FAST
FAST [ The Focused Assessment with Sonography in Trauma]
EFAST [The Extended FAST for Pneumothorax ]FAST+หา pneumothoraxอย่างรวดเร็วด้วย
คือ การทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องในผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุ
วัตถุประสงค์ หาของเหลวในตำแหน่งที่ไม่ควรพบ ได้แก่ ช่องท้อง ในเยื่อหุ้มหัวใจ และในช่องปอด
การวางหัว Probeให้วางดูทั้งหมด 4 ตำแหน่ง
ข้อบ่งชี้
1.Acute blunt or penetrating torso trauma
2.Trauma in pregnancy
3.Pediatric trauma
4.Subacute torso trauma อุบัติเหตุบาดเจ็บบริเวณลำตัวที่เกิดขึ้นนานเกิน 24 ชั่วโมง
5.Undifferentiated hypotensionหาสาเหตุไม่พบ
ภาวะเดียวที่ไม่ควรทำการตรวจ FAST คือ การตรวจอาจทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสหรือล่าช้าในการเข้ารับการผ่าตัด
ข้อดี แม่นยำ เร็ว ประหยัด ปลอดภัย
ข้อเสีย ขึ้นกับความสามารถผู้ตรวจ ตรวจยากใน คนอ้วน มีลมมาก ผู้ป่วยมี ascites หรือมี subcutaneous emphysema ไม่สามารถประเมินการบาดเจ็บกระบังลม ลำไส้ หรือ retroperitoneum ได้ดีนัก
ปริมาณของเหลวที่สามารถตรวจพบได้ 200-650 ml (เทียบกับ CT 100-250ml,DPL 20 ml)
เทคนิคการตรวจ
1.หัว probe 3.5 Mz ดู 4 ตำแหน่ง วางหัว marker point ของ probe ไปทางศีรษะและให้อยู่ด้านขวาเสมอ
1.1 RUQ viewข้างลำตัวใต้ชายโครงขวา: ดูของเหลวระหว่างตับและไต
-hepatorenal space(Morison’s pouch) ซึ่งท่านอนหงายในตำแหน่งนี้จะอยู่ต่ำที่สุด ดูว่ามีน้อยปานกลางหรือมาก
-rt supramesocolic space
1.2 LUQ viewข้างลำตัวใต้ชายโครงซ้าย : ดูของเหลวระหว่างม้ามและไต กระบังลม-ปอดด้วย
-Splenorenal space
-ระหว่างกระบังลมปอดกับม้าม
ตรวจดู pleural effusion โดยดูของเหลวเหนือกระบังลม ความไว 96% จำเพาะ 100%
สามารถแยกได้ว่าเป็นน้ำหรือpleural thickeningหรือ lung contusion ได้
1.3 Suprapubic view
-suprapubic view ดูของเหลวใน Cul-de-sac และการตั้งครรภ์มดลูกได้
ข้อจำกัด คือ ต้องมีปัสสาวะอยู่เต็มกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้เกิด acoustic window หากกระเพาะปัสสาวะทะลุจะตรวจได้ไม่ชัดเจน
1.4 Subxiphoid viewประเมินหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจด้วย แต่จะตรวจยากหากผู้ป่วยอ้วน กระเพาะอาหารขยายมาก หรือมี peritonitis
วืธีรายละเอียด ขั้นตอน ทั้งภาพและyoutube
FAST: http://www.fpnotebook.com/ER/Rad/FstExm.htm
http://www.fpnotebook.com/Lung/Rad/LngUltrsnd.htm
EFAST = FAST+หา pneumothoraxอย่างรวดเร็วด้วย
1.ตรวจปกติคือ ไม่พบ sliding sign และ comet tail artifacts ตามแนวของเยื่อหุ้มปอด(ไว80-98% จำเพาะ91-99%)
2.M-mode พบ stratosphere sign(มีลมรั่ว) ปอดปกติจะพบเป็น เส้นขนานเหนือแนวเยื่อหุ้มปอดและต่ำกว่าเยื้อหุ้มปอดคือเนื้อปอด เรียก seashore sign(ปอดปกติ)
3.ตรวจด้วย color power Doppler(CPD) ปอดปกติพบ สีเพิ่มขึ้นมาที่แนวเยื่อหุ้มปอด มีการเคลื่อนตามการหายใจ เรียก power slide
4.ขนาดของปอดรั่ว สามารถระบุได้โดยตำแหน่งที่เปลี่ยนไป เรียก the lung point (ไว66% จำเพาะ100%)
การตรวจในแต่ละภาวะ
1.Blunt injuryแบบเฉียบพลันที่ท้องหรือลำตัว
การตรวจพบของเหลวในช่องท้อง สาเหตุบอกถึงการบาดเจ็บของอวัยวะภายในได้ดี sen 70-90% spec95-100%
แต่ส่วน retroperitoneum นั้นจะตรวจพบยากและมีความไวต่ำกว่า
ปัจจุบันทำ DPL เฉพาะเมื่อไม่มีอัลตร้าซาวด์เท่านั้น ส่วน CT ควรทำเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมี vital sign ปกติ
กรณี FAST positive: ผ่าตัด หรือ ตรวจเพิ่มโดย abdominal CT ขึ้นอยู่กับอาการ
กรณี FAST negative ร่วมกับผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง ตรวจร่างกายผิดปกติ : ควรทำ CT หรือ สังเกตอาการร่วมกับการทำ serial FAST
2.Penetrating injury : แบบเฉียบพลันที่ท้องหรือลำตัว
การตรวจจะมีความไวเมื่อถูกแทงด้านหน้าอกหรือหน้าท้อง ส่วนด้านหลังจะตรวจยากไวต่ำ
3.Solid organ injury
การตรวจมีความไวไม่มากนัก 41%
การฉีดสารทึบแสงก่อนทำจะช่วยในการตรวจมากขึ้น
ใช้หัว probe 7.5MHz linear array probe จะตรวจพบง่ายขึ้น
การตรวจด้วย CT มีความไวกว่า FAST มากและบอกขอบเขตการเสียหายได้
การอัลตร้าซาวด์ ต้องดู รูปร่างลักษณะของอวัยวะนั้นด้วย : echogenicity, intraparenchymal หรือ subcapsular hemorrhages , crescent shaped hypoechoic stripe
4.อุบัติเหตุในหญิงตั้งครรภ์ มีหลักสำคัญดังนี้
การตรวจ FAST ในหญิงตั้งครรภ์จะต้องคำนึงถึงว่าอวัยวะภายในช่องท้องจะเปลี่ยนตำแหน่งไปจากปรกติ เนื่องจากมดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
การตรวจพบของเหลวผิดปรกติในช่องท้องอาจเป็นของเหลวที่มาได้ทั้งจากอวัยวะภายในช่องท้องของมารดาฉีกขาด มีเลือดออก หรือเป็นน้ำคร่ำจากมดลูกฉีกขาด หรือทั้งสองอย่างก็เป็นได้
ต้องประเมินการมีชีวิตของทารกในครรภ์และอายุครรภ์คร่าว ๆ
อัตราการตายของทารกจะเพิ่มสูงขึ้นในมารดาที่มีภาวะช็อก
หากตรวจ FAST แล้วไม่พบความผิดปรกติใด ๆ ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าไม่มีการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับทารกและส่วนของการตั้งครรภ์ (cannot rule out fetoplacental injury)
5.อุบัติเหตุในเด็ก
ความไว 40-93% ความจำเพาะ 79-100% จะน้อยกว่าผู้ใหญ่ การอัลตราซาวนด์เป็นแค่การตรวจคัดกรอง (screening tool) เนื่องจากในเด็กจำนวนมากที่มีการบาดเจ็บของอวัยวะในช่องท้อง แต่ไม่มีของเหลวผิดปรกติในช่องท้อง
ควรทำ CT ในกรณี ตรวจ FAST พบผิดปรกติ (positive FAST) หรือ ตรวจร่างกายมีหลักฐานของการบาดเจ็บในช่องท้อง มีร่องรอยช้ำหรือเลือดออกบริเวณลำตัว มีความดันเลือดต่ำหรืออาการทางระบบประสาทบกพร่องไปจากเดิม
6. อุบัติเหตุบาดเจ็บบริเวณลำตัวที่เกิดขึ้นนานเกิน 24 ชั่วโมง (Subacute torso trauma)
มักจะมาที่ ER ด้วยอาการเจ็บหน้าอกหรือปวดท้อง ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยคือ hemothorax, hemoperitoneum or subcapsular organ hemorrhage
การดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ
-ถ้าคิดถึงการบาดเจ็บของอวัยวะในช่องท้องก็ควรส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ไปเลย
-แต่ถ้าคิดถึงน้อยก็อาจเลือกทำการตรวจ FAST หรืออัลตราซาวนด์ เพื่อยืนยันว่าไม่มีความผิดปรกติในท้องได้
7.ภาวะความดันเลือดต่ำที่ยังหาสาเหตุไม่พบ (Undifferentiated Shock)
BP ต่ำหรือเป็นลม หลังได้รับอุบัติเหตุมาก่อนที่จะมีอาการ
ควรดูแลผู้ป่วยแบบกลุ่มผู้ป่วยช็อกที่เกิดจากการเสียเลือด จนกว่าจะพิสูจน์หาสาเหตุอื่นได้
อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและรักษาตรงสาเหตุ
การตรวจ FAST จึงเป็นการตรวจวิธีหนึ่งที่เหมาะสม และควรตรวจประเมินการทำงานของหัวใจ (qualitative cardiac assessment: estimate LVEF, cardiac wall motion) ตรวจหาลักษณะของ ruptured Aortic aneurysm) และตรวจ degree of IVC collapse with inspiration เพื่อประเมิน intravascular volume status
http://www.medicthai.net/detail.php?idDetail=5095&tableName=news
http://www.medicthai.net/admin/news_detail.php?id=5124