เนื้อหาจากการบรรยายในยูทูบ หัวข้อ "วาระสุดท้ายคนใกล้ตาย"
สอนโดย อ.ซิดดิ๊ก มูฮำหมัดสอี๊ด
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงรำลึกถึงความตายให้มากๆ” (หะดีษ รายงานโดย ติรฺมีซีย์และนะสาอีย์)
คนใกล้ตาย อัลลอฮฺจะให้อ่อนแรง บางคนไม่มีแรงที่จะพูด ขยับปากได้น้อยๆ แต่ละคนไม่เหมือนกัน อุลามาอฺบอกมีฮิกมะฮฺ คือ มนุษย์ทุกคนไม่มีสิทธิ์หนี
คนใกล้จะตายเห็นอะไร
1. อัลลอฮฺจะเปิดดวงตาของเขา สิ่งที่ปิด อัลลอฮฺจะเปิดให้เมื่อใกล้จะตาย สิ่งที่ไม่ได้เห็นมาก่อน จะได้เห็น บอกใครไม่ได้
“โดยแน่นอนเจ้าไม่สนใจต่อเรื่องนี้ นั้นเราจึงเปิดสิ่งที่ปกคลุมเจ้าอยู่ให้ออกไปจากเจ้า วันนี้สายตาของเจ้าจึงเฉียบขาด” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺก็อฟ 22)
ท่านรอซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “แท้จริงผู้ศรัทธาเมื่อความตายมาถึงเขา, เขาจะเห็นสิ่งที่จะได้เห็น เขาปรารถนาให้ (วิญญาณ) ของเขา (ออกจากร่าง) ไปพบพระองค์อัลลอฮฺ และพระองค์อัลลอฮฺทรงรักที่จะพบเขาเช่นกัน, แท้จริงวิญญาณของเขานั้นจะขึ้นไปสู่ฟากฟ้า (เวลานั้น) เหล่าวิญญาณของผู้ศรัทธาจะมาพบเขา, พวกเขาจะไถ่ถามเขาถึงผู้คน (ที่ยังมีชีวิต) ในโลกดุนยาที่พวกเขารู้จัก” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อิมามอัลบัซซารฺ)
หะดีษรายงานโดย อัล บะรออ์ อิบนุฮาซิบ กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “แท้จริง บรรดามุอฺมิน เมื่อเขาสิ้นสุดวาระในโลกดุนยา และก้าวเข้าสู่โลกอาคีเราะฮฺ บรรดามลาอิกะฮฺจะลงมาจากฟากฟ้า โดยมีใบหน้าผ่องใส ใบหน้าของพวกเขาสว่างไสวเหมือนดั่งดวงอาทิตย์ พวกเขาเตรียมเครื่องกะฝั่น (ห่อศพ) จากสวรรค์และมีของหอมจากสวรรค์ จนกระทั่งพวกเขามานั่งอยู่กับผู้ตายเป็นแถวยาวสุดสายตา แล้ว มะละกุลเมาต์ ก็ลงมานั่งทางศีรษะของผู้ใกล้จะตาย โดยกล่าวว่า “โอ้ วิญญาณทีดี จงออกไปสู่การอภัยโทษจากอัลลอฮฺ และความพอพระทัยจากพระองค์เถิด”
แล้ววิญญาณก็ไหลออกมา เหมือนกับน้ำที่ไหลออกมาจากปากคนโท แล้วมลาอิกะฮฺก็นำมันไป บรรดามลาอิกะฮฺทั้งหลายต่างมองดูวิญญาณในมือของมะละกุลเมาต์อย่างไม่คลาดสายตา จนกระทั่งพวกเขานำมันไปทำการกะฝั่นและใส่ของหอม กลิ่นของมันโชยออกมา โดยมีความหอมยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียง ที่พบอยู่ในโลกนี้
แล้วบรรดามลาอิกะฮฺก็นำวิญญาณขึ้นสู่ฟากฟ้า พวกเขาไม่ผ่านกลุ่มมลาอิกะฮฺใด นอกจากพวกเขาจะกล่าวว่า “นี่คือ วิญญาณของผู้ใด?” พวกเขาจะกล่าวว่า “วิญญาณของคนนั้นคนนี้” โดยเรียกชื่อที่ดีที่สุดที่ผู้คนเรียกเขาในโลกดุนยา จนไปถึงปลายฟ้าของโลกนี้ พวกเขาขอให้เปิดประตู ประตูก็ถูกเปิดแก่เขา บรรดามลาอิกะฮฺได้พาเขาไปส่งยังฟ้าชั้นต่างๆ จนถึงฟ้าชั้นที่เจ็ด อัลลอฮฺ ตรัสความว่า “เจ้าทั้งหลายจงบันทึกในบันทึกของบ่าวของข้าในสวรรค์ชั้นสูงสุด แล้วจงพาเขาลงไปยังโลก แท้จริง จากมันข้าได้สร้างพวกเขา ในมันข้าได้นำพวกเขากลับไป และจากมันจะนำพวกเขาออกมาอีกครั้งหนึ่ง”
เขาจะเห็นมลาอิกะฮฺที่นำเครื่องห่อวิญญาณมาพร้อมกับพวกเขา มานั่งระยะที่ตามองเห็น ถ้าเป็นคนดี มลาอิกะฮฺจะมีใบหน้าขาวนวล ชุดขาวสะอาด สำหรับคนชั่ว มลาอิกะฮฺจะนำเครื่องห่อวิญญาณที่มีกลิ่นเหม็น ใบหน้าของเขาดำทะมึน
มีมลาอิกะฮฺจะมาแจ้งข่าว (มลาอิกะฮฺมีมากกว่าท่านเดียว มะลักคือท่านเดียว) สำหรับคนดี รับข่าวดี จะได้เข้าสวรรค์
“บรรดาผู้ที่มะลาอิกะฮฺเอาชีวิตของพวกเขาโดยที่พวกเขาเป็นคนดี พลางกล่าวว่า “ศานติจงมีแด่พวกเจ้า จงเข้าไปในสวนสวรรค์เนื่องจากสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ 32)
คนๆ นั้นจะโล่ง ขอดุอาอฺให้เราได้รับแจ้งข่าวดีว่าเป็นชาวสวรรค์ ส่วนคนชั่วจะได้รับข่าวว่าจะต้องถูกลงโทษ คนๆ นั้นร้องไห้ หรือน้ำตาไหลเขาจะเห็นชัยฏอนที่มาหลอกล่อในเวลาที่ใกล้จะตาย นบีจึงขอดุอาอฺให้พ้นจากการมายุแหย่ของชัยฏอน ในตอนที่ใกล้จะตาย
เขาจะเห็นกอรีน ชัยฏอนที่อยู่กับเรามาตลอด
ชัยฏอนอาจจะจำแลงเป็นพ่อแม่ คนรัก ญาติพี่น้อง เพื่อน (คนที่ตาย มาไม่ได้ อยู่อาลัมบัรซัค)
เห็นมะละกุลเมาต์ มีหะดีษที่กล่าวถึงมะละกุลเมาต์ จะแปลงร่างมาเป็นบุรุษผู้ชายคนหนึ่ง มารยาทดี เขาจะมาตรงศีรษะ กล่าวว่า “โอ้ ดวงวิญญาณที่ดี ออกมาเถอะ” วิญญาณที่ดีดีใจ ออกมาทีละน้อย เหมือนกับน้ำที่ไหลออกมาจากปากคนโท โดยไม่มีขัดขืน ส่วนวิญญาณชั่ว มะละกุลเมาต์จะมาในสภาพที่เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าเกลียดที่สุดบนโลกนี้ กล่าวว่า “โอ้ ดวงวิญญาณแห่งความชั่ว จงออกมาสู่ความเกลียดชังของอัลลอฮฺเถิด” วิญญาณไม่ยอมออก แตก วิ่งอยู่ในร่างกาย มะละกุลเมาต์ดึงวิญญาณเหมือนดึงลวดหนามจากกระสอบนุ่นที่เปียก
คนตายเมื่อเห็นมะละกุลเมาต์ มีอาการอย่างไร
1) ลืมตา คนดีลืมตาแบบยินดี คนชั่วตาเหลือก
2) อ้าปาก คางตก กรามข้างล่างจะห้อยลง
3) หัวใจเต้นช้าลง อ่อนแรง
4) อวัยวะจากข้างล่างที่เท้าเริ่มเย็น เท้าเริ่มแบะออก
5) จมูกเอียงไปด้านหนึ่ง
2. ผู้ใกล้จะตายได้ยินเสียงรอบๆ ตัวเขา เพียงแต่เขาโต้ตอบอะไรไม่ได้ รอซูลจึงสั่งให้พูดเรื่องดีๆ ใกล้คนจะตาย
3. ผู้ใกล้ตายจำนวนมากจึงร้องไห้ เพราะ
เจ็บปวดจากวิญญาณที่กำลังจะออก จึงทำให้น้ำตาไหล สำหรับผู้ศรัทธาจะเบาบางกว่าคนเลว (สำหรับคนดี)
กลัวที่สุดที่จะเจอกับอัลลอฮฺ (เฉพาะคนเลว)
เนื่องจากเขาเห็นมาลิกุลเมาต์ ร้องไห้อยากจะตายนานแล้ว (คนดี)
บางคนเสียใจอย่างที่สุดกับความชั่วที่ทำไป
ดีใจอย่างที่สุดที่จะได้เข้าสวรรค์
4. วิญญาณเริ่มออกจากร่างกายอย่างไร
วิญญาณถูกนำออกจากทางด้านศีรษะ เคลื่อนทีละน้อยจากเท้า (เท้าเย็นลง บางทีความเย็นมาถึงขา หน้าอก)
วิญญาณมาถึงลูกกระเดือก มีอาการคร่อก บางคนหลายคร่อก กว่าจะไป
มลาอิกะฮฺก็จะเอาวิญญาณออกไป นำไปยังมลาอิกะฮฺที่นำเครื่องห่อวิญญาณ
สำหรับคนชั่วจะเจ็บหนัก แต่ไม่มีใครรู้
5. สำหรับคนที่อยากให้วิญญาณออกอย่างง่ายดาย
ให้ขอดุอาอฺบทนี้ “อัลลอฮมมา เฮาวิน อาลัยยา ซาการอติลเมาตฺ” ความหมาย “โอ้ อัลลอฮฺได้โปรดทำให้ความเจ็บปวดแห่งความตายเบาบาง (การออกของวิญญาณ) สำหรับฉันด้วยเถิด”
6. วิญญาณออกจากร่างกาย ใช้เวลานานไหม
แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนวิญญาณถึงลูกกระเดือกแล้ว ใช้เวลาหลายชั่วโมง ก่อนวิญญาณจะออกไปจากศีรษะ ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่าตายดีหรือตายไม่ดี
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครที่เตาบะฮฺ (สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว) ไปยังอัลลอฮฺก่อน ฆ็อรเฆาะเราะฮฺ - เสียงดังที่ลูกกระเดือก (ลมหายใจสุดท้าย) อัลลอฮฺจะรับการเตาบะฮฺจากเขา” (หะดีษ รายงานโดย อะหฺมัด, ติรมิซียฺ, เศาะฮีหฺ อัล ญามิอฺ เลขที่ 6163)
7. เราไม่สามารถยับยั้งวิญญาณไม่ให้ออกจากร่างได้
อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ 83-87 ระบุไว้ความว่า “และเมื่อวิญญาณได้มาถึงคอหอย (กำลังจะตาย) แล้วพวกเจ้าสามารถจะยับยั้งไว้ได้หรือ? และในขณะนั้นพวกเจ้ากำลังมองดูกันอยู่ และเรานั้นอยู่ใกล้ชิดเขายิ่งกว่าพวกเจ้าแต่ทว่าพวกเจ้ามองไม่เห็น(มะลาอิกะฮฺ) หากว่าพวกเจ้ามิได้อยู่ภายใต้อำนาจของผู้ใด และไม่มีพระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว ไฉนเล่า พวกเจ้าจึงไม่ให้วิญญาณกลับมาสู่ร่างอีก หากพวกเจ้าพูดจริง?”
8. ดวงตามองเห็นวิญญาณที่ถูกนำออกไปจากร่างกาย วิญญาณออกไปแล้ว ดวงตาก็จะมองตามไป
อุมมะสะละมะฮฺเล่าว่า : เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺได้มาหาอบูสะละมะฮฺ (ในตอนที่เขาตาย) ตาของเขาเปิดอยู่ ท่านนบีจึงได้ปิดตาทั้งสองของเขาและกล่าวว่า “เมื่อวิญญาณถูกนำไป การเห็นของเขาก็ตามมันไปด้วย” คนในครอบครัวของเขาบางคนจึงร้องไห้สะอึกสะอื้น
ดังนั้น ท่านจึงกล่าวว่า “อย่าวิงวอนสิ่งใดเพื่อตัวของท่านเองนอกไปจากความดี เพราะมลาอิก๊ะฮฺจะกล่าวอามีนให้แก่สิ่งที่ท่านกล่าววิงวอน” หลังจากนั้น ท่านได้กล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้อภัยอบูสะละมะฮฺ โปรดยกสถานะของเขาให้ขึ้นไปอยู่ในหมู่ผู้ได้รับทางนำที่ถูกต้อง โปรดประทานผู้สืบทอดคนหนึ่งให้แก่เขาในหมู่ลูกหลานที่เหลือของเขา โปรดให้อภัยเราและเขา โอ้พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก โปรดทำให้สุสานของเขากว้างขวางและทำให้มันสว่างไสวสำหรับเขา”
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 920)
อบูฮูร็อยเราะฮฺเล่าว่า : เมื่อวิญญาณของผู้ศรัทธาจะออกไป (จากร่างกาย) มลาอิก๊ะฮฺสององค์จะรับมันไปยังชั้นฟ้าทั้งหลาย ฮัมมาด (หนึ่งในผู้รายงาน) ได้เอ่ยถึงความหวานของกลิ่นหอมและเอ่ยถึงชะมดเชียง (และกล่าวต่อไปว่า) ผู้อาศัยอยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายจะกล่าวว่า “วิญญาณที่ทรงคุณความดีจากส่วนหนึ่งของโลกมาแล้ว ขออัลลอฮฺโปรดประทานพรแก่ท่านและแก่ร่างกายที่ท่านครอบครองอยู่” และวิญญาณจะถูกนำไปยังพระผู้อภิบาลของเขา พระองค์จะทรงกล่าวว่า “นำมันไปยังจุดหมายที่กำหนดไว้ของมัน”
สำหรับผู้ปฏิเสธ เมื่อวิญญาณของเขาออกจากร่างกาย ฮัมมาดได้เอ่ยถึงกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนของมันและเอ่ยถึงการที่มันถูกสาปแช่ง ผู้อาศัยอยู่ในชั้นฟ้ากล่าวว่า “มาแล้ววิญญาณชั่วจากโลก” และจะมีคำกล่าวว่า “เอามันไปยังจุดหมายที่ได้ถูกกำหนดไว้สำหรับมัน” อบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า ในขณะที่เอ่ยถึงกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนของวิญญาณของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ท่านรอซูลุลลอฮฺได้เอาผ้าบางๆ ที่ติดตัวท่านปิดจมูกของท่าน
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2872)