หัวข้อเรื่อง
ตัวแทนประกันชีวิตและตัวแทนประกันวินาศภัย
คุณสมบัติการเป็นตัวแทนประกันชีวิตและตัวแทนประกันวินาศภัย
จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันชีวิตและตัวแทนประกันวินาศภัย
กระบวนการขายประกัน
วิธีเสนอขายประกัน
คุณสมบัติของผู้ขอรับเป็นตัวแทนประกัน
คุณสมบัติตัวแทนประกันภัยที่ดี
สาระสำคัญ
งานการขายเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ จึงจะประสบความสำเร็จได้ กล่าวคือจะต้องทำการศึกษากระบวนการหรือขั้นตอนการดำเนินการตลอดจนเทคนิคต่าง ๆ และฝึกปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนั้นยังต้องมีการพัฒนาทั้งด้านความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพแวดล้อมและวิชาการมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เมื่อปฏิบัติดังนี้แล้ว ความสำเร็จในงานขายก็เป็นสิ่งสามารถประสบความสำเร็จได้
ตัวแทนประกันชีวิตและตัวแทนประกันวินาศภัย
ตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต/วินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต/วินาศภัย (ฉบับที่2) พ.ศ. 2551 ได้ให้ความหมายของคำว่า“ตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัย คือ ผู้ที่บริษัทประกันชีวิต/วินาศภัยได้มอบหมายให้ไปทำการชักชวนให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันชีวิต/วินาศภัย กับบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย ผู้ใดจะกระทำการเป็นตัวแทนประกันภัยต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน หากกระทำการเป็นตัวแทนประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และในพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 มาตรา 5 ได้ให้ความหมายของคำว่านายหน้าประกันชีวิต” คือ ผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลทำสัญญาประกันชีวิตกับบริษัท โดยกระทำเพื่อบำเหน็จ
คุณสมบัติการเป็นตัวแทนประกันภัยขั้นพื้นฐาน
คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นตัวแทนประกันภัยขั้นพื้นฐาน ไม่มีความแตกต่างจากตัวแทนประกันภัยปกติ เพียงแต่ในการขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันภัยขั้นพื้นฐานนั้นกำหนดระยะเวลาการอบรมและจำนวนข้อสอบน้อยกว่าตัวแทนประกันภัยปกติและการขอต่ออายุใบอนุญาต กำหนดชั่วโมงในการอบรมน้อยกว่าตัวแทนประกันภัยปกติ ทั้งนี้ ในการขอรับอนุญาตและการขอต่ออายุใบอนุญาตตัวแทนประกันภัยขั้นพื้นฐาน ต้องผ่านการอบรมในวิชาต่อไปนี้
1. จรรยาบรรณ
2. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
3. พ.ร.บ. ประกันชีวิต/พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย
4. ความรู้ทั่วไป
นอกจากนี้ตัวแทนประกันชีวิตสำหรับการประกันภัยขั้นพื้นฐานสามารถขายได้เฉพาะกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เป็นกรมธรรม์ประกันภัยพื้นฐานเท่านั้นและตัวแทนประกันวินาศภัยสำหรับการประกันภัยขั้นพื้นฐาน สามารถขายได้เฉพาะกรมธรรม์ประกันวินาศภัยที่เป็นกรมธรรม์ประกันภัยขั้นพื้นฐานเท่านั้น
จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทน/นายหน้าประกันภัย
ความหมายของจรรยาบรรณ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำว่า “จรรยาบรรณ” ไว้ดังนี้ จรรยาบรรณ หมายถึง ประมวลความประพฤติผู้ประกอบการอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดเพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
ธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชื่อถือจากประชาชนเป็นอย่างมาก ในการมุ่งสู่จุดหมาย ความไว้วางใจและความเชื่อถือศรัทธาของประชาชน และที่สำคัญประชาชนต้องรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของการประกันภัย ซึ่งอาชีพการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัย เป็นอาชีพที่ต้องกระทำการชักชวนชี้ช่องให้ประชาชนได้มีการทำสัญญาประกันภัย
การประพฤติปฏิบัติของผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยจึงมีความสำคัญมากที่จะทำให้ประชาชนมีความเชื่อถือศรัทธาต่อธุรกิจประกันภัย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีจรรยาบรรณธุรกิจประกันภัยสำหรับอาชีพตัวแทน/นายหน้าประกันภัย
จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต
1. มีความซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันภัย บริษัท และเพื่อนร่วมอาชีพ
2. ให้บริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอและชี้แจงให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงสิทธิ หน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย
3. รักษาความลับอันมิควรเปิดเผยของผู้เอาประกันภัยและของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
4. เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัยในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ เพื่อการพิจารณารับประกัน หรือเพื่อความสมบูรณ์แห่งกรมธรรม์
5. ไม่เสนอแนะผู้ขอเอาประกันภัยทำประกันภัยเกินความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย หรือเสนอขายนอกเหนือเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันภัย
6. ไม่ลดหรือเสนอที่จะลดค่าบำเหน็จ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เอาประกันภัย
7. ไม่แนะนำผู้เอาประกันภัยสละกรมธรรม์เดิมเพื่อทำสัญญาใหม่ หากทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียประโยชน์
8. ไม่กล่าวให้ร้ายทับถมตัวแทนหรือบริษัทอื่น
9. หมั่นศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพเพิ่มเติมอยู่เสมอ
10. ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม ประเพณีอันดีงาม ทั้งธำรงไว้ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณธรรมแห่งอาชีวปฏิญาณ
จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันวินาศภัย
1. ประพฤติตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีพฤติกรรม และการกระทำใดๆ ให้ได้รับความเสียหายทางด้านการเงินและผิดหรือขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม
2. พัฒนาความรู้ ทักษะ ให้เท่าทันกับความเสี่ยงและปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการพัฒนาและธำรงวิชาชีพอยู่เสมอ
3. ป้องกัน หลีกเลี่ยง ตระหนักในส่วนได้เสีย และไม่ปฏิบัติการใดๆ ที่อาจขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์โดยตรงและ/หรือที่จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของลูกค้า บริษัทประกันภัย ตัวแทนประกันวินาศภัยอื่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง
4. พึงปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบ กติกา ข้อบังคับ ตามขอบเขต อำนาจหน้าที่ ในฐานะตัวแทนประกันวินาศภัยของบริษัทประกันภัยที่ตนเองสังกัดโดยเคร่งครัด และไม่ปฏิบัติตนเกินขอบข่ายที่บริษัทประกันภัยและหรือกฎหมายกำหนดให้อำนาจไว้
5. มีความภักดี รักษาชื่อเสียง ภาพพจน์ของบริษัทประกันภัยที่ตนเองสังกัดรวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ อย่างเหมาะสม ถูกต้องตามกฎหมาย
6. รักษาความลับของลูกค้าไม่นำข้อมูลส่วนตัว และ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆของลูกค้าไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่น หรือแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทนนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่โดยมิได้รับอนุญาตจากลูกค้า
7. เต็มใจให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ ใส่ใจ ช่วยเหลือ แนะนำ ให้คำปรึกษาประสานงาน อำนวยความสะดวก โดยไม่คำนึงถึงอามิสสินจ้าง ตั้งแต่การรับโอนเสี่ยงภัยการบริการเรียกร้องความเสียหาย และการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
8. ส่งเสริมจรรยาบรรณตัวแทนประกันวินาศภัย จรรยาบรรณธุรกิจประกันวินาศภัยและวิชาชีพประกันวินาศภัย เพื่อสร้างการยอมรับและความน่าเชื่อถือในธุรกิจประกันวินาศภัยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนและสังคม
9. ดำรงตนให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ได้รับการยอมรับจากบุคลากรร่วมวิชาชีพสาธารณชน และเป็นแบบอย่างที่ดีในการรักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ชื่อเสียง ในฐานะตัวแทนประกันวินาศภัยที่ดี เพื่อส่งเสริมวิชาชีพประกันวินาศภัย
กระบวนการขาย (Selling Process)
โดยทั่ว ๆ ไปประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ
1. การแสวงหาลูกค้าเป้าหมาย (ผู้มุ่งหวัง)
2. การเตรียมตัวเข้าพบลูกค้า
3. การเข้าพบและการเสนอขาย
4. การเผชิญข้อโต้แย้ง
5. การปิดการขายและกิจกรรมหลังการขาย
ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของแต่ละขั้นตอน เนื่องจากผู้เรียนจะได้ศึกษาในรายวิชาการขายมาแล้ว
กระบวนการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย
1. การแนะนำตนเอง
- ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้
- เลขที่ใบอนุญาต, หนังสือมอบอำนาจจากบริษัท
2. การแนะนำบริษัท
- ข้อมูลบริษัท
- ข้อมูลฐานะของบริษัท, เงินกองทุน, ผลการดำเนินงาน, ส่วนแบ่งการตลาด
3. ข้อมูล/ความต้องการของลูกค้า
- ชื่อ-นามสกุลผู้เอาประกันภัย/การติดต่อ
- อาชีพ,อายุ
- รายละเอียดของทรัพย์สิน/บุคคล ที่ต้องการทำประกันภัย
- ประเภทการประกันภัย ลักษณะความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยต้องการ
- ความคุ้มครองที่ได้รับจากกรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลบังคับ
4. การนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัท
5. รายละเอียดแบบกรมธรรม์ประกันภัย
- ความคุ้มครอง, ข้อยกเว้นและเงื่อนไขสำคัญ
- จำนวนเงินเอาประกัน, จำนวนเบี้ยประกันภัยและระยะเวลาเอาประกันภัย (วันที่เริ่มต้น-สิ้นสุดความคุ้มครอง) ที่ผู้เอาประกันภัยตกลงทำประกันภัย
6. จัดทำใบคำขอเอาประกันภัย
- อธิบายการกรอกใบคำขอเอาประกันภัย
- ตัวแทน/นายหน้า กรอกใบคำขอให้ผู้เอาประกันภัยเพื่อส่งให้บริษัทพิจารณารับประกันภัย
7. พิจารณาการรับประกันภัย
- กรณีตัวแทน/นายหน้า ไม่สามารถพิจารณารับประกันภัยได้เองเนื่องจากการรับประกันภัยดังกล่าวต้องใช้ปัจจัยอื่นในการพิจารณา
8. ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัย
- รับเบี้ยประกันภัยตามเงื่อนไข/ระยะเวลา
วิธีการเสนอขายประกันภัย
ในปัจจุบัน การประกอบธุรกิจประกันภัยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ โดยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายกำกับส่งเสริม และพัฒนาการประกอบธุรกิจประกันภัย ดังนั้น การปฏิบัติการใดๆ ของธุรกิจประกันภัยต้องเป็นตามที่คณะกรรมการฯ กำหนดในเรื่องนั้นๆ
ตามประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยและการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิตและธนาคาร พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้บริษัทประกันชีวิตสามารถเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยดังนี้
1. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านตัวแทน (Insurance Agent) /นายหน้าประกันชีวิต (Insurance Broker) บริษัทจะต้องจัดการให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ดังนี้
1.1 แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล บริษัทที่ตนสังกัด (ถ้ามี) พร้อมทั้งแสดงใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต
1.2 แจ้งวัตถุประสงค์ในการติดต่อกับผู้มุ่งหวัง ซึ่งต้องแสดงให้ปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น ในการนี้ให้หลีกเลี่ยงการใช้คำว่าฝากหรือฝากเงิน แทนการชำระเบี้ยประกันภัย
1.3 หากผู้มุ่งหวังแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งว่าไม่ประสงค์จะซื้อ ไม่ว่าการแสดงเจตนานั้นจะเกิดขึ้นในขั้นตอนใดให้ยุติการขายทันที
1.4 เมื่อได้รับอนุญาตให้เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้มุ่งหวัง ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตจะต้องอธิบายเกี่ยวกับกรมธรรม์ที่เสนอขาย โดยใช้เอกสารประกอบการเสนอขายที่ได้รับความเห็นชอบจากบริษัทเท่านั้น
1.5 แนะนำให้ผู้มุ่งหวังทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย
1.6 เมื่อผู้มุ่งหวังประสงค์จะทำประกันชีวิต ตัวแทนการกันชีวิตและนายหน้าประกันชีวิตจะต้องส่งมอบใบคำขอเอาประกันภัยให้แก่ผู้มุ่งหวัง และให้ผู้มุ่งหวังกรอกรายละเอียดลงในใบคำขอเอาประกันภัย และลงลายมือชื่อในฐานะผู้ขอเอาประกันภัยด้วยตนเอง
หากตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตเป็นผู้กรอกรายละเอียดให้ตามคำร้องของผู้มุ่งหวัง ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตจะต้องกรอกรายละเอียดให้ถูกต้องตามที่ได้รับข้อมูลจากผู้มุ่งหวัง หรือจากที่ตนทราบข้อมูลและตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตนั้นจะต้องอ่านรายละเอียดใบคำขอเอาประกันภัยที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วให้ผู้มุ่งหวังฟังก่อนให้ผู้มุ่งหวังลงลายมือชื่อในฐานะผู้เอาประกันภัย
1.7 เมื่อได้รับชำระเบี้ยประกันภัย ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกัน
ชีวิตจะต้องงออกเอกสารแสดงการรับเงินของบริษัทประกันชีวิตทุกครั้งที่มีการรับเบี้ยประกันการรับเงินของบริษัทประกันชีวิตทุกครั้งที่มีการรับเบี้ยประกันภัยในนามบริษัท นอกจากจะต้องออกเอกสารแสดงการรับเงินตามวรรคหนึ่งแล้ว นายหน้าประกันชีวิตต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจให้รับชำระเบี้ยประกันภัยจากบริษัทด้วย
1.8 เมื่อได้รับคำขอเอาประกันภัยและรับเบี้ยประกันภัยจากผู้มุ่งหวังแล้ว ให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตส่งมอบเอกสารประกอบการเสนอขายที่ลงรายการครบถ้วน ให้แก่ผู้มุ่งหวังพร้อมเอกสารการรับเงินของบริษัทด้วย
1.9 นับแต่วันที่มุ่งหวังส่งมอบคำขอพร้อมเบี้ยประกันภัยให้แก่ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตจะต้องแจ้งระยะเวลาซึ่งผู้มุ่งหวังจะได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท หรือได้รับการติดต่อจากบริษัทเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย
1.10 ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิตจะต้องแจ้งให้ผู้มุ่งหวังทราบว่า เมื่อผู้มุ่งหวังได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว ผู้มุ่งหวังมีสิทธิตรวจสอบเนื้อหาตามกรมธรรม์ประกันภัย หากไม่เป็นที่พอใจผู้มุ่งหวังมีสิทธิเลิกสัญญาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท หรือมากกว่า 15 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการเสนอขาย
1.11 ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตจะต้องส่งคำขอเอาประกันภัย พร้อมเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้มุ่งหวังไปยังบริษัทในโอกาสแรกที่กระทำได้ แต่ไม่เกินวันทำการถัดไป
2. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนผ่านตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต บริษัทต้องดำเนินการจัดการให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต ผู้เสนอขายได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนประเภท ก หรือ ข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และเป็นผู้ผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันชีวิตตามการลงทุนตามหลักสูตรที่สำนักงานประกาศกำหนด และได้รับการขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่นายทะเบียนประกาศกำหนด และให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยเช่นเดียวกับข้อ 1. และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติดังต่อไปนี้ด้วยเป็นอย่างน้อย
2.1 อธิบายเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขายโดยใช้เอกสารประกอบการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทจัดทำขึ้น ประกอบกับหนังสือชี้ชวนซื้อหน่วยลงทุนที่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2.2 ให้คำแนะนำตามหลักวิชาการอันเป็นที่ยอมรับ โดยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวมและมีเอกสารหลักฐานที่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้
2.3 ให้คำแนะนำโดยอธิบายให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงลักษณะความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการประกันชีวิตควบการลงทุนและหน่วยลงทุนควบคู่กรมธรรม์ประกันชีวิต
2.4 ไม่นำเอาข้อมูลของผู้ประกันภัยไปเผยต่อบุคคลอื่น
2.5 ห้ามมิให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตเรียกเก็บหรือค่าธรรมเนียม หรือค่าตอบแทนที่เกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันชีวิตจากผู้เอาประกันภัย นอกเหนือจากผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ต้องชำระตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชัดเจน
3. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ บริษัทจะต้องจัดการให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต ผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ที่สำนักงานประกาศกำหนด และได้รับการขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่สำนักงานประกาศกำหนด บริษัทจะต้องให้ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยเช่นเดียวกับข้อ 1. และให้คำแนะนำแก่ผู้เอาประกันภัยถึงลักษณะความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ด้วย
4. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านไปรษณีย์ (Direct Mail) ให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินการเท่านั้น โดยบริษัทประกันชีวิตจะส่งเอกสารขายที่ระบุ ชื่อที่อยู่ของบริษัทผลประโยชน์ ข้อยกเว้นความคุ้มครอง ระยะเวลาการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระ วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย ระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันภัยระยะเวลาความคุ้มครอง และระยะเวลาในการออกกรมธรรม์ประกันภัยพร้อมกับใบคำขอเอาประกันชีวิตไปยังผู้ได้รับการเสนอขาย ถ้าผู้ขอเอาประกันภัยสนใจทำประกันชีวิตให้กรอกใบคำขอฯ แล้วส่งให้บริษัทฯ โดยตรงทางไปรษณีย์และชำระเบี้ยประกันภัยตามที่กำหนดในเอกสารการเสนอขาย
5. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านธนาคาร (Bancassurance) บริษัทจะต้องจัดการให้ธนาคารปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติ ดังนี้
5.1 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องเป็นพนักงานของธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตเท่านั้น
5.2 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล พร้อมทั้งแสดงใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิต
5.3 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องแสดงให้ปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโดยอธิบายความแตกต่างระหว่างการประกันชีวิตกับการฝากเงินกับธนาคารก่อนเสนอขายทุกครั้ง
5.4 การทำประกันภัยของลูกค้าธนาคารต้องเป็นไปโดยความสมัครใจ ห้ามมิให้มีการบังคับ หรือใช้เป็นเงื่อนไขในการต่อรองการให้สินเชื่อ หรือธุรกรรมอื่นใดของธนาคาร
5.5 ธนาคารจะต้องปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเช่นเดียวกันกับนายหน้าประกันชีวิต ดังที่กล่าวแล้วในข้อ 1.
6. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโดยวิธีอื่น นอกเหนือจาก 1, 2 และ 3 แต่ไม่รวมถึงการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยทางโทรศัพท์ เป็นการเสนอขายแก่ผู้มุ่งหวังเป็นการทั่วไปไม่เฉพาะเจาะจง และเพื่อให้ผู้มุ่งหวังติดต่อแจ้งทำประกันภัยไปยังบริษัทด้วยตนเอง ให้เสนอขายได้แต่เฉพาะกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบพื้นฐาน และกระทำได้โดยตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตเท่านั้น
7. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์ (Telemarketing) ผู้เสนอขายต้องได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าหรือพนักงานบริษัทเท่านั้นและการเสนอขายต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ต้องแจ้งชื่อนามสกุล เลขที่ใบอนุญาต ชื่อบริษัทประกันชีวิต และต้องแจ้งทันทีว่าเป็นการขายประกันชีวิตถ้าผู้ฟังไม่สนใจให้ยุติการสนทนาทันที และหากผู้ฟังต้องการทราบว่าผู้เสนอขายได้เบอร์โทรศัพท์มาจากที่ใดผู้เสนอขายต้องแจ้งแหล่งที่มาของเบอร์โทรศัพท์ ในกรณีที่ผู้ฟังต้องการซื้อประกันชีวิต ผู้เสนอขายต้องปฏิบัติ ดังนี้
7.1 บริษัทต้องขออนุญาตบันทึกเสียงเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานโดยจะเก็บเป็นเวลาเท่ากับระยะเวลาเอาประกันภัย
7.2 เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ผู้เสนอขายจึงอธิบายเกี่ยวกับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อยกเว้นความคุ้มครอง จำนวนเบี้ยประกันภัย ระยะเวลาเอาประกันภัย ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย และวิธีการชำระเบี้ยประกันภัย
7.3 ห้ามใช้คำว่าฝากหรือฝากเงินแทนการชำระเบี้ยประกันภัย
7.4 กรมธรรม์ประกันชีวิตเริ่มต้นคุ้มครองทันทีที่ผู้เอาประกันภัยตอบตกลงหรือวันอื่นตามที่ผู้เอาประกันภัยกำหนด
7.5 ต้องแจ้งสิทธิการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยว่าสามารถยกเลิกได้ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์ประกันภัย โดยได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ภายใน 30 วัน
7.6 ภายใน 7 วัน นับจากที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัยไปยังผู้เอาประกันชีวิตแล้ว บริษัทจะต้องโทรศัพท์ถึงผู้เอาประกันชีวิต เพื่อยืนยันการทำประกันภัย และแจ้งสิทธิ์การยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยให้ผู้เอาประกันภัยทราบอีกครั้งหนึ่ง
7.7 สามารถเสนอขายได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ระหว่างเวลา 08.30-19.00เว้นแต่กรณีมีการนัดหมายล่วงหน้าโดยผู้เอาประกันภัยยินยอม
คุณสมบัติของผู้ขอรับเป็นตัวแทนประกันภัย
คุณสมบัติของผู้ขอรับเป็นตัวแทนประกันภัยผู้ที่ต้องการขอรับเป็นตัวแทนประกันภัย ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. บรรลุนิติภาวะ
2. มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
4. ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
6. ไม่เป็นนายหน้าประกันภัย
7. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันภัยหรือใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันภัยในระยะเวลา 5 ปี ก่อนวันขอรับใบอนุญาต
8. ได้รับการศึกษาวิชาประกันภัย จากสถาบันอุดมศึกษาที่คณะกรรมการประกาศกำหนด หรือสอบความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยได้ตามหลักสูตรและวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัยจะต้องมีสังกัดบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และต้องได้รับการยอมรับให้เป็นตัวแทนประกันภัยของบริษัทประกันภัยนั้นด้วย ดังนั้นผู้ที่จะเป็นตัวแทนประกันภัย ต้องมีหนังสือแสดงความต้องการของบริษัท ยื่นประกอบขอรับใบอนุญาต นอกจากนี้ต้องมีหนังสือรับรองว่าผ่านการอบรมตามที่กฎหมายกำหนด และตัวแทนประกันภัยสามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตของตนได้ล่วงหน้า 2 เดือนก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เช่นใบอนุญาตจะหมดอายุในวันที่ 1 มีนาคม 2555 ตัวแทนประกันภัยสามารถยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตของตนเองได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
เพื่อเป็นการให้ความคุ้มครองประชาชนที่มีความประสงค์จะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยกฎหมายได้กำหนดให้ตัวแทนประกันภัยต้องแสดงใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันภัยทุกครั้งที่มีการชักชวนให้บุคคลทำสัญญาประกันภัย หากตัวแทนประกันภัยไม่แสดงใบอนุญาตทุกครั้งที่มีการชักชวนจะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
คุณลักษณะของตัวแทนประกันภัยที่ดี
1. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ
2. มีความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยเป็นอย่างดี
3. มีความกระตือรือร้น ขยันและอดทน
4. มีความซื่อสัตย์สุจริต
5. มีบุคลิกภาพที่ดี
6. มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
7. มีความเป็นมิตรและเป็นผู้รอบรู้ทันต่อเหตุการณ์
8. ต้องรู้จักวางแผนและแบ่งเวลาการทำงานให้เหมะสม
9. มีศิลปะในการพูด
10. มีจรรยาบรรณ
สรุป
กระบวนการขาย มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. การแสวงหาลูกค้าเป้าหมาย (ผู้มุ่งหวัง)
2. การเตรียมตัวเข้าพบลูกค้า
3. การเข้าพบและการเสนอขาย
4. การเผชิญข้อโต้แย้ง
5. การปิดการขายและกิจกรรมหลังการขาย
กระบวนการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย
1. การแนะนำตนเอง
2. การแนะนำบริษัท
3. ข้อมูล/ความต้องการของลูกค้า
4. การนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัท
5. รายละเอียดแบบกรมธรรม์ประกันภัย
6. จัดทำใบคำขอเอาประกันภัย
7. พิจารณาการรับประกันภัย
8. ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัย
วิธีการเสนอขายประกันภัย สามารถเสนอขายได้ 5 วิธี
1. การเสนอขายผ่านตัวแทน/นายหน้า
2. การเสนอขายผ่านไปรษณีย์
3. การเสนอขายผ่านธนาคาร
4. การเสนอขายผ่านทางโทรศัพท์
5. การเสนอขายโดยวิธีอื่นๆ
ตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัย คือ ผู้ที่บริษัทประกันชีวิต/วินาศภัยได้มอบหมายให้ไปทำการชักชวนให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันชีวิต/วินาศภัย ผู้ใดจะกระทำการเป็นตัวแทนประกันภัยต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน
นายหน้าประกันชีวิต คือ ผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลทำสัญญาประกันชีวิตกับบริษัทโดยกระทำเพื่อบำเหน็จ
คุณสมบัติของผู้ขอรับเป็นตัวแทนประกันภัย
1. บรรลุนิติภาวะ
2. มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
4. ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
6. ไม่เป็นนายหน้าประกันภัย
7. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันภัยหรือใบอนุญาตเป็น
นายหน้าประกันภัยในระยะเวลา 5 ปีก่อนวันขอรับใบอนุญาต
8. ได้รับการศึกษาวิชาประกันภัย จากสถาบันอุดมศึกษาที่คณะกรรมการประกาศกำหนดหรือสอบความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยได้ตามหลักสูตรและวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
นอกจากนั้นตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัยจะต้องมีสังกัดบริษัทใดบริษัทหนึ่งและต้องได้รับการยอมรับให้เป็นตัวแทนประกันของบริษัทประกันภัยนั้นด้วย เมื่อได้เป็นตัวแทนประกันภัยแล้ว เมื่อใบอนุญาตจะหมดอายุ ตัวแทนประกันภัยสามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตล่วงหน้าได้ 2 เดือน
คุณลักษณะของตัวแทนประกันภัยที่ดี
1. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ
2. มีความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยเป็นอย่างดี
3. มีความกระตือรือร้น ขยันและอดทน
4. มีความซื่อสัตย์สุจริต
5. มีบุคลิกภาพที่ดี
6. มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
7. มีความเป็นมิตรและเป็นผู้รอบรู้ทันต่อเหตุการณ์
8. ต้องรู้จักวางแผนและแบ่งเวลาการทำงานให้เหมะสม
9. มีศิลปะในการพูด
10. มีจรรยาบรรณ