ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantifolia(Christm.) Swing.
ชื่อวงศ์ RUTACEAE
ชื่อทั่วไป มะนอเกละ, ปะนอเกล, มะเน้าด์เล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ปะโหน่งกลยาน (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ส้มมะนาว (ทั่วไป), หมากฟ้า (เงี้ยง-แม่ฮ่องสอน), โกรยชะม้า (เขมร-สุรินทร์), ลีมานีปีห์ (มลายู-ภาคใต้)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
-ต้นมะนาว เป็นพรรณไม้พุ่ม ยืนต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ .5-3.5 เมตร ผิวเปลือกลำต้นเรียบเกลี้ยง ส่วนกิ่งก้านอ่อนมีหนามยาวประมาณ 3-13มม.
-ใบมะนาว ใบออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ หรือรูปรียาว ปลายใบแหลม โคนใบกลมมีปีกแคบ ๆ ริมขอบใบหยัก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-5.5 ซม. ยาวประมาณ 2.5-9 ซม.
-ดอกมะนาว ดอกออกเป็นช่อสั้น ๆ มีประมาณ 5-7 ดอก หรืออาจเป็นดอกเดี่ยว ลักษณะของดอกมีสีขาว กลีบดอกมีประมาณ 4-5 กลีบ กลีบดอกเป็นรูปรียาว ปลายกลีบแหลม มีขนาดยาวประมาณ 7-12 มม. กว้างประมาณ 2.5-5 มม. ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมียเล็ก ๆ อยู่
-ผลมะนาว ผลมีลักษณะเป็นรูปกลม พื้นผิวเรียบเกลี้ยง ขนาดของผลมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 นิ้ว ผลอ่อนมีสีเขียวเข้ม เมื่อแก่ผลก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื้อในผลจะแยกออกเป็นซีก ภายในเนื้อก็จะมีเมล็ด ลักษณะกลมรี สีเหลืองอ่อนผลหนึ่งก็จะมีหลายเม็ด
สรรพคุณ ราก ใช้รากสด ประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้ฟกช้ำจากการถูกกระแทก หรือจากการหกล้มแก้ปวด
แหล่งอ้างอิง http://www.samunpri.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/