ชื่อวิทยาศาสตร์ Cladogynos orientalis Zipp. ex Span.
ชื่อวงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่อทั่วไป ตองตาพราน, สมี, มนเขา, ตะเกีย, เปล้าเงิน, หนาดตะกั่ว, ใบหลังขาว, เปล้าน้ำเงิน, พังคี, พังคีใหญ่, ปานดง, ปานดงเหลือง, เป้าเงิน, สมีหนาดตะกั่ว
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
เจตพังคี เป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 2 เมตร กิ่งก้านมีขนเป็นรูปดาวสีขาว เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลขรุขระ ทุก ส่วนมีขน ส่วนรากมีลักษณะเรียวยาว เปลือกหุ้มรากเป็นเยื่อบางสีเหลืองเข้ม
ใบเจตพังคี เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ หรือรูปวงรี มีความกว้างประมาณ 3-8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน หรือเป็นรูปทรงกลมแคบ ส่วนขอบใบหยักและไม่สม่ำเสมอ แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม ใบหนา ด้านบนของใบเกลี้ยง ส่วนแผ่นใบด้านล่างมีขนสีขาวจำนวนมาก ทำให้มองเห็นแผ่นใบ เป็นสีขาวหรือสีเงิน มีเส้นใบข้างละประมาณ 4-5 คู่ ส่วนหูใบเป็นรูปใบหอก
ดอกเจตพังคี เป็นแบบแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ในแต่ละช่อดอกจะมีดอกตัวผู้ 1-2 ดอก และดอกตัวเมีย 1 ดอก โดยดอก ตัวผู้จะมีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ขนาดประมาณ 1.5-2 มิลลิเมตร มีขนขึ้นนุ่มเป็นรูปดาว มีเกสตัวผู้สีเหลือง
ผลเจตพังคี ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ผลแห้งไม่แตก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 มิลลิเมตร
ผลแบ่งออกเป็น 3 พู ผิวของผลทั้งผลเป็นลายเส้นสีขาว และมีขนนุ่มสีขาว ในผลมีเมล็ดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร
สรรพคุณ เปลือก ช่วยรักษาผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน
แหล่งอ้างอิง https://medthai.com/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B5/