ชื่อวิทยาศาสตร์ Crateva magna (Lour.) DC.
ชื่อวงศ์ CAPPARACEAE
ชื่อทั่วไป กุ่ม (เลย) อำเภอ (สุพรรณบุรี) ผักกุ่ม ก่าม(ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ 1.ไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 20 เมตร
2.เปลือกลำต้นค่อนข้างเรียบ สีเทา จะผลัดใบร่วงหมดทั้งต้นเมื่อจะออกดอก
3.ใบ ประกอบแบบนิ้วมือ ใบย่อย 3 ใบ รูปวงรีหรือรูปไข่ ออกเรียงสลับ กว้าง 2.5-7 เซนติเมตร ยาว 5.5-16 เซนติเมตร ปลายกว้างแหลม โคนสอบแคบ ขอบใบเรียบ ผิวใบบางและนิ่ม หลังใบสีเขียวเป็นมัน ท้องใบมีขนอ่อนสีเทา เส้นกลางใบอมแดง ปลายก้านใบมีต่อมน้ำตาลขนาด 1 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 นิ้ว ยาว 2-9 นิ้ว ใบที่อยู่ด้านข้างโคนจะเบี้ยวเล็กน้อย หลังใบ และท้อง ใบเรียบ
4.ดอก ช่อออกที่ปลายกิ่ง และซอกใบ ยาว 4-6 นิ้ว ติดดอก 20-60 ดอก กลีบดอกเมื่อแรกบานสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน กลีบรองดอกรูปไข่ปลายแหลม กลีบดอกกลมยาว 2-3 เซนติเมตร สีขาว มี 4 กลีบ กลีบล่างและกลีบบนอย่างละ 2 กลีบ
แต่กลีบบนจะใหญ่กว่า เกสรตัวผู้มีก้านสีม่วงหรือสีชมพู ยาวยื่น 13-25 อัน
5.ผลสด รูปร่างค่อนข้างกลมรี เปลือกหนา ผลอ่อนผิวมีสะเก็ดสีเหลืองอมเทา เมื่อสุกสีเทา ผลแก่ผิวเรียบยาว 5-8 เซนติเมตร เมล็ดรูปเกือกม้า ยาว 6-9 มิลลิเมตร มีหลายเมล็ด พบตามข้างลำธาร ริมแม่น้ำ ที่ชื้นแฉะ ในป่าเบญจพรรณ ออกดอกราวเดือน กุมภาพันธ์ ถึงมิถุนายน ยอดอ่อนใช้ปรุงอาหารได้ แต่ต้องนำมาดองน้ำเกลือตากแดด ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วจึงนำไปปรุง อาหาร โดยผัดหรือแกงได้
สรรพคุณ เปลือกต้น รสขมหอม ขับน้ำดี ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
แก่น รสร้อน แก้นิ่ว
แหล่งอ้างอิง http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=15