ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphineurion marginatum (Roxb.) D.J.Middleton
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่อทั่วไป : เครือไส้ตัน (นครราชสีมา หนองคาย) เดื่อเครือ เดื่อดิน เดื่อเถา เดื่อไม้ โมกเครือ (ภาคเหนือ) เดือยดิน (ประจวบคีรีขันธ์) เดือยดิบ (กระบี่) มะเดื่อดิน (ทั่วไป) มะเดื่อเถา (ราชบุรี ภาคเหนือ) ย่านเดือยบิด (สุราษฎร์ธานี) พิษ (ภาคกลาง) ย่านเดือยบิด ไส้ตัน
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ :
ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้น สูง 5-12 เมตร แตกกิ่งก้านน้อย เลื้อยพันต้นไม้อื่น ไม่มีมือเกาะ เถาอ่อนสีน้ำตาลแดง เถาแก่สีเทา ตามลำต้นมีช่องอากาศกระจายทั่วไป ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาวขุ่น
ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 6.5-8.5 เซนติเมตร ก้านใบเรียวเล็ก ยาว 2.5 มิลลิเมตร เส้นใบชัดเจน เชื่อมปิดที่ขอบใบ ใบรูปขอบขนาน หรือรูปรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเป็นคลื่น เส้นใบ 7-15 คู่ เส้นขอบในนูนเด่นชัด ก้านใบยาว 0.4-1.1 ซม. เกลี้ยง ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง แผ่นใบเป็นคลื่น สีเขียวเข้มเป็นมันวาว ด้านหลังใบเกลี้ยงหรือมีขนประปราย ด้านท้องใบมีขนสั้นๆ ใบแก่เกลี้ยงสีเขียวเข้มเป็นมัน
ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายกิ่ง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายกลีบแยก ดอกย่อยสีขาวเกลี้ยง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 เซนติเมตร มีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงเวียนกัน ดอกตูมกลีบออกบิดไปทางเดียวกัน กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ รูปรีแกมรูปหอก สีเขียวอ่อน โคนเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้มี 5 อัน ก้านเกสรติดกับอับเรณู ด้านฐาน บริเวณโคนก้านมีกระจุกขน เกสรเพศเมียมีรังไข่เหนือวงกลีบ มี 2 ห้อง แยกกัน
ผลเป็นฝักคู่ เรียวยาว ทรงกลม ปลายแหลม กว้าง 0.5-1.2 ซม. ยาว 30-50 เซนติเมตร เกลี้ยงเมื่อแห้งแตกตา ยาวตะเข็บเดียว เมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาล แต่ละผลมี 35-62 เมล็ด เมล็ดรูปขอบขนาน กว้าง 0.7-1.2 ซม. ยาว 1.6-4.7 ซม. มีขนสีขาวเป็นพู่ติดอยู่ที่ปลายเมล็ด ยาว 2.2-5.3 ซม. ปลิวตามลม ออกดอกเดือนมีนาคมถึง เมษายน ติดผลเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พบตามป่าผลัดใบ ป่าเต็งรัง ชายป่าดงดิบและป่าดิบแล้ง ริมสระน้ำ หนองบึง ความสูงใกล้ระดับน้ำทะเลจนถึง 800 เมตร
สรรพคุณ :
เถา มีรสเฝื่อนฝาด ใช้ทาฝี แก้เมื่อยขบ แก้ผดผื่นคัน นำมาผสมกับผลมะตูมอ่อน เถาสิงโต และว่านมหากาฬ ต้มน้ำดื่มรักษาโรคเบาหวาน เข้ายารักษาประดงแก้พิษภายใน ราก ต้มดื่มแก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไต และตับพิการ บำรุงกำลังตอนฟื้นไข้ ช่วยเจริญอาหาร เป็นยาระบาย ขับระดู
ยอด ใช้แก้ท้องเสีย
ใบ แก้เมื่อยขบ เข้ายาทารักษาฝี และริดสีดวงทวาร
แหล่งอ้างอิง:
http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=269%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/