5L 1.1 In-Transit Ambulance Safety
L 1.1 In-Transit Ambulance Safety
Definition
In-Transit Ambulance หมายถึง
ขบวนการปฏิบัติการดูแลและรักษาผู้ป่วยบนรถพยาบาล
ขณะนำส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาล
Goal
การตายการบาดเจ็บของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บนรถพยาบาลจากอุบัติเหตุรถพยาบาลลดลง
Why
สถานการณ์ของประเทศไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 แม้จะได้มีการสนับสนุน ให้
ความรู้และมีมาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บน
รถพยาบาลแล้วก็ตามแต่จากการเก็บข้อมูลโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติในปี
พ.ศ.2556 ปรากฏว่า ยังพบอุบัติเหตุรถพยาบาล 61 ครั้ง ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ได้รับ
บาดเจ็บรวมแล้วจ านวน 131 คน และมีผุ้เสียชีวิต 19 คน
มาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ลดความรุนแรงขณะชนยังไม่ได้ตาม
เกณฑ์ที่นานาชาติยอมรับและใช้อย่างแพร่หลาย ดังนั้นการปรับปรุงรถพยาบาลเพื่อให้ได้
มาตรฐานความปลอดภัยตามที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติจึงสมควรเป็นอีกหนึ่ง
วิธีการที่จะลดการบาดเจ็บ การตายของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บนรถพยาบาล
Process
จากการศึกษามาตรฐานรถพยาบาลของกลุ่มประเทศยุโรปและงานวิจัยต่างๆ พบว่า
มาตรฐานความปลอดภัยของรถพยาบาลนั้นต้องได้รับการออกแบบด้านวิศวกรรมเป็น
อย่างดีตั้งแต่ตัวถังรถ การติดตั้งอุปกรณ์ยึดตรึงเครื่องมือและการติดตั้งอุปกรณ์ความ
ปลอดภัยและได้มาตรฐานการทนแรงในทุกทิศทาง 10 G ทั้งตัวอุปกรณ์และวิธีการติดตั้ง
(10 G คือ มาตรฐานการติดตั้งอุปกรณ์ เก้าอี้ เตียงและตกแต่งภายในต่างๆ ภายในห้อง
พยาบาลของรถพยาบาล ตามการคำนวณแรงกระทำต่อจุดยึดในทิศทางไปข้างหน้า ข้าง
หลัง ด้านซ้ายและด้านขวา โดยจุดยึดดังกล่าวต้องสามารถทนแรงได้ไม่น้อยกว่า 10 เท่า
ของน้ำหนักวัตถุนั้นๆ)
1. อุปกรณ์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่
งานวิจัยต่างระบุว่าการจัดวางหรือตกแต่งภายในของส่วนห้องพยาบาลบน
รถพยาบาลนั้นไม่ได้ค านึงถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มากเท่าที่ควร ตัวอย่างเช่น
การวางอุปกรณ์การแพทย์ส่วนมากไว้ที่ฝั่งตรงข้ามกับเก้าอี้นั่งของเจ้าหน้าที่ ท าให้
เจ้าหน้าที่ต้องถอดเข็มขัดนิรภัยเพื่อไปใช้อุปกรณ์นั้น การแก้ปัญหาคือ ปรับการวาง
อุปกรณ์ที่ใช้บ่อยเช่นเครื่องวัดสัญญาณชีพมาติดตั้งที่ฝั่งเก้าอี้นั่งเจ้าหน้าที่ หรือจัดซื้อ
อุปกรณ์ที่สามรถควบคุมผ่านอุปกรณ์ไร้สายได้(Remote controller)เมื่อเจ้าหน้าที่นั่ง
บนเก้าอี้ที่ยึดไม่ได้มาตรฐานและใช้เข็มขัดนิรภัยที่ไม่ผ่านการทดสอบย่อมไม่สามารถ
ลดการเกิดการบาดเจ็บและการตายได้ ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยของเก้าอี้นั่งและ
เข็มขัดนิรภัยควรได้มาตรฐานการทนแรงในทุกทิศทาง 10 G ทั้งตัวอุปกรณ์และวิธีการ
ติดตั้ง
2. อุปกรณ์เกี่ยวกับผู้ป่วย
ในท านองเดียวกันหากผู้ป่วยนอนบนเตียงพยาบาลที่เข็มขัดนิรภัย เตียงและ
ฐานรองเตียงไม่ได้มาตรฐานย่อมไม่สามารถลดการเกิดการบาดเจ็บและการตายได้
ดังนั้นมาตรฐานของเตียงผู้ป่วย ฐานเตียงและวิธีการติดตั้งควรได้มาตรฐานการทนแรง
ในทุกทิศทาง 10 G ทั้งตัวอุปกรณ์และวิธีการติดตั้ง
3. การยึดตรึงอุปกรณ์การแพทย์บนรถพยาบาล
วัตถุที่มีมวลทุกอย่างตามหลักฟิสิกส์จะมีแรงเฉื่อยดังนั้นเมื่ออุปกรณ์การแพทย์
ที่มีน ้าหนักอยู่บนรถพยาบาลที่วิ่งด้วยความเร็วและเมื่อเกิดการหยุดกะทันหันจาก
อุบัติเหตุ อุปกรณ์การแพทย์จะลอยออกจากชั้นวางและสามารถกระแทกผู้ป่วยและเจ้า
หน้าท าให้เกิดการบาดเจ็บได้ การแก้ปัญหาคือการจัดให้อุปกร์ทุกชิ้นที่เคลื่อนที่ได้ให้
ติดตั้งลงบนฐานเฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆโดยที่ฐานยึดอุปกรณ์ต้องผ่านการทดสอบ
ความทนแรงทุกทิศทาง 10 G
Training
อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยดังกล่าวจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆหากผู้ปฏิบัติไม่ได้
ใช้อย่างถูกต้องดังนั้น สถานพยาบาลควรต้องอบรมทัศนคติและการปฏิบัติการเพื่อ
ความปลอดภัยของตนเองและผู้รับบริการ
Monitoring
** รถพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกคันที่จัดซื้อหลังจากงบประมาณ พ.ศ.
2561 ทุกคันมีเก้าอี้พร้อมเข็มขัดนิรภัยที่ได้มาตรฐาน เตียงผู้ป่วยและฐานรองเตียง
ที่ได้มาตรฐาน และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับการยึดด้วยมาตรฐานความปลอดภัย
** ข้อมูล อุบัติการณ์และความรุนแรงจากอุบัติเหตุรถพยาบาล
ทำให้เกิดการตายการบาดเจ็บของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บนรถพยาบาล
Pitfall
อุปกรณ์การแพทย์ เก้าอี้และเตียงผู้ป่วยนั้นแม้จะผ่านมาตรฐาน 10 G ที่ผ่าน
การทดสอบจากต่างประเทศมาแล้ว ยังคงต้องได้รับการยึดกับตัวถังรถด้วยมาตรฐาน
10 G ดังนั้นโรงงานผู้ผลิตต้องมีเอกสารรับรองวิธีการติดตั้งด้วยมาตรฐาน 10 G ที่
รับรองด้วยองค์กรที่น่าเชื่อถือด้วย
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการ
สุขภาพ ฉบับที่ 4 ตอนที่ III หมวดที่ 6 การดูแลต่อเนื่อง (COC) (3)
เครื่องที่ดี
การยึดกลับยานพาหนะ
ฝึกฝนการใช้งาน