ชื่อวิทยาศาสตร์ Muehlenbeckia platyclada (F.v.Muell.) Meissen.
ชื่อวงศ์ POLYGONACEAE
ชื่อทั่วไป เพว, เฟอ, ว่านตะขาบ, ว่านตะเข็บ, ตะขาบบิน, ตีนตะขาบ, ตะขาบปีนกล้วย
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
-ตะขาบหิน เป็นไม้พุ่มลำต้นตั้งตรง สูง 1-2 เมตร ลำต้นแบน เป็นข้อๆ สีเขียว ตั้งตรง แตกกิ่งก้านมาก ต้นแก่โคนต้นเป็นสีน้ำตาล ต้นอ่อนสีเขียว แบนเรียบ กว้างราวครึ่งนิ้ว เป็นปล้องๆ พอลำต้นแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และกลมขึ้น
-ใบตะขาบหิน เป็นใบเดี่ยว มีขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายลำต้น มีใบน้อย หรือไม่มีเลย ใบเรียงสลับ ร่วงง่าย รูปใบหอกแกมเส้นตรงกว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ยาว 2-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ หลังใบ และท้องใบเรียบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบอ่อนนิ่มไม่มีก้านใบ
-ดอกตะขาบหิน ออกเป็นช่อสั้นๆ ออกเป็นกระจุกเล็กๆ ที่บริเวณข้อ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่คนละต้นกัน ดอกย่อยมีขนาดเล็กมาก กลีบรวมสีขาวแกมเขียว มี 5 กลีบ รูปไข่ ก้านดอกสั้น โคนกลีบดอกติดกัน ก้านชูดอกสั้นมาก เกสรตัวผู้ 7-8 อัน
-ผลตะขาบหิน ผลสด มีเนื้อ ฉ่ำน้ำ รูปค่อนข้างกลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกสีแดง มีรสหวาน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เมล็ดเดี่ยว สีเหลือง เป็นสัน 3 สัน
สรรพคุณ
ทั้งต้น มีรสหวานสุขุม ใช้ภายนอกระงับปวด แก้โรคผิวหนังเจ็บ ผื่นคัน น้ำเหลืองเสีย งูสวัด ฝีตะมอย
ต้นและใบสด ตำผสมเหล้า พอกหรือคั้นน้ำทา ถอนพิษแมงป่องและตะขาบ แก้ฟกบวม
แหล่งอ้างอิง http://www.samunpri.com/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99/