เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ
หัวข้อ คลุมฮิญาบแล้วได้อะไร
สอนโดย อ.ซิดดิ๊ก มูฮำหมัดสะอี๊ด
การคลุมฮิญาบต้องทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ยำเกรงต่อพระองค์ การแต่งกายฮิญาบจะต้องครบตามเงื่อนไขดังนี้
เงื่อนไขการแต่งกายฮิญาบ
แต่งกายมิดญิด ยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือ (การแต่งกายที่ผิดหลัก ไม่เป็นสิ่งที่ตอบรับ ณ อัลลอฮฺ)
ไม่บาง เมื่อสวมใส่เข้าไปแล้ว จะต้องไม่เห็นผิวหนังภายในร่างกาย (รอซูลให้ใส่เสื้อคลุมทับอีกตัว)
ไม่คับ เมื่อสวมใส่เข้าไปแล้ว จะต้องไม่เห็นทรวดทรง หรือสรีระของร่างกาย
จะต้องไม่มีเครื่องประดับ หรือมีสีสันฉูดฉาด
เครื่องนุ่งห่มจะต้องไม่ใส่น้ำหอม หรือของหอมใดๆ ทั้งสิ้น
เครื่องนุ่งหุ่มจะต้องไม่ใช้ในการเฉพาะบุคคลต่างศาสนาอื่น หรือเป็นเสื้อผ้าที่ใช้เฉพาะกับบุคคลที่มีชื่อเสียง
เครื่องนุ่งห่มจะต้องไม่เหมือนเครื่องนุ่งห่มของเพศชาย
เครื่องนุ่งห่มจะต้องไม่มีรูปภาพคนหรือสัตว์
เครื่องนุ่งหุ่มจะต้องไม่มีสัญลักษณ์ของศาสนาอื่น
เครื่องนุ่งห่มจะต้องไม่มีสัญลักษณ์ของสิ่งต้องห้ามในหลักการอิสลาม เช่น สัญลักษณ์แบรนด์เหล้า บุหรี่ เพราะถือว่าไปมีส่วนร่วมในการโฆษณาของหะรอมเหล่านั้น
1. ได้รับเกียรติยศอันสูงส่งจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และสถานะอันสูงส่ง ณ พระองค์
“โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮฺนั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว เพราะการศรัทธายังมิได้เข้าสู่หัวใจของพวกท่าน และถ้าหากพวกท่านเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์แล้ว พระองค์จะไม่ทำให้การงานของพวกท่านด้อยลงแต่ประการใด แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลหุญุร๊อต 13-14)
2. ทำให้หัวใจสงบและจิตใจใสสะอาด
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในชีวิตและครอบครัว บางทีอาจเกิดจากขาดการคลุมฮิญาบ
“โอ้ บรรดาผู้ศรัทธา ! พวกเจ้าอย่าได้เข้าไปในบ้านทั้งหลายของนะบี เว้นแต่จะเป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้า เพื่อรับประทานอาหารโดยมิต้องคอยการปรุงอาหารให้สุกเสียก่อน แต่เมื่อพวกเจ้าได้รับเชิญก็จงเข้าไปครั้นเมื่อพวกเจ้ารับประทานเสร็จแล้วก็จงแยกย้ายกันออกไป และอย่าเป็นผู้ชอบวิสาสะในการสนทนา แท้จริง ในการนั้นย่อมทำความรำคาญให้แก่ท่านนะบี ซึ่งท่านกระดากอายพวกเจ้า แต่อัลลอฮฺไม่ทรงกระดากอายต่อความจริง และเมื่อพวกเจ้าขอสิ่งใดจากพวกนาง ก็จงขอพวกนางจากหลังม่าน เช่นนั้นแหละเป็นการบริสุทธิ์อย่างยิ่งแก่จิตใจของพวกเจ้าและจิตใจของพวกนาง และไม่เป็นการบังควรแก่พวกเจ้าที่จะก่อความรำคาญให้แก่ร่อซูลของอัลลอฮฺ และพวกเจ้าจะต้องไม่แต่งงานกับบรรดาภริยาของท่าน หลังจากท่าน (ได้สิ้นชีพไปแล้ว) เป็นอันขาด แท้จริงในการนั้น ณ ที่อัลลอฮฺเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงนัก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ 53)
3. รอดพ้นจากการระรานทางสายตา หรือถูกถากถางทางคำพูดจากผู้ชายที่มีโรคแห่งตัณหาราคะ
มุสลิมะห์ที่คลุมฮิญาบเพื่ออัลลอฮฺจริงๆ อัลลอฮฺจะปกป้องคุ้มครอง คลุมฮิญาบแล้ว ต้องคลุมคำพูดด้วย
“โอ้ บรรดาภริยาของนะบี! พวกเธอไม่เหมือนกับสตรีใด ๆ ในเหล่าสตรีอื่นหากพวกเธอยำเกรง (อัลลอฮฺ) ก็ไม่ควรพูดจาเพราะพริ้งนัก เพราะจะทำให้ผู้ที่ในหัวใจของเขามีโรคเกิดความโลภ แต่จงพูดด้วยถ้อยคำที่พอเหมาะพอควร และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โออวดความงาม (ของพวกเธอ) เช่น การอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคก่อน และจงดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาต และจงภักดีต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ อัลลอฮฺเพียงแต่ต้องการที่จะขจัดความโสโครกออกไปจากพวกเจ้า โอ้ สมาชิกของวงศ์ตระกูล (นะบี) และทรง (ประสงค์) ที่จะขัดเกลาพวกเจ้าให้สะอาดบริสุทธิ์” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ 32-33)
4. รอดพ้นจากบาปของการละเมิดคำสั่งของอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
“และส่วนบรรดาผู้ชั่วช้านั้น ที่พำนักของพวกเขาคือไฟนรก คราใดที่พวกเขาต้องการจะออกไปจากมัน พวกเขาจะถูกบังคับให้เข้าไปในนั้นอีก และจะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า "จงลิ้มรสการลงโทษของไฟนรกซึ่งพวกท่านเคยปฏิเสธ ไม่เชื่อมัน"” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัซซัจญดะฮฺ 20)
5. รอดพ้นจากการถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และบรรดามวลมลาอิกะฮฺ
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "หากนางออกนอกบ้านไม่คลุมฮิญาบให้เรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวนางในขณะนั้น สาปแช่งนางหมด อัลลอฮฺและมลาอิกะฮฺก็สาปแช่ง จนกว่านางจะกลับเข้ามาสู่บ้าน"
6. รอดพ้นจากสภาพการทำตัวเหมือนชัยฏอน
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "แท้จริงสตรีที่แต่งกายไม่เรียบร้อยนั้น เวลานางเดินมา นางจะเดินมาในรูปลักษณ์ของชัยฏอน เวลาเดินไปก็ไปในรูปลักษณ์ของชัยฏอน" (หะดีษ บันทึกโดยติรมีซีย์)
7. ได้รับความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "เมื่อท่านทำดีแล้ว ความดีทำให้ท่านเกิดความสุขใจอย่างที่สุด แต่เวลาท่านฝ่าฝืนในเรื่องหนึ่งแล้ว การฝ่าฝืนนั้นจะทำให้ท่านทุกข์ใจอย่างที่สุด ท่านนั่นแหล่ะคือมุอฺมินที่สมบูรณ์"
8. ได้รับความภาคภูมิใจที่ได้ออกห่างจากการฝ่าฝืนของอัลลอฮฺ
9. รอดพ้นจากการถูกทรมานในหลุมฝังศพ
10. ได้รับความสะดวกสบายในโลกดุนยา มีทางออกเมื่อมีปัญหา
“ผู้ใดยำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขา และจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัฏเฏาะลาก 2-3)
“และผู้ใดยำเกรงต่ออัลลอฮฺ พระองค์จะทรงทำให้กิจการของเขาสะดวกง่ายดายแก่เขา และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์จะทรงลบล้างความชั่วทั้งหลายของเขาออกไปจากเขาและจะทรงเพิ่มรางวัลให้มากขึ้นแก่เขา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัฏเฏาะลาก 4-5)
11. เป็นหนทางที่ได้รับริสกีเพิ่มพูนขึ้น
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “และแท้จริงบ่าว (คนหนึ่ง) ริซกี (ปัจจัยยังชีพ) จะถูกห้าม (สำหรับเขา) ตราบที่เขายังกระทำความผิด (บัญญัติศาสนา)” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอะหฺมัด เลขที่ 22413)
12. เป็นกุลสตรีที่ดี เป็นคนดีของอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
ความละอายต่อบาป เป็นคุณลักษณะของการเป็นกุลสตรีที่ดี เป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺ
“โอ้ ลูกหลานอาดัม! แท้จริงเราได้ให้ลงมาแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม ที่ปกปิดสิ่งที่อันน่าละอายของพวกเจ้าและเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความสวยงาม และเครื่องนุ่งห่มแห่งความยำเกรง นั่นคือสิ่งที่ดียิ่ง นั่นแหละคือส่วนหนึ่งจากบรรดาโองการของอัลลอฮฺ เพื่อที่ว่าเขาเหล่านั้นจะได้รำลึก” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 26)