หัวข้อเรื่อง
1. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขายตรง
2. กฎระเบียบและองค์การที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรง
3. ข้อควรพิจารณาในการเลือกธุรกิจขายตรงถูกกฎหมาย
4. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง
สาระสำคัญ
หลายประเทศมีสินค้าเข้าสู่ระบบขายตรงและมีการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้การเข้าถึงลูกค้าจึงมักเป็นวิธีการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เครื่องมือสื่อสาร โทรทัศน์ วิทยุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน สังคมออนไลน์ เช่น Facebook Line Instragram เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นความเสี่ยงของผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการขายตรง ทั้งนี้ตัวแทนขายตรงจะต้องระมัดระวังและศึกษาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอันเป็นปัญหาที่อาจจะต้องติดตามหรือแก้ไข ดังนั้น จึงทำให้เกิดกฎหมาย พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2545 ตราขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้เพียงพอและเนื่องจากการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการใช้วิธีการทำตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภค ด้วยการเสนอขายสินค้าหรือบริการที่มิใช่ที่อยู่อาศัย จึงส่งผลให้ต้องมีหน่วยงานหรือองค์การภาครัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลให้เกิดความชัดเจนและเพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขายตรง
กฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ระบุว่า
“ขายตรง” หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ โดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นแต่ไม่รวมถึงนิติกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตลาดแบบตรง” หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น
“ผู้บริโภค” หมายความว่า ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการจากผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง หรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือการชักชวนจากผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงเพื่อให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ
“ผู้จำหน่ายอิสระ” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและนำสินค้าหรือบริการดังกล่าวไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
“ตัวแทนขายตรง” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงให้นำสินค้าหรือบริการไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
“ซื้อ” หมายความรวมถึง เช่า เช่าซื้อ หรือได้มาไม่ว่าด้วยประการใด ๆ โดยให้ค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น
“ขาย” หมายความรวมถึง ให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือจัดหาให้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆโดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ตลอดจนการเสนอหรือการชักชวนเพื่อการดังกล่าวด้วย
“สินค้า” หมายความว่า สิ่งของที่ผลิตหรือมีไว้เพื่อขาย
“บริการ” หมายความว่า การรับจัดทำการงาน การให้สิทธิใด ๆ หรือการให้ใช้หรือให้ประโยชน์ในทรัพย์สินหรือกิจการใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อื่น แต่ไม่รวมถึงการจ้างแรงงานตามกฎหมายแรงงาน
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง
“นายทะเบียน” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕
2. กฎระเบียบและองค์การที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงรวบรวมได้ ดังนี้
2.1 กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั่วไป หน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก่ สานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
2.2 กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงพาณิชย์
2. 3 กฎหมายกำกับดูแลอาหารและยา หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงสาธารณสุข
2.4 กฎหมายศุลกากร หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงการคลัง
2.5 กฎหมายภาษีอากร หน่วยงานรับผิดชอบ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง
องค์การที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรง สมาคมอุตสาหกรรมขายตรง สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย สมาคมนักการตลาดแบบ ตรงไทย สมาพันธ์การขายตรงโลก
3. ข้อควรพิจารณาในการเลือกทำธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย
ต้องมีเป้าหมายและนโยบายที่ชัดเจนในการดำเนินงาน เอาใจใส่และให้การคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินธุรกิจภายใต้กฎระเบียบและกฎหมายของการขายตรง การมีศักยภาพที่มั่นคงทางธุรกิจ มีระบบการจัดการด้านการบริหารงานอย่างเป็นระบบ มีผู้ขายตรงต้องมีความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ แผนการขายและแผนการตลาดและรู้จักบริษัทเป็นอย่างดีการเปิดตัวของธุรกิจขายตรงต่างชาติจำนวนมากขึ้นจากการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
4. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง คือการเปิดตัวของผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงด้านช่องทางการตลาดออนไลน์ การวางแผนการตลาดแบบยืดหยุ่น ทั้งนี้ยังต้องตระหนักถึงปัจจัยอื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้เสมอ