ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria cristata L.
ชื่อวงศ์ ACANTHACEAE
ชื่อทั่วไป ก้านชั่ง คันชั่ง ลืมเฒ่าใหญ่ ทองระอา ทองระย้า อังกาบกานพลู อังกาบเมือง เป็นต้น
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ต้นอังกาบ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและจีน จัดเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก มีลำต้นเป็นข้อ
มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร กิ่งก้านและลำต้นจะมีขนสีเหลืองอ่อนโดยเฉพาะตามข้อ ไม่มี หนามเหมือนต้นอังกาบหนู เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือ
ดินร่วนปนทราย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำกิ่งและการใช้เมล็ด ในประเทศไทยนั้นสามารถ พบเห็นได้ทั่วไปตามหัวไร่ปลายนา ป่าละเมาะ หรือป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง รวมไปถึงป่าก่อ
ใบอังกาบ ลักษณะของใบคล้ายรูปหอก ปลายใบเรียวแหลมหรือยาว โคนใบเรียวสอบ ขอบใบ เรียบ แผ่นใบมีขนสั้นนุ่มกระจายอยู่ทั้งสองด้าน โดยเฉพาะตามเส้นใบ ใบมีความยาวประมาณ
3-12 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ใบออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ก้านใบสั้น
มียาวประมาณ 0.3-2 เซนติเมตร ใบตามกิ่งจะสั้นและมีขนาดเล็กกว่าตามลำต้น
ดอกอังกาบ ออกดอกเป็นช่อคล้ายช่อเชิงลดสั้น ๆ หรือเป็นกระจุกค่อนข้างแน่นที่ปลายยอด หรือบริเวณใกล้ปลายยอด ลักษณะของดอกอังกาบเป็นรูปทรงกลมหรือรูปแตร ดอกมีสีม่วง
ส่วนที่โคนช่อดอกจะมีใบประดับรูปขอบขนานยาวหรือรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.8-1.5 เซนติเมตร ขอบใบเว้า มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบเรียงซ้อนเหลื่อมกัน มีขนาดไม่เท่ากัน คู่นอกจะมี ขนาดใหญ่กว่า ลักษณะเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร
ขอบจักเป็นติ่งหนาม ปลายแหลมยาว ส่วนกลีบคู่มีลักษณะเป็นรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาว ประมาณ 6-7 มิลลิเมตร มีปลายแหลมยาว กลีบดอกคล้ายรูปปากเปิด หลอดกลีบยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ดอกอังกาบมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีม่วง สีชมพู หรือสีขาว กลีบบนมี 4 กลีบๆ ลักษณะเป็นรูปไข่กลับยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เรียงซ้อนเหลื่อมกันอยู่ ส่วนกลีบล่างจะแผ่ กว้างกว่ากลีบบนเล็กน้อย แต่มีความยาวเท่ากับกลีบบน มีเกสรตัวผู้ 4 ก้านติดอยู่ที่โคนกลีบดอก ยาว 2 อัน และสั้น 2 อัน เกสรอันยาวจะยื่นเลยปากหลอดกลีบมาเล็กน้อย ก้านเกสรจะมีขนหนา แน่นที่โคน ส่วนอับเรณูจะยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร โดยเกสรตัวผู้จะเป็นหมัน 1 ก้าน รังไข่เป็น รูปขอบขนานแกมรูปกรวยเกลี้ยง มีอยู่ 2 ช่อง แต่ละช่องจะมีออวุลอยู่ 2 เม็ด ส่วนก้านเกสร
ตัวเมีย จะมีลักษณะเรียวยาว มีความยาวได้ประมาณ 4 เซนติเมตร ยอดเกสรเรียบ โดยอังกาบ มักออกดอกช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
ผลอังกาบ หรือ ฝักอังกาบ ลักษณะเป็นฝักรูปยาวรี ปลายและโคนฝักแหลม ส่วนปลายฝักจะ กว้างกว่าส่วนโคนฝัก ในฝักอังกาบมีเมล็ด 4 เมล็ด เมล็ดแบนกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 4 มิลลิเมตร มีขนแบนราบ
สรรพคุณ
รากมีรสหวาน ใช้เป็นยาแก้ระดูขัด ฟอกโลหิตระดูของสตรี แก้ประจำเดือนคั่งค้างเป็นลิ่มเป็นก้อน ช่วยฟอกโลหิต แก้อาการปวดเมื่อยบั้นเอว แก้พิษงู พิษตะขาบและแมงป่องต่อย
ใบ ช่วยแก้อาการปวดฝี ช่วยถอนพิษร้อนอักเสบ
แหล่งอ้างอิง
https://medthai.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9A/