เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
หัวข้อ "ความประเสริฐของการขอดุอาอฺ"
สอนโดย อ.อัสมัน มีสมบูรณ์
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า "ไม่มีสิ่งใดที่จะมีเกียรติยิ่ง ณ อัลลอฮฺ มากไปกว่าการขอดุอาอฺ" (หะดีษหะสัน รายงานโดย อบูฮุร็อยเราะฮฺ)
ท่านรอซูล (ซ.ล.) ห้ามไม่ให้เราท้อแท้ในการขอดุอาอฺ เพราะไม่มีทางเสียเปล่า ระหว่างที่เราขอดุอาอฺ อัลลอฮฺจะให้เราได้รับ 1 ใน 3 อย่างนี้
อัลลอฮฺรีบตอบรับในสิ่งที่เราขอในดุนยา
อัลลอฮฺจะเก็บสิ่งที่เราขอไว้ให้กับเราในอาคิเราะฮฺในเวลาที่เหมาะสม (เพราะอัลลอฮฺทรงรู้ว่า หากว่าเราได้ในดุนยา เราจะใช้ในการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ลืมอัลลอฮฺ เราจะหลงกับดุนยา)
อัลลอฮฺจะปกป้องเราให้พ้นจากความชั่วความเลวร้ายเหมือนกับดุอาอฺที่เราขอ (แม้ไม่ได้ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ แต่จะได้รับการปกป้อง)
สิ่งที่จะทำให้ดุอาอฺไม่ถูกตอบรับ หากไม่ได้เลยทั้ง 3 ข้อ เพราะว่า
เราไม่มีความบริสุทธิ์ใจในสิ่งที่เราขอ
เรามีการงานบางอย่างที่เราทำไปแล้ว ทำให้ดุอาอฺไม่ถูกตอบรับ
การที่เราขอโดยที่หัวใจไม่อยู่กับสิ่งที่เราขอ (ไม่รู้ความหมายในสิ่งที่เราขอ หรือใจนึกถึงเรื่องอื่น) ดังนั้น จำเป็นที่ใจจะต้องจดจ่อกับสิ่งที่เราขอ และอยู่กับอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
การขอดุอาอฺในขณะที่เรากินของหะรอม (ในชีวิตที่ผ่านมาเรากินของหะรอม มันอยู่ในเส้นเลือด)
สวมใส่เสื้อผ้าของหะรอม หรือได้เงินของหะรอม ดื่มของหะรอม
ท่านรอซูลุลลอฮฺได้เอ่ยถึงผู้ชายคนหนึ่งที่เดินทางตามลำพังคนเดียวใน สภาพผมเผ้ารุงรังและเสื้อผ้าที่เขรอะไปด้วยฝุ่น เขาได้ยกมือขึ้นไปบนท้องฟ้าและวิงวอนว่า “โอ้ พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์” ในขณะที่อาหารการกิน เครื่องดื่ม และเสื้อผ้าของเขาเป็นที่ต้องห้าม คำวิงวอนของเขาจะถูกตอบรับได้อย่างไร?” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม)
เป็นตัวอย่างของบุคคลที่ดุอาอฺไม่ถูกตอบรับ เพราะ กิน ดื่ม และสวมใส่เสื้อผ้าที่หะรอม
6. ขอดุอาอฺด้วยกับความผิด
เช่น ขอให้ทำธุรกิจในสิ่งที่หะรอม หรือขอให้ตัดญาติขาดมิตร
ดุอาอฺแบบนี้จะไม่ถูกตอบรับ แต่ถ้าถูกตอบรับ แสดงว่าเป็นสัญญาณอันตราย อัลลอฮฺทรงปล่อยให้ทำผิดมากยิ่งขึ้น จะกระทั่งมากจนสมควรแก่การลงโทษ
เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
หัวข้อ "รอมฎอนเดือนแห่งการขอดุอาอฺ"
สอนโดย อ.ฮาบีบุ้ลลอฮฺ ศรีอุทัย
มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ดุอาอฺไม่ได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
1. ขอแบบไม่เอาใจใส่
มือยก ปากขอ แต่หัวใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับดุอาอฺที่เราขอ ต้องมีสมาธิ เข้าใจดุอาอฺที่ขอ
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกเจ้าจงขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ โดยที่พวกเจ้าต้องมั่นใจว่าจะถูกตอบรับ และจงรู้เถิดว่า แท้จริง อัลลอฮฺจะไม่ทรงรับดุอาอฺ (ที่ออกมา) จากหัวใจที่หันเห โลเล" (หะดีษหะสัน บันทึกโดย อัตติรมิซียฺ, อัลฮากิม, อัฎฎ็อบรอนียฺ)
2. รีบเร่งในการที่ให้พระองค์อัลลอฮฺตอบรับดุอาอฺ
เราเป็นบ่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะรีบเร่ง เช่น กรณีที่นบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ขอดุอาอฺในสงครามอุฮุดที่พ่ายแพ้ พระองค์ไม่ได้รับดุอาอฺนี้ เพื่อจะให้เป็นบททดสอบและเป็นบทเรียน จากการที่บรรดานักแม่นธนูขัดคำสั่งและลงจากที่มั่น บนเนินเขาที่อยู่ตรงข้ามกับภูเขาอุฮุด ซึ่งนบีได้สั่งกำชับ “ให้รักษาที่มั่นบนเนินเขานั้นให้ดีอย่าได้ละทิ้งที่มั่นเป็นอันขาดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม แม้จะเห็นว่าฝูงนกโฉบไล่จิกบรรดามุสลิมีนก็ตาม”
หรือบางคนไม่มีลูกหลานหรือทรัพย์สิน เพราะพระองค์ทรงรู้ว่าหากมีแล้วจะหันเหจากแนวทางของพระองค์
3. การอธรรมต่อบุคคลอื่น จะทำให้การงานหรือดุอาอฺไม่ได้รับการตอบรับ
เช่น การอธรรมต่อคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน การติดสินบน หรือทำการฝ่าฝืน
ในยุคสมัยนั้น พวกกอรอบีเตาะฮฺ เป็นกลุ่มชนหนึ่งได้เข้ามาที่เมืองมักกะห์ แล้วได้เข่นฆ่าทำลายเมืองมักกะห์ ก็มีคนไปถามท่านอิบรอฮีม บินนัซลฺ ว่า "พวกเราขอดุอาอฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างมากมาย แต่ทำไมอัลลอฮฺไม่รับดุอาอฺของพวกเรา”
ท่านอิบรอฮีมได้กล่าวว่า "พวกท่านทั้งหลายมีคุณลักษณะ 10 ประการนี้ ทำให้อัลลอฮฺไม่รับดุอาอฺของพวกท่าน" เรามี 1 ใน 10 ประการนี้บ้างหรือเปล่า
พวกท่านอ่านอัลกุรอานในสิ่งที่เป็นคำสั่งของอัลลอฮฺ แต่พวกท่านละทิ้ง ไม่ปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮฺทรงสั่งใช้
พวกท่านกล่าวว่าพวกท่านรักรอซูล (ซ.ล.) แต่พวกท่านไม่ปฏิบัติตามซุนนะฮฺ (แบบฉบับของท่านนบี)
พวกท่านอ่านอัลกุรอาน แต่พวกท่านไม่ปฏิบัติตามในสิ่งที่เป็นข้อใช้และข้อห้ามของอัลกุรอาน
พวกท่านกล่าวว่าพวกท่านมีความรักในสรวงสวรรค์ อยากที่จะได้สวรรค์ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) แต่พวกท่านละทิ้งแนวทางที่จะนำตัวของท่านไปสู่สวรรค์
พวกท่านกลัวและรังเกียจที่จะถูกลงโทษในนรก แต่พวกท่านกำลังเดินไปในหนทางที่จะนำตัวของท่านถูกโยนลไปในขุมนรกของพระองค์
พวกท่านกล่าวว่าอิบลีสเป็นศัตรูของพวกท่าน แต่พวกท่านกลับทำในสิ่งที่อิบลีสได้แนะนำและก็ส่งเสริม
พวกท่านฝังผู้ที่เสียชีวิต แต่พวกท่านไม่เคยเอาความตายมาเป็นข้อเตือนใจแก่พวกท่านเลย
พวกท่านยุ่งอยู่กับสิ่งที่เป็นข้อตำหนิของบุคคลอื่น แต่พวกท่านลืมในสิ่งที่เป็นข้อตำหนิของพวกท่าน (พูดง่ายๆ ก็คือ ยุ่งอยู่กับเรื่องคนอื่น รู้หมดเลย)
พวกท่านสะสมในทรัพย์สิน แต่พวกท่านลืมว่าทรัพย์สินต่างๆ เหล่านี้จะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺ
พวกท่านทำลายกุโบร์ที่จะเป็นที่ฝังร่างของพวกท่าน แต่พวกท่านหันไปสร้างบ้านที่มันไม่ถาวรบนโลกดุนยานี้