ชื่อวิทยาศาสตร์ Basella alba L.
ชื่อวงศ์ BASELLACEAE
ชื่อทั่วไป ผักปลังใหญ่ (ภาคกลาง), ผักปั๋ง (ภาคเหนือ) ,ผักปลังขาว ผักปลังแดง
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ ไม้เถาเลื้อยล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ เกลี้ยง กลม แตกกิ่งก้านสาขา ยาวประมาณ 2-6 เมตร ถ้าลำต้นมีสีเขียว เรียกว่า
“ผักปลังขาว” มีใบสีเขียวเข้ม ส่วนชนิดลำต้นสีม่วงแดง เรียกว่า “ผักปลังแดง” มีใบสีเขียวเข้ม ก้านใบสีม่วงแดง
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปไข่ หรือรูปหัวใจใบกว้าง 2-8 เซนติเมตร ยาว 2.5-12 เซนติเมตร ใบอวบน้ำ มีลักษณะ
เป็นมันหนานุ่มมือ ฉีกขาดง่าย หลังใบและท้องใบเกลี้ยงไม่มีขน ขยี้จะเป็นเมือกเหนียว ปลายใบแหลม โคนใบรูปหัวใจ
ขอบใบเรียบ ก้านใบยาว 1-3 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกช่อเชิงลด ออกตรงซอกใบ ยาว 3-21 เซนติเมตร ดอกย่อยจำนวนมาก
ขนาดเล็ก ไม่มีก้านชูดอก แต่ละดอกมี 5 กลีบ ผักปลังขาวออกดอกสีขาว ผักปลังแดงออกดอกสีม่วงแดง ยาวประมาณ
4 มิลลิเมตร มีใบประดับเล็ก 2 ใบ ติดที่โคนของกลีบรวม กลีบรวมรูประฆัง ยาว 0.1-3 มิลลิเมตร โคนเชื่อมติดกันเป็นท่อ ปลายแยกเป็นห้าแฉกเล็กน้อย เกสรเพศผู้มีจำนวน 5 อัน ติดที่ฐานของกลีบดอก อับเรณูรูปกลม ยาว 0.1-0.5 มิลลิเมตร
ติดก้านชูเกสรที่ด้านหลัง ก้านชูเกสรเพศผู้ เป็นแท่งยาว 0.1-1 มิลลิเมตร เกสรเพศเมีย 1 อัน กลม ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 3 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปแท่งปลายแหลม ยาว 0.1-0.5 มิลลิเมตร รังไข่ 1 ช่อง รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปค่อนข้างรี
ยาว 0.1-0.5 มิลลิเมตร ก้านชูเกสรเพศเมีย ยาว 0.1-0.5 มิลลิเมตร ผลเป็นผลสด รูปร่างกลมแป้น ฉ่ำน้ำ เส้นผ่านศูนย์กลาง
5-6 มม. ผิวเรียบ ปลายผลมีร่องแบ่งเป็นลอน ไม่มีก้านผล ผลอ่อนสีเขียว
ผลแก่มีสีม่วงอมดำ เนื้อภายในนิ่ม ภายในผลมีน้ำสีม่วงดำ เมล็ดเดี่ยว มีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกา และมีการกระจายพันธุ์ใน ทวีปเอเชีย เข่น จีน ญี่ปุ่น และไทย พบตามป่าทุ่ง ตามที่ชุ่มชื้นทั่วไป นิยมปลูกเป็นผักริมรั้ว ออกยอดตลอดปี
สรรพคุณ ทั้งต้น รสเย็น ต้มดื่มแก้ขัดเบา
ใบ มีรสหวานเอียน ขับปัสสาวะ แก้บิด แก้อักเสบ แก้โรคกระเพาะอักเสบ
ราก ขับปัสสาวะ
แหล่งอ้างอิง http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=238