1S 2 Social Media and Communication Professionalism
S 2: Social Media and Communication Professionalism
Definition
“สื่อสังคมออนไลน์” (Social Media) หมายความว่า สื่อหรือช่องทางในการติดต่อสื่อสารหรือ
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เน้นการสร้างและเผยแพร่เนื้อหา
ระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน (Creation and Exchange of User-Generated Content) หรือ
สนับสนุนการสื่อสารสองทาง หรือการน าเสนอและเผยแพร่เนื้อหาในวงกว้างได้ด้วยตนเอง เช่น
กระดานข่าว, Facebook, YouTube, LINE เป็นต้น
Goal
เพื่อให้บุคลากรของสถานพยาบาลมีการใช้งานและการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social
Media) และสื่ออื่นๆ อย่างเหมาะสมและมีความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) และ ลดปัญหา
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองและองค์กร
Why
การใช้งานและการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และสื่ออื่นๆ อย่างไม่เหมาะสม
หรือไม่เป็นมืออาชีพ (Unprofessional Conduct) อาจทำให้บุคลากรทางการแพทย์ถูก
ดำเนินการทางจริยธรรมหรือทางวินัย และอาจสร้างความเสียหายต่อตนเอง สถานพยาบาล
วิชาชีพ หรือเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยได้
Process
1. สถานพยาบาลมีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ สื่อ
อื่นๆ ของบุคลากร ทั้งที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายควบคุม และบุคลากรอื่นของ
สถานพยาบาล (ทั้งที่ใช้งานในนามส่วนตัวหรือในนามองค์กร) ที่เหมาะสมกับบริบทขององค์กร
โดยอาจน าแนวทางปฏิบัติที่เป็น Best Practices มาปรับใช้
2. สถานพยาบาลมีการสื่อสารทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติดังกล่าวภายในองค์กรอย่างทั่วถึง
3. แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ควรครอบคลุมถึงประเด็นต่อไปนี้
ความเชื่อมโยงกับจริยธรรมวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ
การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยและหลีกเลี่ยง การโจมตี กลั่นแกล้งหรือ คุกคาม ทำให้
ผู้อื่นเสียหาย (Cyber-bullying)
แนวทางการใช้งานที่เป็นพฤติกรรมหรือการวางตัวอย่างเหมาะสม (Appropriate Conduct)
การคำนึงถึงความความปลอดภัย (Safety) และเป็นส่วนตัว (Privacy) ของบุคคลอื่น
โดยเฉพาะผู้ป่วย
การห้ามบุคลากรทำการโฆษณาที่ผิดกฎหมายหรือจริยธรรม
แนวทางการใช้งานที่ไม่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นอันตราย เช่น ความรู้ทาง
การแพทย์ที่ผิดๆ
ขอบเขตและแนวทางการใช้งานเพื่อการปรึกษา ให้คำปรึกษา ติดตาม สั่งการร้กษา หรือให้
คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ (Online Consultation) ไม่ว่าจะระหว่างบุคลากรด้วยกันเอง หรือ
กับผู้ป่วยหรือบุคคลภายนอก ที่เหมาะสมขององค์กร
4. สถานพยาบาลมีการเฝ้าระวังและกระบวนการสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Communication)
ซึ่งรวมถึงการตอบสนองในกรณีที่มีเหตุที่อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และ
ความเชื่อมั่นขององค์กรในวงกว้าง ที่เหมาะสม คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ
Training
การอบรมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ
Monitoring
มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
สัดส่วนของบุคลากรที่มีความตระหนักต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างๆ อย่าง
เหมาะสมและมีความเป็นมืออาชีพ
จำนวนอุบัติการณ์ความเสี่ยงด้านการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อบุคลากรหรือ
องค์กรที่สามารถป้องกันได้
Pitfall
แนวทางปฏิบัติไม่สอดคล้องกับบริบทขององค์กร หรือ มีความยุ่งยากซับซ้อนจนเกินไป
แนวทางปฏิบัติจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคลากรจนเกินไป หรือมีปัญหาการยอมรับโดยบุคลากร
องค์กรเองไม่เข้าใจธรรมชาติของสื่อสังคมออนไลน์ การกำหนดแนวทางปฏิบัติ หรือการนำ
แนวทางปฏิบัติไปใช้ จึงเกิดปัญหา เช่น สร้างปัญหาความสัมพันธ์กับผู้ป่วยมากกว่าเดิม ละเมิด
สิทธิของผู้ป่วย หรือส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นต่อองค์กรเอง
องค์กรมุ่งเน้นแต่เรื่องการถ่ายภาพหรืออัดเสียงในโรงพยาบาล หรือ การโพสต์ข้อความบนสื่อ
สังคมออนไลน์ของผู้ป่วยและญาติมากจนเกินไป จนเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ป่วยเกินสมควร
หรือสร้างปัญหาความสัมพันธ์กับผู้ป่วย แต่ไม่ได้ให้ความส าคัญกับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์
ของบุคลากรที่เป็นปัญหาเสียเองและส่งผลกระทบด้านลบต่อองค์กรและบุคลากรเองด้วย
การเฝ้าระวัง ติดตาม หรือแก้ไขปัญหาบนสื่อสังคมออนไลน์ขององค์กรไม่ทันท่วงทีหรือขาด
ประสิทธิภาพ
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
ฉบับที่ 4 ตอนที่ I หมวดที่ 4
ข้อ 4.2 การจัดการความรู้และสารสนเทศ
ข. การจัดการระบบสารสนเทศ (3)