เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
หัวข้อ การงานที่มลาอิกะห์จะขอดุอาให้ |ค่ำคืนแห่งรอมฎอน 1445
สอนโดย อ.อัสมัน มีสมบูรณ์
ท่านรอซูลบอกให้เรารู้ว่า บรรดามลาอิกะฮฺจะขอดุอาอฺให้กับคนที่ปฏิบัติการงานหนึ่งการงานใด หมายความว่า หากใครรักษาการงานหนึ่งการใดนั้นได้ เขาจะได้รับดุอาอฺของบรรดามลาอิกะฮฺ และดุอาอฺของบรรดามลาอิกะฮฺเป็นดุอาอฺมุสตะญาบ (ถูกตอบรับ)
การงานที่จะทำให้บรรดามลาอิกะฮฺจะขอดุอาอฺให้คือ
1. คนที่มีอีมานที่ถูกต้อง มีหลักอากิดะฮฺที่ถูกต้อง
2. คนที่กลับเนื้อกลับตัว
3. คนที่ปฏิบัติตามอัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “บรรดาผู้แบกบัลลังก์ และผู้ที่อยู่รอบๆ บัลลังก์ ต่างก็แซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของพวกเขา และศรัทธาต่อพระองค์ และอภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธา ข้าแต่พระเจ้าของเรา พระองค์ท่านทรงแผ่ความเมตตาและความรอบรู้ไปทั่วทุกสิ่ง ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยแก่บรรดาผู้ลุแก่โทษ และดำเนินตามแนวทางของพระองค์ท่าน และทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษแห่งไพนรก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฆอฟิร 7)
4. คนที่มีความรู้และสอนให้คนมีความรู้
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดที่แสวงหาหนทางเพื่อให้ได้รับความรู้ อัลลอฮฺก็จะนำเขาไปสู่หนทางของสวนสวรรค์ และมลาอิกะฮฺจะกางปีกเพื่อแสดงความความยินดีต่อผู้แสวงหาวิชาความรู้ และสำหรับผู้รู้นั้นจะมีผู้ขออภัยโทษให้แก่เขาทั้งสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้า และที่อยู่ในแผ่นดิน แม้กระทั่งบรรดาฝูงปลาในท้องทะเล แท้จริง ความประเสริฐของผู้ที่มีความรู้(อาลิม) เหนือผู้ที่เคารพภักดีเพียงอย่างเดียว(อาบิด) เปรียบเสมือนดวงจันทร์เต็มดวงที่เหนือกว่าบรรดาหมู่ดวงดาว แท้จริงบรรดาผู้ที่มีความรู้(อุละมาอฺ)พวกเขาเป็นทายาทของบรรดานบี(อันบิยาอ์) บรรดานบีไม่ได้ทิ้งมรดกไว้เป็นเงินดีนารฺหรือดิรฮัม แต่ทว่าได้ทิ้งวิชาความรู้ไว้เป็นมรดก ดังนั้น ผู้ใดที่ได้ครอบครองมันไว้ถือว่าเขาได้ครอบครองส่วนที่ดีเลิศมากมายแล้ว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อบูดาวุด เลขที่ 3641)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺ บรรดามลาอิกะฮฺ และชาวชั้นฟ้า และชาวผืนดิน และผู้ศรัทธานั้น แม้กระทั่งมดที่อยู่ในรู ปลาที่อยู่ในน้ำ ต่างจะสดุดี ขอดุอาอฺให้บรรดาคนที่สอนให้คนอื่นมีความรู้ให้แก่ผู้คน”
5. คนที่รอละหมาด
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “คนหนึ่งในหมู่พวกท่านเมื่อนั่งรอคอยการละหมาด(นั่นเท่ากับว่าเขาได้อยู่)ในการละหมาดแล้ว ตราบใดที่เขาไม่มีหะดัษ มวลมะลาอิกะฮฺจะขอดุอาอฺให้แก่เขา ‘โอ้ อัลลอฮฺ โปรดอภัยโทษให้แก่เขา โอ้ อัลลอฮฺ โปรดเมตตาเขา’” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 649)
6. คนที่ละหมาดแถวแรก
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และบรรดามลาอิกะฮฺ จะคอยซอลาวาต (ดุอาอฺ) ให้แก่ผู้ที่อยู่ในศอฟ (แถว) แรกของการละหมาดญามาอะฮฺ” (หะดีษ รายงานโดย อีหม่าม อาบูดาวูด และ อิบนู คูซัยมะฮฺ จากบัรร๊ออฺ บิน อาซิบ)
7. คนที่เมื่อแถวละหมาดมีช่องว่าง ไปอยู่ให้แถวเต็ม
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และบรรดามลาอิกะฮฺ จะคอยซอลาวาต (ดุอาอฺ) ให้แก่ผู้ที่เติมศอฟให้เต็ม” (หะดีษ รายงานโดย บรรดาอีหม่ามทั้งหลาย คือ อะหหมัด, อิบนูมาญะฮฺ, อิบนูคูซัยมะฮฺ, อิบนู ฮิบบาน และ อัล-ฮากีม จากริวายัต อาอีชะฮฺ)
คำอธิบาย อัลลอฮฺสรรเสริญหมายถึงชื่นชม อภัยโทษ เมตตา ส่วนมลาอิกะฮฺซอลาวาตหมายความว่าขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺเมตตา อภัยโทษ
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดปิดช่องว่างหนึ่ง(ในแถวละหมาด) อัลลอฮฺจะทรงสร้างบ้านหลังหนึ่งให้แก่เขาในสวนสวรรค์ และจะทรงยกสถานะของเขาให้สูงขึ้น” (หะดีษเศาะฮีหฺ จากอัซซิลซิละฮฺ อัศศ่อฮีหะฮฺ เลขที่ 1982)
8. คนที่สรรเสริญให้แก่นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ไม่มีมุสลิมคนใดที่ให้ซอลาวาตแก่ฉัน เว้นเสียแต่บรรดามลาอิกะฮฺจะให้ซอลาวาตแก่เขา” (หมายความว่าจะขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺเมตตา อภัยโทษให้แก่บ่าวคนนั้น)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ผู้ใดทำการซอลาวาตแก่ฉัน 1 ครั้ง อัลลอฮฺก็จักทรงซอลาวาตให้แก่เขา 10 ครั้ง และพระองค์ทรงลบล้าง 10 บาปจากเขา และพระองค์ทรงยกเกียรติแก่เขาถึง 10 ฐานันดร" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อันนะซาอีย์ เลขที่ 8810)
9. คนที่บริจาค
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ทุกวันจะมีมลาอิกะฮฺสององค์ลงมา องค์หนึ่งกล่าวว่า ‘โอ้ อัลลอฮฺ โปรดชดเชยให้แก่ผู้ที่ใช้จ่ายในหนทางของพระองค์’ และมลาอิกะฮฺอีกองค์หนึ่งจะกล่าวว่า ‘โอ้ อัลลอฮฺ โปรดทำลายทรัพย์สินของผู้ไม่ยอมจ่าย’” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรี เลขที่ 1442 และมุสลิม เลขที่ 1010)
10. คนที่ตื่นมากินอาหารซะฮูรฺ
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ซะฮูรเป็นอาหารที่มีความจำเริญ (บารอกะฮฺ) ดังนั้นพวกท่านอย่าได้ละเว้นมัน แม้ว่าคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะดื่มน้ำสักอึกหนึ่ง เพราะอัลลอฮฺจะประทานความเมตตา และมลาอิกะฮฺของพระองค์จะขอพรให้แก่บรรดาผู้กินซะฮูร” (หะดีษบันทึกโดย อะหมัด)
11. คนที่ไปเยี่ยมคนป่วย
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดไปเยี่ยมเพื่อนมุสลิมของเขา เขาจะเดินท่ามกลางผลพวงที่พร้อมเก็บในสรวงสวรรค์จนกว่าเขาจะนั่งลง และเมื่อเขานั่งลงเราะฮฺมัต(ความเมตตาของอัลลอฮฺ)ก็จะปกคลุมเขา หากเขาไปในตอนเช้าเหล่ามะลาอิกะฮฺจำนวนเจ็ดหมื่นจะขออภัยโทษให้แก่เขาจนกระทั่งถึงเวลาเย็น และหากเขาไปในเวลาค่ำเหล่ามะลาอิกะฮฺจำนวนเจ็ดหมื่นจะขออภัยโทษให้แก่เขาจนกระทั่งถึงเวลาเช้า” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอบูดาวูด เลขที่ 3098 และบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺตามสำนวนนี้ เลขที่ 1442)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดไปเยี่ยมคนไข้หรือเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งในแนวทางของอัลลอฮฺ จะมีคนกู่เรียกเขาว่า ‘ท่านเป็นคนดีแล้ว การเดินทางของท่านดีแล้ว และท่านได้เตรียมบ้านในสวรรค์แล้ว’” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ตามสำนวนนี้ เลขที่ 2008 และบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ หมายเลข 1443)
12. คนที่ไปเยี่ยมคนป่วยหรือเขากำลังขอดุอาอฺให้กับพี่น้องที่ตาย
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “เวลาที่พวกท่านไปเยี่ยมคนป่วยหรือคนตาย พวกท่านจงพูดแต่สิ่งที่ดี เพราะบรรดามลาอิกะฮฺจะกล่าวอามีนในสิ่งพวกท่านกล่าว”
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “เมื่อพวกท่านไปเยี่ยมผู้ป่วยหรือคนตายก็จงกล่าวแต่สิ่งดี ๆ เพราะมะลาอิกะฮฺจะกล่าว ‘อามีน’ ต่อสิ่งที่พวกท่านได้กล่าวไว้” (ส่วนหนึ่งของหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 919)
13. คนที่ขอดุอาอฺลับหลัง (ขออย่าให้เขารู้)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ผู้ใดวิงวอนขอดุอาอฺให้แก่พี่น้อง (พี่น้องแท้ๆ หรือพี่น้องมุสลิมทั่วไป) ของเขาในเชิงลับ (โดยที่คนนั้นไม่รู้ ไม่ได้ยิน ไม่เห็น) มลาอิกะฮฺที่ถูกมอบหมายให้แก่ผู้ที่ขอดุอาอฺคนนี้จะกล่าว อามีน และขอให้ท่านได้เหมือนกับที่ท่านได้ขอให้แก่พี่น้องของท่าน”
คำอธิบาย มลาอิกะฮฺในที่นี้ หมายถึง เราทุกคนมีมลาอิกะฮฺหลายฝ่ายที่จะดูแล มีมลาอิกะฮฺฝ่ายบันทึกความดี มลาอิกะฮฺฝ่ายบันทึกความชั่ว มลาอิกะฮฺรักษาความปลอดภัยและมลาอิกะฮฺที่จะติดตามการขอดุอาอฺโดยเฉพาะ
14. วิญญาณของคนที่มีอีมาน
15. บรรดาผู้ศรัทธาที่กำลังจะข้ามผ่านสะพานศิรอต
มลาอิกะฮฺ และบรรดานบีจะยืนอยู่สองฟากของสะพานศิรอต และกล่าวว่า “โอ้ อัลลอฮฺ ขอให้พวกเขาได้รับความปลอดภัยด้วยเถิด”