hasanah page เว็บไซต์สำหรับมุสลิมะห์
– หน้าแรก
– อัลลอฮฺทรงโองการแก่นบีท่านหนึ่งจากบรรดานบีในยุคก่อนๆ ว่า “จงกล่าวแก่บ่าวของข้าที่กระทำผิดว่า พวกท่านทั้งหลายอย่าสิ้นหวังในเมตตาธรรมของข้า(อัลลอฮฺ) เพราะไม่มีบาปใดๆ ที่จะใหญ่สำหรับข้าเกินกว่าที่ข้าจะให้อภัยได้” (ส่วนหนึ่งของหะดีษกุดซีย์ ฉบับแปลไทย ลำดับที่ 186/221 รายงานโดย อะบูชัรริน จากอะนัส)
– “จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด โอ้ ปวงบ่าวของข้า! บรรดาผู้ละเมิดต่อตัวของพวกเขาเอง พวกท่านอย่าได้หมดหวังต่อพระเมตตาของอัลลอฮฺ (ตัฟซีร: คือผู้ละเมิดกระทำผิดต่อตัวเอง ด้วยการฝ่าฝืนและทำบาปอย่าได้หมดหวังต่อการขออภัยโทษและความเมตตาของอัลลอฮฺ) แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอภัยความผิดทั้งหลายทั้งมวล แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (ตัฟซีร: คือพระองค์ทรงอภัยโทษความผิดทั้งหมดแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ถึงแม้ว่าความผิดนั้นๆ จะมากมายเท่าฟองน้ำที่ลอยอยู่ในแม่น้ำก็ตาม) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซุมัร 53 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “และ โอ้ กลุ่มชนของฉัน จงขออภัยโทษต่อพระผู้อภิบาลของพวกท่าน และจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ พระองค์จะทรงส่งเมฆ (น้ำฝน) มาเหนือพวกท่านให้หลั่งน้ำฝนลงมาอย่างมากมาย และจะทรงเพิ่มพลังเป็นทวีคูณให้แก่พวกท่าน และพวกท่านอย่าผินหลัง (ให้แก่พระองค์) ในสภาพของผู้กระทำผิด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 52)
– “เมื่อความช่วยเหลือของอัลลอฮฺ และการพิชิตได้มาถึงแล้ว และเจ้าได้เห็นประชาชนเข้าในศาสนาของอัลลอฮฺเป็นหมู่ๆ ดังนั้นจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า และจงขออภัยโทษต่อพระองค์เถิด แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนัศรฺ 1-3)
อัลลอฮฺ คือ พระเจ้าแห่งการให้อภัย
– “พระองค์เท่านั้นคือพระเจ้าแห่งการยำเกรงและพระเจ้าแห่งการให้อภัย” (ส่วนหนึ่งจากอัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมุดดัซซิร 56)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺตะอาลา ตรัสว่า : ”โอ้ ลูกหลานอาดัม (มวลมนุษย์) ! แท้จริงแล้วตราบใดที่เจ้าวิงวอนขอข้า และมุ่งหวังต่อข้า ข้าย่อมอภัยให้ใน (ความผิด) ที่เกิดขึ้นมาจากเจ้า โดยที่ข้าไม่สนใจเลย (ว่ามันจะน้อยหรือมากสักปานใด) โอ้ ลูกหลานของอาดัม ! แม้นความผิดของเจ้าจะสูงถึงเมฆบนท้องฟ้า ต่อมาเมื่อเจ้าขออภัยจากข้า ข้าก็จะให้อภัย (ในความผิดนั้น) แก่เจ้า โอ้ ลูกหลานของอาดัม ! แท้จริงหากเจ้ามายังข้า ด้วยความบาป (ที่มากมาย) เต็มแผ่นดิน แล้วพบกับข้าในสภาพที่ไม่ยึดสิ่งใดๆ ที่เป็นภาคีร่วมกับข้า แน่นอนข้าย่อมให้การอภัยแก่เขา(อย่างมากมาย) เต็มแผ่นดินเช่นกัน” (หะดีษหะสัน เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัต-ติรมิซีย์ เลขที่ 3540)
– “พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยอย่างมากหลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺศอด 66)
– “นอกจากบรรดาผู้ลุแก่โทษหลังจากนั้น และพวกเขาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนูรฺ 5)
– "แท้จริงอัลลอฮฺทรงชอบบรรดาผู้สำนึกผิด กลับเนื้อกลับตัว และทรงชอบบรรดาผู้ที่ทำตนให้สะอาด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮ 222)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แน่นอน อัลลอฮฺทรงดีใจกับการเตาบะฮฺของบ่าวของพระองค์ขณะที่เขากลับตัวมาหาพระองค์ (ดีใจ)ยิ่งกว่าคนๆ หนึ่งของพวกท่านที่ได้เดินทางบนสัตว์พาหนะของเขาไปในดินแดนทะเลทราย แล้วมันก็หายไปพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มของเขา จนเขาสิ้นหวังจะหามันพบ เขาก็ได้มาอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วนอนหลับอยู่ใต้ร่มเงาของมัน เขาหมดหวังจะพบมันแล้ว ในระหว่างที่เขา(นอน)อยู่นั้น ทันใดมันก็มายืนอยู่หน้าเขา เขาก็รีบจับสายบังเหียนของมัน” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2747)
อัลลอฮฺให้ความรู้สึกกลับเนื้อกลับตัว (เตาบะฮฺ)
– “ทำไมถึงไม่มีหมู่บ้านซักแห่งหนึ่งศรัทธา โดยที่การศรัทธาของพวกเขาจะอำนวยประโยชน์แก่พวกเขา นอกจากกลุ่มชนของยูนุสเมื่อพวกเขาศรัทธา เราได้ปลดเปลื้องการลงโทษอันอัปยศจากพวกเขา ในการมีชีวิตในโลกนี้และเราได้ยืดเวลาระยะหนึ่งแก่พวกเขา” (ตัฟซีร: ก้อตาดะฮฺกล่าวว่า มีรายงานว่า ยูนุสได้กล่าวเตือนกลุ่มชนของเขาถึงการลงโทษแล้วได้เดินทางออกจากพวกเขา เมื่อพวกเขาค้นหานบีของพวกเขาไม่พบ ก็นึกกันว่า การลงโทษนั้นใกล้เข้ามาแล้ว อัลลอฮฺ ตะอาลา จึงทรงให้พวกเขามีความรู้สึกกลับเนื้อกลับตัว (เตาบะฮฺ) เมื่ออัลลอฮฺทรงรู้ถึงความจริงใจของพวกเขา โดยการสารภาพผิดกลับเนื้อกลับตัว เสียใจในการทำผิดที่แล้วมา อัลลอฮฺ ตะอาลา จึงทรงปลดเปลื้องการลงโทษจากพวกเขา) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺยูนุส 98 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “นั่นก็เพราะว่า แท้จริงเมื่ออัลลอฮฺพระองค์เดียวถูกกล่าวขึ้น พวกเจ้าก็ปฎิเสธศรัทธา และเมื่อหากให้มีการตั้งภาคีกับพระองค์พวกเจ้าก็ศรัทธา ดังนั้น การตัดสินชี้ขาดเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่ และจะไม่มีใครใคร่ครวญนอกจากผู้สำนึกตัว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฆอฟิร 12-13)
ผู้ทรงรับการเตาบะฮฺ ทรงลบล้างความผิด
– “พวกเขาไม่รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงรับการสำนึกผิดจากปวงบ่าวของพระองค์ และทรงรับบรรดาสิ่งที่เป็นทาน(เศาะดะเกาะฮฺ) และแท้จริงอัลลอฮฺนั้นคือ ผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 104)
– “แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงยกโทษเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิซาอฺ 43)
ผู้ทรงปิดบังความผิดของผู้ศรัทธา
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “บ่าวที่อัลลอฮฺทรงปิดบังความผิดของเขาไว้ในโลกนี้ อัลลอฮฺจะทรงปิดบัง(ความผิดของเขา)ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพด้วย” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2590)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺจะทรงนำผู้ศรัทธาคนหนึ่งมาใกล้พระองค์ และทรงคุ้มครองเขาด้วยม่านของพระองค์ และถามเขาว่า ’เจ้าทำบาปอย่างนั้นอย่างนี้หรือไม่’ เขาจะกล่าวว่า ‘ทำครับ พระผู้อภิบาลของฉัน’ อัลลอฮฺจะทรงถามเขาต่อไปจนกระทั่งเขาสารภาพบาปของเขาทั้งหมดและเราคิดว่าเขาคงหายนะแน่แล้ว แต่อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า ‘ฉันปิดกั้นบาปของสูเจ้าในโลกและฉันให้อภัยบาปเหล่านั้นแก่เจ้าในวันนี้’ และหลังจากนั้นเขาจะได้รับบันทึกการกระทำความดีของเขา” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 2441)
ผู้ทรงให้ชีวิตใหม่เมื่อบ่าวเตาบะฮฺ
– “และเขากล่าวว่า “พวกท่านจงลงในเรือด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ทั้งในยามแล่นของมันและในยามจอดของมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (ตัฟซีร: พระองค์เป็นผู้ทรงปกปิดความผิดของผู้ขออภัยโทษกลับเนื้อกลับตัว ผู้ทรงเมตตาต่อปวงบ่าวมุอฺมิน โดยทรงให้พวกเขารอดพ้นจากการจมน้ำตาย)” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 41 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “เท่าเทียมกันในหมู่พวกเจ้า ผู้ที่ปกปิดคำพูด และผู้ที่เปิดเผยมัน และผู้ที่ซ่อนการกระทำในเวลากลางคืนและผู้ที่เดินไปอย่างเปิดเผยในเวลากลางวัน สำหรับเขามีมะลาอิกะฮฺผู้เฝ้าติดตามทั้งข้างหน้าและข้างหลังเขา รักษาเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺจะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง และเมื่ออัลลอฮฺทรงปรารถนาความทุกข์แก่ชนกลุ่มใดก็จะไม่มีผู้ตอบโต้พระองค์ และสำหรับพวกเขาไม่มีผู้ช่วยเหลือนอกจากพระองค์” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดฺ 10-11)
– “แท้จริงการสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวที่อัลลอฮฺจะทรงรับนั้นคือสำหรับบรรดาผู้ที่กระทำความชั่วโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้นแล้วพวกเขาสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวในเวลาอันใกล้ ชนเหล่านี้และอัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิซาอฺ 17)
– “การสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว(ที่อัลลอฮฺจะทรงรับ) นั้นมิใช่สำหรับบรรดาผู้ที่กระทำความชั่วต่างๆ จนกระทั่งเมื่อความตายได้มายังคนหนึ่งคนใดในพวกเขาแล้วเขาก็กล่าวว่า บัดนี้แหละข้าพระองค์ขอสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว และก็มิใช่สำหรับบรรดาผู้ที่ตาย ในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วย ชนเหล่านี้เราได้เตรียมไว้แล้วสำหรับพวกเขาซึ่งการลงโทษอันเจ็บแสบ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิซาอฺ 18)
อัลลอฮฺทรงให้อภัยทั้งมุสลิมเดิมและมุสลิมใหม่
– “และบรรดาผู้ที่กระทำสิ่งที่ชั่ว แล้วสำนึกผิดกลับตัวหลังจากนั้น และศรัทธาแล้วไซร้ แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น หลังจากนั้น (ตัฟซีร: คือหลังจากเลิกจากการทำชั่ว และกลับเนื้อกลับตัว) แล้วแน่นอนย่อมเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ทรงเอ็นดูเมตตา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอะฮฺรอฟ 153 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แก่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาว่า หากพวกเขาหยุดยั้ง (ตัฟซีร: คือหยุดยั้งการเป็นศัตรู และรีบศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด) สิ่งที่แล้วมาก็จะถูกอภัยให้แก่พวกเขา และหากพวกเขากลับ (ต่อต้าน) อีก (ตัฟซีร: คือหลังจากหยุดยั้งและศรัทธาแล้ว) แท้จริงนั้น แนวทางของคนก่อนๆ นั้นได้ผ่านมา (ตัฟซีร: คือพวกท่านก็จะได้รับโทษอันมหันต์เช่นเดียวกับที่ผู้ปฏิเสธศรัทธาในอดีตได้รับมาแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากแนวทางแห่งการลงโทษของพระองค์นั้นอย่างเดียวกันทั้งสิ้น) แล้ว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อัมฟาล 38 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
ตัวอย่างของผู้เตาบะฮฺ อดีตฆาตกร 100 ศพ
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ก่อนหน้าพวกท่าน มีคนผู้หนึ่งที่ฆ่าคนมา 99 คน ดังนั้น เขาจึงเที่ยวหาคนที่มีความรู้ที่สุด เขาถูกบอกให้ไปหานักบวชคนหนึ่ง ดังนั้น เขาจึงไปหาและถามนักบวชคนนั้น แต่นักบวชคนนั้นตอบปฏิเสธ เขาจึงฆ่านักบวชคนนั้น เขาถามหาคนที่มีความรู้อีก และเขาได้ถูกบอกให้ไปหาผู้มีความรู้คนหนึ่ง เมื่อเขาไปและถามผู้มีความรู้คนนั้นว่า อัลลอฮฺจะทรงให้อภัยเขาไหม ผู้ทรงความรู้คนนั้นตอบยืนยันว่าไม่มีใครสามารถหยุดการสำนึกผิดจากบ่าวได้ และบอกเขาให้ไปยังเมืองหนึ่งและเคารพสักการะอัลลอฮฺที่นั่น พร้อมกับชาวเมืองและอย่ากลับไปยังแผ่นดินของเขาอีก ดังนั้น เขาจึงออกเดินทาง แต่เขาได้เสียชีวิตเสียก่อนระหว่างทาง มลาอิก๊ะฮฺแห่งความเมตตาและมลาอิก๊ะฮฺแห่งการลงโทษได้โต้เถียงกันว่าเขาได้รับการให้อภัยหรือไม่ มลาอิก๊ะฮฺแห่งความเมตตากล่าวว่า “เขากำลังเดินทางไปสู่การสำนึกผิด” มลาอิก๊ะฮฺแห่งการลงโทษกล่าวว่า “เขาไม่ได้ทำความดีอะไร” มลาอิกะฮฺองคหนึ่งจึงมาในร่างของมนุษย์และขอให้มลาอิก๊ะฮฺทั้งสองวัดระยะทางระหว่างสองเมืองเพื่อดูว่าระยะทางจากไหนสั้นที่สุด ปรากฏว่าระยะทางไปสู่หมู่บ้านแห่งการสำนึกผิดนั้นสั้นกว่า ดังนั้น เขาจึงได้รับการให้อภัย และมลาอิก๊ะฮฺแห่งความเมตตาได้รับเขาไป” เกาะตาด๊ะฮฺบอกว่า อัลฮะซันกล่าว่า “ในตอนตาย คนผู้นี้ได้หันหน้าอกของเขาไปยังหมู่บ้านที่เขาจะไปสำนึกผิด” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 3470)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริง เมื่อผู้ศรัทธากระทำบาป ก็จะมีจุดดำหนึ่งจุดในหัวใจ เมื่อเขากลับเนื้อกลับตัว ทิ้งการกระทำดังกล่าว และหวังการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ หัวใจก็จะกลับมาสะอาด แต่ถ้าหากว่าเขายังคงกระทำบาป จุดดำนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งดำสนิทในหัวใจ และนี่แหละคือการปกปิดหัวใจที่อัลลอฮฺตรัสความว่า “มิใช่เช่นนั้น แต่ว่าสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้นั้นได้เป็นสนิมบนหัวใจของพวกเขา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมุฏ็อฟฟิฟีน : 14) (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อิบนุ มาญะห์ และซัยคฺ อัลบานีย์)
– อุซัยฟะฮฺรายงานว่า : อุมัรกล่าวว่า “แต่ใครได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺพูดถึงเรื่องความปั่นป่วนวุ่นวายที่แพร่กระจายเหมือนกับคลื่นในทะเลบ้าง?” ทุกคนเงียบ ฉันจึงกล่าวว่า “พวกท่านไม่ต้องกลัวมัน ฉันได้ยินท่าน รอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า ‘ความปั่นป่วนวุ่นวายจะเกิดขึ้นกับหัวใจเหมือนกับเสื่อที่ทำจากฟางหญ้า เส้นหญ้าทีละเส้น เมื่อหัวใจยอมรับสิ่งใด หัวใจจะถูกทำเครื่องหมายเป็นจุดดำและทุกหัวใจที่ปฏิเสธจะถูกทำเครื่องหมายเป็นจุดขาว นี่คือ สองหัวใจ ฟิตนะฮฺจะไม่สร้างความเสียหายให้แก่หัวใจที่เหมือนหินสีขาวตราบใดที่ชั้นฟ้าและแผ่นดินยังคงอยู่ ส่วนหัวใจอีกดวงหนึ่งจะดำ เหมือนถ้วยที่ถูกพลิกซึ่งจะไม่รู้จักการงานที่ดีและไม่ปฏิเสธความชั่วใดๆ นอกจากที่มันชอบ’” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 525 และมุสลิม เลขที่ 144)
วิธีลบล้างความผิด ผ่านการทำอิบาดะฮฺ
– “(มุฮัมมัด) เจ้าจงเอาส่วนหนึ่งจากทรัพย์สมบัติของพวกเขาเป็นทาน เพื่อทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ และล้างมลทินของพวกเขาด้วยส่วนตัวที่เป็นทานนั้น และเจ้าจงขอพรให้แก่พวกเขาเถิด เพราะแท้จริงการขอพรของพวกเจ้านั้น ทำให้เกิดความสุขใจแก่พวกเขา และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 103)
– อุซัยฟะฮฺรายงานว่า : ครั้งหนึ่ง ฉันกำลังนั่งอยู่กับอุมัรฺและเขากล่าวว่า “พวกท่านมีใครบ้างที่จำคำพูดของท่านรอซูลุลลอฮฺเกี่ยวกับเรื่องความปั่นป่วนวุ่นวาย (ฟิตนะฮฺ)?” บางคนกล่าวว่า “เราได้ยิน” อุมัรฺจึงถามว่า “พวกท่านคงหมายถึงความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดกับผู้ชาย จากภรรยา จากเงิน และลูกๆ หรือเพื่อนบ้านของเขาใช่ไหม?” พวกเขาตอบว่า “ใช่” อุมัรฺกล่าวว่า “นั่นสามารถไถ่โทษได้โดยการนมาซ ถือศีลอด และบริจาคทาน” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 525 และมุสลิม เลขที่ 144)
วิธีลบล้างความผิด ผ่านการซิเกร
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดที่กล่าว سُبْحَانَ اللهِ وَبِحَمْدِهِ (ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮฺ) 100 ครั้ง ในวันหนึ่งๆ บาปทั้งหลายของเขาจะถูกลบล้างถึงแม้ว่าจะมากเหมือนฟองน้ำในทะเลก็ตาม” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรียฺ เลขที่ 6405, มุสลิม เลขที่ 2691)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงกลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮฺเถิด เพราะแท้จริงฉันเองก็กลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮฺ วันละ 100 ครั้ง” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม)
– “และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ตามปลายช่วงทั้งสองของกลางวัน และยามต้นจากกลางคืน แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลายนั่นคือข้อเตือนสำหรับบรรดาผู้ที่รำลึก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 114)
– “และบรรดาผู้อดทนโดยหวังพระพักตร์ (ความโปรดปราน) ของพระเจ้าของพวกเขา และดำรงการละหมาดและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคืนที่พำนักในปั้นปลายที่ดี” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดฺ 22)
– “พระเจ้าของพวกเจ้าทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเจ้า หากพวกเจ้าเป็นคนดี ดังนั้นพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยแก่บรรดาผู้กลับเนื้อกลับตัวอย่างแน่นอน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอิสรออฺ 25)
– “เว้นแต่ผู้ขอลุแก่โทษและศรัทธา และกระทำความดี ชนเหล่านั้นจะได้เข้าสวนสวรรค์และพวกเขาจะไม่ได้รับความอธรรมแต่อย่างใด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺมัรยัม 60)
เมื่อทำผิดอีก อย่าหยุดเตาบะฮฺ ทำอย่างต่อเนื่อง
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ลูกหลานอาดัม(มนุษย์)ทุกคน ย่อมมีความผิด และผู้ที่ดีที่สุดในหมู่ผู้มีความผิด คือ ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยติรมีซีย์, อะหมัด, อิบนุ มาญะห์ และฮากิม)
– “และเมื่อบรรดาผู้ศรัทธาต่อบรรดาโองการของเราได้มาหาเจ้า(มุฮัมมัด) ก็จงกล่าวเถิดว่าขอความปลอดภัยจงมีแด่พวกท่านเถิดพระเจ้าของพวกเจ้าได้กำหนดการเอ็นดูเมตตาไว้บนตัวของพระองค์ว่า ผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากระทำความชั่วโดยไม่รู้แล้วเขาสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวหลังจากนั้นและปรับปรุงแก้ไขแล้ว แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเอ็นดูเมตตา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 54)
– “ส่วนผู้ที่นำความจริงมา และเขาได้เชื่อมั่นความจริงนั้น ชนเหล่านี้ พวกเขาคือบรรดาผู้ยำเกรง นั่นคือการตอบแทนของบรรดาผู้กระทำความดี เพื่อที่อัลลอฮฺจะทรงลบล้างความชั่วที่พวกเขากระทำไว้ออกจากพวกเขา และจะทรงตอบแทนรางวัลของพวกเขาแก่พวกเขาด้วยสิ่งที่ดียิ่งตามที่พวกเขาได้กระทำไว้” (ตัฟซีร: บรรดานักตัฟซีรกล่าวว่า ความยุติธรรมนั้นคือ ทั้งความดีและความชั่วจะต้องถูกสอบสวน แล้วก็จะต้องมีการตอบแทน และความโปรดปรานนั้นก็คืออัลลอฮฺจะทรงเปิดเผยการตอบแทนนั้น แก่ปวงบ่าวของพระองค์ที่มีความยำเกรง แล้วพระองค์จะทรงลบล้างการงานที่ชั่วของพวกเขา ดังนั้น จะไม่มีการสอบสวนเหลือสำหรับพวกเขาอีก และพระองค์ก็จะตอบแทนผลบุญให้แก่พวกเขาด้วยการตอบแทนที่ดีเยี่ยม แล้วตาชั่งแห่งความดีของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้น) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซุมัร 33-35 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “นอกจากผู้ที่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว และปรับปรุงแก้ไข และชี้แจงสิ่งที่ปกปิดไว้ ชนเหล่านี้ข้าจะอภัยโทษให้แก่พวกเขา และข้าคือผู้อภัยโทษ และเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 160)
– “และความดีใดๆ ที่พวกเจ้ากระทำนั้น อัลลอฮฺทรงรู้ดี และพวกเจ้าจงเตรียมเสบียงเถิด แท้จริงเสบียงที่ดีที่สุดนั้นคือความยำเกรง และพวกเจ้าจงยำเกรงข้าเถิด โอ้ ผู้มีปัญญาทั้งหลาย!” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 197)
– “บรรดาผู้แบกบัลลังก์ และผู้ที่อยู่รอบๆ บัลลังก์ ต่างก็แซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของพวกเขา และศรัทธาต่อพระองค์ และอภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธา ข้าแต่พระเจ้าของเรา พระองค์ท่านทรงแผ่ความเมตตาและความรอบรู้ไปทั่วทุกสิ่ง ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยแก่บรรดาผู้ลุแก่โทษ และดำเนินตามแนวทางของพระองค์ท่าน และทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษแห่งไพนรก” (ตัฟซีร: บรรดามลาอิกะฮฺผู้แบกบัลลังก์ และผู้ที่เรียงรายล้อมรอบบัลลังก์ พวกเขาจะวิงวอนขออภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ตลอดจนผู้ลุแก่โทษด้วย เพื่อกลับตัวและดำเนินตามแนวทางแห่งสัจธรรม) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฆอฟิร 7 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
ช่วงเวลาที่อัลลอฮฺทรงไถ่โทษ ให้อภัย
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ไม่มีความเหนื่อยยากลำบาก โรคภัยไข้เจ็บ ความเศร้าโศก ความเสียใจ ความเจ็บปวด เกิดขึ้นกับมุสลิม นอกไปจาก อัลลอฮฺทรงไถ่โทษบาป บางอย่างให้เขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 5641)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ประตูสวรรค์เปิดสองวัน วันจันทร์และวันพฤหัส ดังนั้น บ่าวของอัลลอฮฺทุกคน ที่ไม่นำสิ่งใดมาเป็นหุ้นส่วนใน การเคารพสักการะกับอัลลอฮฺ จะได้รับการอภัย ยกเว้นคนที่ในหัวใจของเขามีความเคียดแค้น อาฆาตพี่น้องของเขา และจะมีการกล่าวว่า ‘คอยก่อนจนกว่าสองคนนี้จะปรับปรุงแก้ไขตัวเองเสียก่อน’" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2565)
– ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่กล่าวว่า “โอ้ปวงบ่าวของฉัน สูเจ้าทั้งหมดหลงผิด ยกเว้นคนที่ฉันนำทางให้อยู่บนหนทางที่ถูกต้อง ดังนั้น จงขอให้ฉันนำทางสูเจ้าและฉันจะนำสูเจ้าไปยังหนทางที่ถูกต้อง” ส่วนหนึ่งจากหะดีษ (กุดซีย์) เศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2577)
– “แท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ บรรดาผู้ให้ครบถ้วนซึ่งสัญญาของอัลลอฮฺ และไม่บิดพริ้วข้อตกลง และบรรดาผู้เชื่อมสัมพันธ์ที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้เขาเชื่อมสัมพันธ์ และยำเกรงพระเจ้าของพวกเขา และกลัวการมีบัญชีที่ชั่ว และบรรดาผู้อดทนโดยหวังพระพักตร์ (ความโปรดปราน) ของพระเจ้าของพวกเขา และดำรงการละหมาด และบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคือที่พำนักในบั้นปลายที่ดี” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดฺ 19-22)
– “และหากอัลลอฮฺทรงรู้ว่าในตัวพวกเขานั้นมีความดี แน่นอนก็จะทรงให้พวกเขาได้ยิน” (ตัฟซีร: ได้ยินอัลกุรอาน และมีความเข้าใจ) (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อันฟาล 23 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)
– “ด้วยคัมภีร์นั้นแหละ อัลลอฮฺจะทรงแนะนำผู้ที่ปฏิบัติตามความพึงพอพระทัยของพระองค์ ซึ่งบรรดาทางแห่งความปลอดภัย และจะทรงให้พวกเขาออกจากความมืด ไปสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ และจะทรงแนะนำพวกเขาสู่ทางอันเที่ยงตรง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-มาอิดะฮฺ 16)
เมื่ออัลลอฮฺทรงให้ทางนำ เขาจะไม่หลงทาง
– “แท้จริง อัลลอฮฺทรงให้หลงทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงนำทางสู่พระองค์ แก่ผู้ที่สำนึกตัว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดฺ 27)
– “และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงให้กลุ่มชนใดหลงผิด หลังจากที่พระองค์ได้ทรงชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขาแล้ว นอกจากจะเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขา ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจะยำเกรงเท่านั้น แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 115)
ผลลัพธ์ของผู้เตาบะฮฺตัวเพื่ออัลลอฮฺ
– “เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวและศรัทธา และประกอบการงานที่ดี เขาเหล่านั้นแหละ อัลลอฮฺจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺมุฮัมมัด 2)
– “โอ้ บรรดาผู้ศรัทธา จงขอลุแก่โทษแด่อัลลอฮฺด้วยการลุแก่โทษอย่างจริงจังเถิด บางทีพระเจ้าของพวกเจ้าจะลบล้างความผิดของพวกเจ้าออกจากพวกเจ้า และจะทรงให้พวกเจ้าเข้าสวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างสวนสวรรค์นั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน วันที่อัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้นบี และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาต้องอัปยศแสงสว่างของพวกเขาจะส่องจ้าไปเบื้องหน้าของพวกเขาและทางเบื้องขวาของพวกเขา พวกเขาจะกล่าวว่าข้าแต่พระเจ้าของเรา ขอพระองค์ได้ทรงโปรดทำให้แสงสว่างของเราอยู่กับเราตลอดไปและทรงยกโทษให้แก่เราแท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัตตะหฺรีม 8)