ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum camphora (L.) J.Presl.
ชื่อวงศ์ : LAURACEAE
ชื่อทั่วไป : การะบูน การบูร (ภาคกลาง), อบเชยญวน (ไทย), พรมเส็ง (เงี้ยว), เจียโล่ (จีนแต้จิ๋ว), จางมู่ จางหน่าว (จีนกลาง)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ :
ไม้ต้น สูงประมาณ 20-25 เมตร กิ่งอ่อนมีขนสั้น ๆ ปกคลุมเนื้อไม้แข็งแรง กิ่งแขนงแตกเป็นพุ่ม เปลือกหนาผิวเรียบมันเกลี้ยง เปลือกอ่อนจะเป็นสีแดงอมม่วงเมื่อเปลือกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเกือบดำ
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม ลักษณะในรูปไข่หรือขอบขนานแกมรูปไข่กว้าง ปลายใบมน โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ มีเส้นใบตามยาว 3 เส้น เส้นข้าง 2 เส้น เส้นใบย่อยสานกันเป็นตาข่ายเห็นได้ชัดทั้ง 2 ด้าน ด้านล่างมีคราบขาวเล็กน้อย ก้านใบยาว ด้านบนเป็นร่อง เกลี้ยง ใบผิวมันเรียบและเป็นสีเขียวสดตลอดทั้งปี ใบอ่อนจะอมเหลือง
ดอก ออกตามง่ามใบและที่ปลายกิ่งเป็นช่อแบบกระจาย ก้านช่อดอกมีขนเป็นมันปกคลุม ก้านดอกย่อยยาว มีขน ดอกตูมรูปไข่กลับกลีบรวม 6 กลีบ ด้านนอกมีขนหนาแน่น ด้านในมีขนเป็นมัน มีสีขาวอมเขียวหรือสีเหลือง ดอกมีขนาดเล็ก ออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
ผล เป็นผลขนาดเล็ก ลักษณะรูปรี มีกลีบรวมติดอยู่ กลีบรวมยาวมีสันนูน 12 สัน ระหว่างสันเป็นร่อง ภายในผลจะมี 1 เมล็ด
สรรพคุณ : ใช้เป็นยาระงับประสาท
แหล่งอ้างอิง : https://medthai.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3/
การบูร
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum camphora (L.) J.Presl.
ชื่อวงศ์ : LAURACEAE
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ (characteristics of botanical science)
Cinnamomum camphora (commonly known as camphor tree, camphorwood or camphor laurel) is a large evergreen tree that grows up to 20–30 m (66–98 ft) tall.[1] The leaves have a glossy, waxy appearance and smell of camphor when crushed. In spring, it produces bright green foliage with masses of small white flowers. It produces clusters of black, berry-like fruit around 1 cm (0.39 in) in diameter. Its pale barkis very rough and fissured vertically.
สรรพคุณ (Properties):
The bark and the leaves are pounded and applied as a poultice against rheumatism.
The leaves are heated and applied to treat earache.