RM9 RM Team1
ระบบบริหารจัดการความเสี่ยงโรงพยาบาล
ตัวอย่าง
ความหมาย
การบริหารจัดการความเสี่ยง เป็นกิจกรรมพื้นฐานบุคลากรทุกคนของโรงพยาบาลต้องให้ความสำคัญและร่วมกันวางแผนป้องกันและดำเนินการตามแนวทางที่วางไว้โดยใช้กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง ที่ประกอบด้วย การค้นหาความเสี่ยง (เหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นในอดีตมีการค้นหาเพื่อนำมาวางแนวทางป้องกันเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการค้นหาความเสี่ยงเชิงรุก) และ การรายงานอุบัติการณ์ (คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเรียกอีกอย่างว่า ความเสี่ยงเชิงรับ)
นโยบายบริหารจัดการความเสี่ยงของโรงพยาบาล
การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นหน้าที่ของทุกคน ให้บุคลากรทุกคนมีหน้าที่เฝ้าระวังค้นหาและรายงานความเสี่ยงโดยทำความเข้าใจกับระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่คณะกรรมการบริหารจัดการความเสี่ยงของโรงพยาบาลได้จัดทำคู่มือโดยให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
1. ให้ทุกหน่วยงาน / ทุกทีม ค้นหาและประเมินความเสี่ยงในหน่วย / ทีม ให้ครอบคลุมประเด็นตามโปรแกรมความเสี่ยงที่คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงกำหนดให้พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่ค้นได้ และบันทึก ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมทั้งทำความเข้าใจกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แนวทางที่กำหนดไปปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงซ้ำ
2. ให้ทุกหน่วยงาน / ทุกทีมรายงานอุบัติการณ์ ที่เกิดขึ้นในหน่วยงานหรือพบเห็น ในโรงพยาบาลพร้อมทั้งดำเนินการตามระบบการรายงานและบริหารจัดการความเสี่ยงที่ทีมบริหารความเสี่ยงกำหนดและบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
3. ให้ทุกหน่วยงาน / ทุกทีมมีการทบทวนและใช้ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกมาวางมาตรการในการป้องกันและแก้ไขความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและให้มีการเฝ้าระวังและทบทวนความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอรายงานการบริหารจัดการความเสี่ยงให้หัวหน้ากลุ่ม / ทีมและกรรมการบริหารความเสี่ยงทราบตามระยะเวลาที่กำหนด
Patient Safety Goal
1. Patient Identification
2. Drug Safety
3. Blood Safety
4. Hand hygiene
5. Environment, Equipment Safety
เป้าหมายของการจัดการบริหารความเสี่ยงของโรงพยาบาล
เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการ บุคลากรผู้ให้บริการ สิ่งแวดล้อมและโรงพยาบาลมีความปลอดภัย
เครื่องชี้วัดการบริหารความเสี่ยง
1. ร้อยละรายงานอุบัติการณ์ที่ประเมินระดับความรุนแรงผิด ไม่เกินร้อยละ 10 ต่อเดือน
2. ร้อยละความเสี่ยงรุนแรงมาก ตั้งแต่ระดับ E ขึ้นไป มีการวิเคราะห์ และ วางระบบในการป้องกัน
ความเสี่ยงภายใน 30 วัน มากกว่าร้อยละ80 ต่อเดือน
3. ร้อยละการเกิดอุบัติการณ์รุนแรงมากตั้งแต่ระดับE ขึ้นไป ซ้ำเรื่องเดียวกัน น้อยกว่าร้อยละ5 ต่อเดือน
4. จำนวนการเกิดอุบัติการณ์ที่มีความรุนแรงสูงสุดระดับ I ต่อเดือน( = 0 ครั้ง)
ข้อต้องปฏิบัติของผู้รับผิดชอบระบบบริหารจัดการความเสี่ยงโรงพยาบาล
1. ผู้อำนวยการ (ประธาน RMC) ออกหนังสือเวียนให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเห็นความสำคัญของระบบบริหารความเสี่ยง โดยขอให้เป็นหน้าที่ของทุกคนในการช่วยกันให้ค้นหาความเสี่ยงรุนแรงและให้รายงานความเสี่ยง โดยไม่มีการทำโทษและให้ความมั่นใจในความปลอดภัย
2. ให้ PCT ทุกหน่วยงานรายงานความเสี่ยงของหน่วยงานทุกเดือนและรายงานความเสี่ยงรุนแรงสูงสุดของหน่วยงานให้ผู้จัดการความเสี่ยงทุกเดือน
3. ผู้จัดการความเสี่ยงสื่อสารและสนับสนุนให้มีประชุมกันทุก PCT / หน่วยงานเพื่ออธิบายโครงสร้างและวิเคราะห์หาสาเหตุพร้อมทั้งวางแนวทางในการแก้ไข / ป้องกันและกระตุ้นให้แพทย์เวรเป็นผู้รายงาน
การกำหนดระดับความรุนแรงของอุบัติการณ์
แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่
ระดับที่ 1 กลุ่มอุบัติการณ์รุนแรงน้อยหรืออุบัติการณ์ทั่วไปของหน่วยงาน
ได้แก่อุบัติการณ์หรือ โอกาสพัฒนาที่เกิดขึ้นหรือรับการเขียนใบ IR จากหน่วยงานอื่นซึ่งหน่วยงานสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะของหน่วยงานหรือทีมนั้น ๆ หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ในระดับ A และ B ในหน่วยงานทางคลินิก
- ระดับA คือเหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดอุบัติการณ์ เช่น เกือบ off ICD ผิดคนเนื่องจากมีรายงานเตียงผู้ป่วยและแพทย์คิดว่าผู้ป่วยเตียงเดิม เขียนใบ request X-ray / lab ผิด แต่ยังไม่ทันได้ order เป็นต้น
- ระดับ B คือเกิดอุบัติการณ์ขึ้น แต่ไม่ส่งผลถึงผู้ป่วย เช่น ส่งผู้ป่วยไป X-ray หรือจ่ายเลือดผิดแต่ตรวจสอบพบก่อนที่จะให้ผู้ป่วย หรือแพทย์ set ผ่าตัดผิดข้าง แต่ทราบก่อนที่ ward จะเตรียมผ่าตัดผู้ป่วย เป็นต้น )
วิธีการรายงาน อุบัติการณ์รุนแรงน้อยหรืออุบัติการณ์ทั่วไป (อุบัติการณ์ระดับที่ 1)
ให้ผู้พบเหตุการณ์บันทึกลงในสมุดรายงานอุบัติการณ์ของหน่วยงาน
วิธีการบริหารจัดการอุบัติการณ์ระดับที่ 1
หน่วยงานต้องสรุปจำนวนและนำอุบัติการณ์มาทบทวนวางแนวทางป้องกันแก้ไข ส่งข้อมูลให้ศูนย์Q&S และรายงานผู้บริหารทุกเดือน
ระดับที่ 2 อุบัติการณ์ที่มีความรุนแรงปานกลางและต้องแก้ไขโดยทีมคร่อมสายงานหน่วยงาน
พบเหตุการณ์เองหรืออุบัติการณ์ที่ได้รับการเขียน IR จากหน่วยงานอื่นหรือจากกล่องรับความคิดเห็นซึ่ง หน่วยงานจะไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองต้องประสานงานกับทีมหรือหน่วยงานอื่น
2.1 หน่วยงานทางคลินิกจะเป็นอุบัติการณ์ในระดับ C และ D
- ระดับ C คือเกิดอุบัติการณ์กับผู้ป่วย แต่ไม่ทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตราย เช่น แพทย์ set ผ่าตัดผิดรายและผู้ป่วยได้รับการเตรียมผ่าตัดไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด หรือ X-ray ผู้ป่วยผิดข้าง/คนแต่ผู้ป่วยไม่ได้รับอันตราย หรือเจาะเลือดผู้ป่วยผิดรายแต่ทราบก่อนที่จะส่ง เป็นต้น
- ระดับ D คือ เกิดอุบัติการณ์กับผู้ป่วย และต้องการการเฝ้าระวังเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกิดอันตรายหรือต้องมีการบำบัดรักษา
2.2 หน่วยงานสนับสนุนบริการและกิจกรรมอื่น ๆ
นอกเหนือจากอุบัติการณ์ทางคลินิกได้จำแนกอุบัติการณ์ไนกลุ่มที่มีความรุนแรงปานกลางว่าเป็นอุบัติการณ์ที่เกิดการสูญเสียทรัพย์สินหรือการทะเลาะวิวาทเล็กน้อยที่ได้รับการจัดการระงับหรือจัดการกับปัญหาได้แล้ว
วิธีการรายงาน อุบัติการณ์ในระดับรุนแรงปานกลาง (ระดับที่ 2)
ให้เขียน IR ส่ง IRให้ศูนย์ Q&S 1 ใบ และสำเนาเก็บไว้หน่วยงานเพื่อทบทวนสรุปรวบรวม
วิธีการบริหารจัดการอุบัติการณ์ระดับที่ 2
ให้หน่วยงานเจ้าของอุบัติการณ์ดำเนินการดังนี้
1. เข้าร่วมทำ RCA
2. รับทราบแนวทางปฏิบัติจาก RCA และนำไปดำเนินการในหน่วยงาน
3. ติดตามประเมินผลการปฏิบัติตาม RCA
4. สรุปอุบัติการณ์ระดับ 2 รายงานศูนย์ Q&S และผู้บริหารทุกเดือน
ระดับที่ 3 อุบัติการณ์ที่มีความรุนแรงมาก ( High Risk ) ได้แก่
1.1 การตายที่ไม่สมควรเกิดขึ้น (Unexpected Death)
1.2 การฆาตกรรม-ฆ่าตัวตาย (Homicide & Suicide)
1.3 การทำร้ายร่างกายหรือการทะเลาะวิวาทที่รุนแรงภายในโรงพยาบาล
1.4 ภาวะแทรกซ้อนทางการรักษาพยาบาลที่รุนแรงมาก (Severe Iatrogenic Disorder)
1.5 เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสียชื่อเสียงหรือฟ้องร้อง เช่น การมีปัญหากับผู้ใช้บริการหรือถูกขู่ว่าจะฟ้องร้อง วางระเบิด หรือก่อวินาศกรรม
1.6 เหตุร้ายแรงอื่น ๆที่ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 20,000
บาทขึ้นไป
1.7 อุบัติการณ์ทางคลินิกตั้งแต่ระดับ E-I ตามรายละเอียดดังนี้
วิธีการรายงาน อุบัติการณ์ในระดับรุนแรงมาก (ระดับที่ 3)
1. รายงานเหตุการณ์ร้ายแรงทันที กรณีข้อ 3.1 – 3.6 ตาม FLOW ที่3
2. เขียน IR ในข้อ 3.7 และเขียนเหตุการณ์ที่โทรรายงานทันทีตาม FLOW 3 หลังเหตุการณ์
สงบ แล้วลงใบIR
3. ส่ง IR ในวันรุ่งขึ้นหรือภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์
วิธีการบริหารจัดการอุบัติการณ์ระดับ 3 ของหน่วยงาน
1. เหตุการณ์ร้ายแรงรายงานทันทีและผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม Risk Flow ที่ 3
2. หน่วยงานที่ประสบเหตุและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการดังนี้
2.1 เข้าร่วม RCA
2.2 รับทราบแนวปฏิบัติที่ได้จากการ RCA และนำไปดำเนินการในหน่วยงานของตน
2.3 สรุปจำนวนและแนวทางปฏิบัติ ส่งศูนย์ Q&S รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติเสนอผู้บริหารทุกเดือน