปจากเขา 10 ความชั่ว จะยกเกียรติแก่เขา10 ขั้น” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัลนะซาอีย์ อะหมัด)
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดกล่าวซอลาวาตแก่ฉัน 1 ครั้ง อัลลอฮฺจะทรงประทานพรแก่เขา 10 ครั้ง และจะทรงลบล้างความชั่วออกไปจากเขา 10 ความชั่ว” (บันทึกโดย อัลฮากิม, บุคอรีย์ และมุสลิม)
27. การกล่าวสลามกัน
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "ไม่มีมุสลิมสองคนใดที่เจอกัน แล้วต่างยื่นมือจับระหว่างกัน นอกจากทั้งสองนั้นจะได้รับการอภัยโทษก่อนที่จะพรากจากกัน" (หะดีษหะสัน บันทึกโดย อบูดาวูด เลขที่ 5212 และอัตติรมิซีย์ เลขที่ 2727)
28. การอดทนในขณะที่เจ็บป่วย
ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า “ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้เข้าไปหาอุมมุสสาอิบ หรือ อุมมุลมุสัยยิบ แล้วท่านก็กล่าวว่า “เธอเป็นอะไรหรือ อุมมุสสาอิบ หรืออุมมุลมุสาอิบ ตัวเธอดูสั่นเทา?” นางกล่าวตอบว่า ‘เป็นไข้ ขออัลลอฮฺอย่าให้ความจำเริญกับมันเลย’ แล้วท่านก็กล่าวว่า “เธอจงอย่าด่าการเป็นไข้เลย เพราะมันช่วยขจัดบาปต่างๆของลูกหลานอาดัม เหมือนกับที่การตีเหล็กทำให้คราบสกปรกของเหล็กหมดไป” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม)
29. อดทนต่อความทุกข์ยาก ความลำเค็ญที่เกิดขึ้นในชีวิต
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ศรัทธาชายและหญิงจะยังคงถูกทดสอบในชีวิต (ร่างกาย)ของเขา ในลูกหลานของเขา ในทรัพย์สินของเขา จนกระทั่งเขากลับไปพบอัลลอฮฺ โดยที่เขาไม่มีความผิดเลย” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อัตติรมีซีย์)
30. การผ่อนปรนในการค้าขาย
ความเข้มงวดในการค้าขาย เช่น แถม/ลด/อภัยให้ไม่ได้เลย
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ชายคนหนึ่งมีการค้าขายกัน เมื่อลูกค้าที่มาหาเราเป็นลูกค้าที่มีความยากลำบากในการจ่ายเงินให้แก่เรา ให้ลดราคาให้เขาหน่อย และผ่อนปรนให้เขามากๆ เพื่อว่าอัลลอฮฺจะได้ผ่อนปรนโทษทันฑ์ให้แก่เราในวันกิยามะฮฺ เมื่อเขากลับไปหาอัลลอฮฺ อัลลอฮฺผ่อนปรน อภัยโทษให้แก่เขา"
31. การไม่ถอนผมหงอกออกจากศีรษะ
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านอย่าได้ทำการถอนหงอก เพราะมันคือรัศมีของคนมุสลิม และไม่มีมุสลิมคนใดที่มีหงอกเส้นหนึ่งในศาสนาอิสลาม เว้นแต่อัลลอฮฺจะบันทึกคุณความดีหนึ่ง ยกระดับฐานันดรให้กับเขา และทำให้บาปของเขาร่วงโรยด้วย(สาเหตุของ)หงอกเส้นนั้น” (หะดีษหะสัน บันทึกโดย อาบูดาวูด)
32. การเก็บหนามและสิ่งอันตรายออกจากทางสัญจรไปมา
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ เเท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ในขณะที่ชายคนหนึ่งเดินอยู่บนถนน เเล้วเขาพบกิ่งหนามอยู่บนถนน เขาก็ได้เอามันออกไป อัลลอฮฺจึงทรงขอบใจเเละทรงอภัยโทษแก่เขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 2472)
33. ฉวยโอกาสทำความดีทุกอย่างให้มากๆ แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม
"และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ตามปลายช่วงทั้งสองของกลางวัน และยามต้นจากกลางคืน แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลายนั่นคือข้อเตือนสำหรับบรรดาผู้ที่รำลึก" (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 114)