ชื่อวิทยาศาสตร์ Allium sativum L.
ชื่อวงศ์ ALLIACEAE
ชื่อทั่วไป เทียม, หัวเทียม (ภาคใต้) หอมเทียม (ภาคเหนือ) กะติมซอ (สุรินทร์) กระเทียมขาว หอมขาว (อุดรธานี)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ต้น กระเทียมเป็นพืชผักสวนครัว สูง 30-50 ชม. มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่าเป็นส่วนหัวกลมป้อม หัวกระเทียมจะมีหลายกลีบติดกันแน่น มีเปลือกนอก เป็นแผ่นบางสีขาวหลายแผ่นซ้อนกัน ซึ่งเป็นส่วนของโคนใบกลีบเนื้อมีสีขาวและมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ถ้าหัวกระเทียมมีอันเดียวเรียก ว่ากระเทียม โทนซึ่งนิยมนำมาดองขาย
ใบ ใบสีเขียวยาวแบนแคบและกลวง ปลายใบแหลม เรียงซ้อนกัน ด้านล่างมีรอยพับเป็นสันตลอดความยาวของใบ
ดอก ออกดอกชนิดรวมเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายก้านช่อที่ชูอยู่สูง ดอกมีสีขาวอมเหลืองหรือบางสายพันธุ์มีสีชมพูอมม่วง
ผล ออกผลขนาดเล็กมี 3 พู
สรรพคุณ การใช้รักษาอาการท้องอืด แน่นจุกเสียด
นำกระเทียม 5-7 กลีบ บดให้ละเอียด เติมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ เกลือและน้ำตาลนิดหน่อย ผสมให้เข้ากัน กรองเอาน้ำดื่ม
นำกระเทียมปอกเปลือก นำเฉพาะเนื้อใน 5 กลีบ ซอยให้ละเอียด กินกับน้ำหลังอาหารทุกมื้อ แก้ปวดท้องอาหารไม่ย่อย เพราะมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร
การใช้รักษากลากเกลื้อน
นำกระเทียมมาขูดให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือบดให้แหลก พอกที่ผิวหนัง แล้วปิดด้วยผ้าพันแผลไว้นานอย่างน้อย 20 นาที จึงแก้ออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ทำซ้ำเช้าเย็นเป็นประจำทุกวัน
นำใบมีดมาขูดผิวหนังส่วนที่เป็นกลากเกลื้อนให้พอเลือดซึม แล้วใช้กระเทียมทาลงไป ทำเช่นนี้ทุกวัน 10 วันก็จะหาย สารอัลลิซินเป็นสารออกฤทธิ์ทำลายเชื้อกลากเกลื้อน สารนี้สลายตัวง่ายเมื่อถูกความร้อน ความชื้น การใช้กระเทียมเก่าที่เก็บไว้นานจะมีสารอัลลิซินเหลืออยู่น้อย
การใช้ลดความดันโลหิต
กินกระเทียมสดครั้งละ 5 กรัม วันละ 3 เวลาพร้อมหรือหลังอาหาร ช่วยลดไขมันในเลือดและส่งผลช่วยลดความดันโลหิต จากการทดลองในคนโดยให้กินกระเทียมในปริมาณดังกล่าว นาน 1 เดือน พบว่าระดับคลอเลสเตอรอลลดลง
หากไม่ชอบกินสดๆ ให้กินกระเทียมผงอัดเม็ดหรือน้ำมันกระเทียมในแคปซูลครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
การใช้ลดน้ำตาลในเลือด
กินกระเทียมสดครั้งละ 5 กรัม วันละ 3 เวลาพร้อมหรือหลังอาหาร โดยมีสารอัลลิซิน (allicin) ที่ไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดลดลง
หากไม่ชอบกระเทียมสด ให้กินกระเทียมผงอัดเม็ดหรือน้ำมันกระเทียมในแคปซูล ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร กระเทียมผงอัดเม็ดหรือน้ำมันกระเทียมในแคปซูลจะไปแตกตัวในลำไส้ ทำให้รอดพ้นจากการถูกทำลายโดยเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร
แหล่งอ้างอิง
https://medthai.com/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1/