ชื่อวิทยาศาสตร์ Holarrhena pubescens Wall. ex G.Don
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE
ชื่อทั่วไป ยางพุด มูกขาว (เลย), พุด (กาญจนบุรี), พุทธรักษา (เพชรบุรี), มูกมันน้อย มูกมันหลวง มูกหลวง โมกเขา โมกทุ่ง (ภาคเหนือ), โมกใหญ่ (ภาคกลาง), หนามเนื้อ (เงี้ยว-ภาคเหนือ), ซอทึ พอแก พ้อแก ส่าตึ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เป็นต้น
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ต้นโมกหลวง จัดเป็นไม้พุ่มผลัดใบหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 3-15 เมตร ลำต้นกลม เปลือกต้นชั้นนอกเป็นสีเทาอ่อนถึงสีน้ำตาล หลุดลอกออกเป็นแผ่นกลม ๆ ขนาดไม่เท่ากัน ส่วนเปลือกชั้นในเป็นสีซีด ทุกส่วนของต้นมียางสีขาวข้น ใบอ่อนจะมีขนปกคลุมมาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะ เมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ทนต่อแสงแดดได้ดี พบได้ตามป่าเต็งรังทั่วไป ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณมีเขต การกระจายพันธุ์จากแอฟริกาถึงอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ใบโมกหลวง ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงเป็นคู่ตรงข้ามสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปรี รูปไข่ รูปไข่แกมรูปขอบ ขนาน หรือรูปใบหอกกลับ ปลายใบเรียวแหลมหรือมน โคนใบแหลมหรือป้าน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้าง ประมาณ 4-12 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-27 เซนติเมตร แผ่นใบมีขน ใบแก่บาง มีเส้นใบข้างประมาณ 10-16 คู่ ส่วนเส้นกลางใบและเส้นใบมองเห็นได้ชัดเจน โดยเส้นใบจะเป็นสีเหลือง ไม่มีต่อม ผิวใบด้านบนมีขนนุ่ม ส่วน ด้านล่างมีขนหนาแน่นกว่า ส่วนก้านใบยาวประมาณ 0.2-0.6 เซนติเมตร ใบร่วงได้ง่าย
ดอกโมกหลวง ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุก โดยจะออกใกล้กับปลายกิ่ง ในแต่ละช่อจะมีดอกหลายดอก ช่อดอกห้อยลง ช่อดอกยาวประมาณ 4-1 เซนติเมตร ดอกมีขนาดประมาณ 2.5-3.5 เซนติเมตร ดอกเป็นสีขาว หรือสีเหลืองอ่อน บางครั้งอาจมีแต้มสีชมพู ดอกมีกลิ่นหอม ก้านช่อยาวประมาณ 0.6-1.7 เซนติเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อมกัน เวียนซ้าย ผิวด้านนอกมีขนสีขาว โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ยาวประมาณ 9-11.5 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 ก้านเชื่อมกับหลอดกลีบดอก ก้านชูเกสรสั้นและมีขนอยู่ที่ฐาน อับเรณูแคบ แหลม ส่วนเกสรเพศเมีย มีรังไข่เหนือวงกลีบ มี 2 ห้อง แยกจากกัน ยอดเกสรเชื่อมกัน ก้านเกสรเพศเมียยาว ประมาณ 1.8-2.5 เซนติเมตร ไม่มีหมอนรองดอก ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตร มี ลักษณะแคบและแหลม มีต่อมประปราย ที่โคนเชื่อมกันเล็กน้อย ปลายแยก และมีขนสีขาว โดยจะออกดอกใน ช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมหรือออกดอกพร้อมกับติดผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน
ผลโมกหลวง ออกผลเป็นฝัก ห้อยลงเป็นคู่โค้ง ฝักเป็นฝักแห้ง ลักษณะของฝักเป็นรูปทรงกระบอกแคบ ปลายฝัก แหลม โคนฝักแบน ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 0.3-0.8 เซนติเมตร ยาวประมาณ 18-43 เซนติเมตร เมื่อฝักแก่เต็ม ที่จะแตกตามยาวเป็นตะเข็บเดียวอ้าออกเป็น 2 ซีก ภายในฝักมีเมล็ดเรียงกันเป็นแถวอยู่เป็นจำนวนมาก ลักษณะ ของเมล็ดแบน เป็นสีน้ำตาล ขนาดประมาณ 1.3-1.7 เซนติเมตร เกลี้ยง แต่มีแผงขนยาวเป็น 2 เท่าของเมล็ด มีขนสีขาวเป็นพู่ติดอยู่ แผงขนจะชี้ไปทางยอดของฝัก โดยขนสีขาวที่ติดอยู่สามารถลอยไปตามลมได้
สรรพคุณ
รากมีรสร้อน ช่วยขับโลหิต ขับโลหิตประจำเดือนของสตรี แก้โลหิตอันร้ายให้ตก (ราก) ส่วนผลก็ช่วยขับโลหิต
ใบมีรสฝาดเมา ช่วยขับน้ำนมของสตรี (ใบ)
แหล่งอ้างอิง