หัวข้อเรื่อง
ความหมายและความสำคัญของจรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรง
จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงต่อบุคคลที่ประกอบอาชีพขายตรง
จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงต่อสังคมและประเทศชาติ
จรรณยาบรรณธุรกิจขายตรงโลก
ปัจจัยที่ทำให้ตัวแทนขายตรงขาดจรรณยาบรรณในวิชาชีพ
แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจขายตรงในอนาคต
สาระสำคัญ
อาชีพการขายตรงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ถูกกำหนดให้มีจรรณยาบรรณ เป็นแบบแผนที่พึงปฏิบัติให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้คงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของสังคม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อธุรกิจขายตรง เพื่อให้ธุรกิจขายตรงได้รับการยอมรับและมีผลต่อผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมและทำให้บุคคลทั่วไปมีทัศนคติที่ดีต่อการขายตรง ขณะเดียวกันหากผู้บริโภคมีความศรัทธา ผู้บริโภคย่อมจะเกิดความเชื่อมั่นต่อองค์กรและจะเป็นตัวแปรสำคัญไปสู่การส่งเสริมให้ธุรกิจขายตรงประสบกับความสำเร็จได้ในอนาคตจะเห็นได้ว่าจรรณยาบรรณจึงเป็นสิ่งที่ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบการขายตรง สมาชิกขายตรงหรือทุกคนที่อยู่ใน แวดวงการขายตรงจะต้องปฏิบัติสืบไป
1. ความหมายและความสำคัญของจรรณยาบรรณในวิชาชีพการขายตรง
การประพฤติปฏิบัติสิ่งที่เหมาะที่ควรต่ออาชีพพร้อมด้วยการมีจิตสำนึกที่ดีในการดำรงตน ของบุคคลทุกอาชีพ จัดว่าเป็นสิ่งที่ดีและควรยึดถือปฏิบัติ จรรณยาบรรณในอาชีพใด ๆ ก็เช่นเดียวกันเป็นสิ่งที่บุคคลที่เป็นตัวแทนขายตรงจะต้องยึดถือและปฏิบัติ
จรรยาบรรณ (Ethics) ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 หมายถึง ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
จรรยาบรรณ (Ethics) ตามความหมายทางพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง หลักเกณฑ์ที่ควรปฏิบัติ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการขายควรมีวิถีชีวิตในการปฏิบัติงานทางการขาย
จรรยาบรรณ (Ethics) หมายถึง ความประพฤติต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบอาชีพการขายกำหนดขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้าง รักษาชื่อเสียงเกียรติยศของอาชีพตนเองไว้ (อุษณีย์ จิตตะปาโล. 2548: 161)
จากความหมายของจรรณยาบรรณ สรุปได้ว่า จรรณยาบรรณ หมายถึง สิ่งที่บุคคลทุกอาชีพ ต้องประพฤติปฏิบัติ เพื่อรักษาความดีงาม ความเป็นเกียรติ ศักดิ์ศรีแก่อาชีพ แก่ตนเองและองค์กร
ความสำคัญของจรรณยาบรรณ
จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงเป็นการประพฤติปฏิบัติที่ต้องรักษาความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีให้กับตัวแทนขายตรงรุ่นใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มปริมาณขึ้น เพื่อรองรับการขยายธุรกิจขายตรงที่นับทวีคูณกับการเพิ่มปริมาณตัวแทนขายตรง ดังนั้นตัวแทนขายตรงหรือบุคลากรธุรกิจขายตรงจะต้องให้ความสำคัญกับจรรณยาบรรณ ดังนี้
1.1 ความสําคัญของจรรยาบรรณ กรมการศาสนา (2522 : 68) ได้ให้สาระสําคัญดังนี้
1.1.1 ช่วยควบคุมมาตรฐาน ประกันคุณภาพและปริมาณที่ถูกต้องในการปฏิบัติงานและการดําเนินงานขององค์กร
1.1.2 ช่วยควบคุมจริยธรรมของบุคคลในองค์กรให้เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตและยุติธรรม
1.1.3 ช่วยส่งเสริมมาตรฐาน คุณภาพและปริมาณของผลการปฏิบัติงานขององค์กรจัดทําขึ้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่เสมอ
1.1.4 ช่วยส่งเสริมจริยธรรมของบุคคลในองค์กรและดําเนินการให้มีความเมตตากรุณาเห็นอกเห็นใจต่อผู้ร่วมงานในองค์กร
1.1.5 ช่วยลดการเอารัดเอาเปรียบ การฉ้อฉล ความเห็นแก่ตัวตลอดจนความมักง่ายใจแคบไม่เคยเสียสละ
1.1.6 ช่วยเน้นให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นในภาพพจน์ที่ดีขององค์กรที่มีจริยธรรม
1.1.7 ช่วยทําหน้าที่พิทักษ์สิทธิตามกฎหมายขององค์กรให้เป็นไปโดยความถูกต้องตามทํานองคลองธรรม
1.2 ความสำคัญของจรรณยาบรรณ พอสรุปได้ดังนี้
1.2.1 การเป็นที่ยอมรับของสังคม เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มจำเป็นต้องมีข้อหรือเงื่อนไขในการปฏิบัติที่เหมือนกันจึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
1.2.2 การเป็นองค์กรมืออาชีพ โดยจะได้รับการยอมรับจากผู้คนในสังคมที่มีบุคลากรตัวแทนขายตรงที่มีจรรณยาบรรณเป็นเลิศ ทั้งการประพฤติ การปฏิบัติ จิตใจมีคุณธรรมจริยธรรม จนกระทั่งส่งผลให้องค์กรมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและภาพลักษณ์ที่ดีติดตรึงใจสืบไป
1.2.3 ส่งเสริมให้เกิดการยกระดับอาชีพการขายตรง เนื่องจากภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรงยังคงไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมและประชาชนหรือผู้บริโภคบางกลุ่ม ดังนั้นหากตัวแทนขายตรงมีความตั้งใจและมีความรักศรัทธาในอาชีพ จรรณยาบรรรณ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี จะเป็นการส่งเสริมให้ตัวแทนขายตรงและธุรกิจก้าวไปสู่ธุรกิจชั้นนำได้ในอนาคต
1.2.4 สร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งให้ธุรกิจขายตรง อันมาจากพื้นฐานของบุคลากรขายตรงมากคุณภาพ มีความเป็นเอกภาพ มั่นคงด้วยฐานรากที่ดีและนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจต่อไป
1.2.5 สร้างหลักประกันคุณภาพของธุรกิจและทรัพยากรที่เป็นปัจจัยต่าง ๆ ขององค์กรให้เป็นที่น่าเชื่อมั่นในสายตาของประชาชนในประเทศและต่างประเทศ
2. จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงต่อบุคคลที่ประกอบอาชีพขายตรง
จรรณยาบรรณเป็นสิ่งที่ต้องยึดถือปฏิบัติ ย่อมจะต้องมีการปฏิบัติอย่างเนื่อง หลากหลายอาชีพมีบางส่วนที่ต้องเพิ่มเติมให้เหมาะกับแต่ละอาชีพ และเหมาะกับแต่ละบทบาทของบุคคล โดยเฉพาะอาชีพขายตรง มักมีบทบาทที่บุคคลนั้น ๆ ต้องทำหน้าที่ต่างกัน ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
2.1 จรรณยาบรรณของตัวแทนขายตรง มีดังนี้
2.1.1 การปฏิบัติตนดี มีความสม่ำเสมอและต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับจรรณยาบรรณของการขายตรงให้ดีที่สุด
2.1.2 หมั่นให้ความรู้และเพิ่มประสบการณ์ ตัวแทนขายตรงจะต้องศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะความรู้และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมักพัฒนาต่อเนื่อง การไม่ศึกษาอาจทำให้การทำงานขาดการฝึกคิดวิเคราะห์และทักษะอาจไม่เชี่ยวชาญพอ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจค้นคว้าเสมอ เพื่อประโยชน์ในความก้าวหน้าด้านการขายตรงต่อไป
2.1.3 รักและศรัทธาในอาชีพ ตัวแทนขายตรงหากทำงานด้วยใจรักอุปสรรคใด ๆ ย่อมไม่เป็นปัญหาเสมอและหากมีความรัก ศรัทธาในอาชีพหรือต่อองค์กร มักทำให้งานมีหนทางสำเร็จเสมอ
2.1.4 รับผิดชอบในหน้าที่ บทบาทของตัวแทนขายตรงคือให้บริการและดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่เต็มเวลาและในทุกสถานการณ์ที่ลูกค้าต้องการ หากทำได้สมบูรณ์จะทำให้ได้รับผลที่ดีต่อไปในภายหน้า
2.1.5 มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองต่ออาชีพ ด้วยพื้นฐานของการดูแลผู้อื่นจะต้องเริ่มจากตนเองเสมอ จึงจะสามารถทำให้การปฏิบัติต่อผู้อื่นดีจนเป็นที่น่าประทับใจ เพราะทุกองค์การทุกอาชีพมันให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์เป็นอันดับแรก
2.2 จรรณยาบรรณของตัวแทนขายตรงที่มีต่อลูกค้า มีดังนี้
2.2.1 เสนอสิ่งที่ดีให้ลูกค้า ทั้งสินค้าและบริการ ตลอดจนเสนอขายสินค้า สาธิตสินค้าให้ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2.2 รักษาคำพูด เมื่อตัวแทนขายตรงบริการลูกค้าสิ่งใดที่เสนอให้ลูกค้าจะต้องปฏิบัติให้ได้ตามนั้นเสมอ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างตัวแทนขายตรงและลูกค้า
2.2.3 บริการดีที่สุด การบริการคือหัวใจสำคัญของงานขาย เพราะหมายถึงความเอาใจใส่และดูแลลูกค้า
2.2.4 ซื่อสัตย์และเข้าใจลูกค้า ตัวแทนขายตรงต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมามุ่งเน้นความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ ไม่เห็นประโยชน์ส่วนตนเป็นสำคัญ
2.3 จรรณยาบรรณของตัวแทนขายตรงที่มีต่อกิจการ มีดังนี้
2.3.1 ควรรักษาความลับของกิจการ เพื่อป้องกันปัญหาอันอาจเกิดจากความผิดพลาดของการสื่อสารหรือการทำงาน
2.3.2 มีความซื่อสัตย์ต่อกิจการ ดำเนินงานภายใต้ความซื่อสัตย์ไม่เบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกินความเป็นจริง หรือทำหลักฐานอันเป็นเท็จ
2.3.3 รักษาภาพลักษณ์ของกิจการ ตัวแทนขายตรงจัดว่าเป็นผู้มีบทบาทและต้องทำหน้าที่ของตนเองพร้อมกับการเป็นตัวแทนของกิจการ ช่วยรักษาภาพพจน์ของกิจการตัวแทนขายตรงสามารถให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี
2.3.4 มีความจงรักภักดีต่อกิจการ หากได้ทำงานในกิจการใดควรตั้งใจและมีจิตใจตั้งมั่นกับการทำงานในกิจการนั้นให้ต่อเนื่อง เพราะเมื่อตัวแทนขายตรงปฏิบัติต่อเนื่องด้วยความอุตสาหะจะส่งผลให้ทั้งตัวแทนขายตรงและกิจการมีความมั่นคงและก้าวหน้าในอนาคต
3. จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงต่อสังคมและประเทศชาติ
3.1 จรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงต่อสังคมและประเทศชาติ มีดังนี้
3.1.1 มุ่งสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการจัดหา จัดจำหน่ายสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3.1.2 เป็นการร่วมกันปกป้องคุ้มครองบทบาทของผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ให้เป็นที่ได้รับการยอมรับในสายตาของผู้คนทั่วไป
3.1.3 รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีในอาชีพขายตรง ประกอบสัมมาชีพภายใต้การสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ
3.1.4 มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดการซื้อและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศเป็นสำคัญ
3.2 การสร้างเสริมจรรยาบรรณให้กับตัวแทนขายตรงเพื่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
ธุรกิจขายตรงหลายบริษัทมักจะมีการจัดอบรมตัวแทนขายตรงส่งเสริมและสนับสนุนให้ตัวแทนขายตรงเสมอ เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นการทำงาน ในขณะเดียวกันได้จะมุ่งเน้นการสอดแทรกคุณธรรมและจรรณยาบรรณในวิชาชีพขายตรงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการสร้างเสริมจรรณยาบรรณให้กับตัวแทนขายตรงปัจจุบันธุรกิจขายตรงมักสอดแทรกการปฏิบัติตนไว้ในคู่มือการขายตรง เพื่อให้ตัวแทนขายตรงทุกคนได้อ่านและปฏิบัติตาม ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
3.2.1 จัดกิจกรรมเสริมความรู้ด้านการขาย เนื่องจากธุรกิจขายตรงต้องจะจัดอบรมสัมมนา ความรู้หรือทักษะด้านการขาย การบริการ แผนการตลาด การบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
3.2.2 ส่งเสริมการทำงานด้วยความรับผิดชอบ บทบาทของตัวแทนขายตรงถูกกำหนดว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า หากทำงานขายตรงสามารถทำในช่วงเวลาใดตัวแทนขายตรงต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์อันเป็นการบริหารจัดการที่ดี ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของคุณภาพตัวแทนขายตรงไปด้วย
3.2.3 ส่งเสริมการทำงานด้วยคุณธรรม ซื่อสัตย์มีวินัย พร้อมด้วยการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมให้กับตัวแทนขายตรง เพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์และน่าเชื่อถือ ด้วยภาพลักษณ์และบุคลิกภาพที่ดีของตัวแทนขายตรง
3.2.4 มีการจัดตั้งกลุ่มองค์กรตัวแทนขายตรง เพื่อให้สมาชิกตัวแทนขายตรงได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และเรียนรู้ระหว่างตัวแทนขายตรงด้วยกัน จนเกิดความรู้ใหม่ทางวิชาชีพขายตรง
4. จรรณยาบรรณธุรกิจขายตรงโลก
จรรยาบรรณธุรกิจขายตรงโลกบัญญัติขึ้น โดยสมาพันธ์การขายโดยตรงแห่งโลก (World Federation of Direct Selling Associations) ร่วมกับสมาคมการขายโดยตรงในประเทศต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์โดยถือเป็นข้อปฏิบัติข้อหนึ่ง ของการสมัครเป็นสมาชิกและการดำรงสมาชิกภาพในสมาพันธ์ ซึ่งบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมการขายโดยตรงต้องยอมรับและให้สัญญาว่าจะปฏิบัติตามข้อบังคับของจรรยาบรรณในทุกประการจรรยาบรรณนี้ไม่ใช่กฎหมายแต่เป็นมาตรการดูแลควบคุมตนเองที่วงการธุรกิจขายตรงบัญญัติขึ้นมา ซึ่งสมาชิกต้องปฏิบัติตนอย่างมีมาตรฐานทางจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ (สมาคมการขายตรงไทย. 2554: 80)
4.1 จรรณยาบรรณธุรกิจขายตรงโลกต่อผู้บริโภค
เป็นการระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ขายตรงฝ่ายหนึ่งกับผู้บริโภคอีกฝ่ายหนึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องคุ้มครองและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคอีกทั้งเพื่อส่งเสริมการแข่งขันอย่างยุติธรรมในขอบเขตของธุรกิจการค้าเสรีและเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรง ในสายตาของสาธารณชนทั่วไป
4.1.1 การปฏิบัติที่ต้องห้าม ผู้ขายตรงต้องไม่ใช้วิธีการลวงล่อให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด เช่น ไม่โอ้อวดสรรพคุณของสินค้าเกินความจริงรวมทั้งไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคด้านราคาบริการและสิทธิพิเศษอื่นใดที่ผู้บริโภคควรจะได้รับ
4.1.2 การแสดงตัว ผู้ขายตรงต้องแนะนำตัวให้ผู้บริโภครู้จักตั้งแต่ต้น โดยบอกกล่าวถึงชื่อ บริษัทต้นสังกัด สินค้าที่แนะนำจุดประสงค์ในการจัดประชุมหรือสาธิตสินค้าให้ผู้บริโภคและเจ้าของสถานที่ทราบอย่างชัดเจนเพื่อแสดงความจริงใจและเจตนาอันชัดแจ้ง โดยไม่ปิดบังอำพรางหรือหลอกลวงแต่อย่างใด
4.1.3 การอธิบายและการสาธิต ผู้ขายตรงต้องอธิบาย คุณลักษณะและคุณประโยชน์ตลอดจนสาธิตสินค้าอย่างครบถ้วนและถูกต้อง โดยเฉพาะราคาจำหน่าย ที่เป็นเงินสด หรือเงินเชื่อ ในกรณีพิเศษ วิธีการชำระเงิน ช่วงเวลาการพิจารณาสินค้า หรือตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าไว้ใช้หรือไม่สิทธิและเงื่อนไขในการคืนสินค้าระยะเวลาการรับประกันสินค้าหรือ การรับประกันความพอใจ บริการหลังการขายที่มีให้รวมทั้งกำหนดเวลาในการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้บริโภค
4.1.4 การตอบคำถาม ผู้ขายตรงต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริษัทและอื่น ๆ ที่ผู้บริโภคต้องการทราบ อย่างถูกต้องตามความเป็นจริงและหากผู้บริโภคมีคำถามที่ข้องใจหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้ขายตรงต้องอธิบายให้เป็นที่เข้าใจอย่างชัดเจนโดยทั่วกัน
4.1.5 ใบสั่งซื้อผู้ขายตรงต้องมอบใบสั่งซื้อที่เป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้บริโภค เมื่อแนะนำและเสนอขายสินค้าโดยใบสั่งซื้อต้องระบุชื่อบริษัทและชื่อผู้ขายตรงอย่างสมบูรณ์พร้อมรายละเอียดที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวกของบริษัทหรือของผู้ขายตรงรวมถึงเงื่อนไขการจำหน่ายที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายเพื่อผู้บริโภคทราบเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้า
4.1.6 การให้สัญญาด้วยวาจา ผู้ขายตรงต้องให้รายละเอียด เกี่ยวกับสินค้าตามความเป็นจริง ดังข้อมูลที่บริษัทเผยแพร่อย่างเป็นทางการซึ่งได้รับการรับรองจากบริษัทแล้วว่า เป็นข้อมูล ที่ถูกต้องและสมควรแจ้งให้ผู้บริโภคทราบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้านั้น ๆ
4.1.7 ระยะเวลาการพิจารณาสินค้าและการคืนสินค้า บริษัทและผู้ขาย ต้องคุ้มครองและรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคและปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจขายตรงด้วยการแจ้งให้ผู้บริโภคทราบเกี่ยวกับระยะเวลาการพิจารณาสินค้าและการคืนสินค้าอย่างชัดเจน ทั้งในเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร และการแจ้งโดยวาจารายละเอียดที่แจ้งต้องครอบคลุม เงื่อนไข ระยะเวลา การพิจารณาสินค้าและวิธีการติดต่อส่งคืนสินค้าหากผู้บริโภคต้องการคืนสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด
4.1.8 การรับประกันและการบริการหลังการขาย ผู้ขายตรง ต้องแจ้งให้ผู้บริโภคทราบถึงเงื่อนไข ระยะเวลาการรับประกันสินค้าทั้งการรับประกันคุณภาพและการรับประกันความพอใจ (ถ้ามี) รวมทั้งชื่อ ที่อยู่ของบริษัทและผู้ขายตรงตลอดจนวิธีการจัดการ และช่วยเหลือผู้บริโภคในเรื่องการบริการหลังการขายโดยข้อความการรับประกัน และการบริการหลังการขายนี้ ต้องระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนในเอกสารต่าง ๆ ของบริษัทที่มีไปถึงผู้บริโภค
4.1.9 เอกสารประกอบการขาย บริษัทต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณประโยชน์ ตลอดจนภาพประกอบของสินค้าตามความเป็นจริงโดยไม่โอ้อวด สรรคุณของสินค้าให้เกิดความเข้าใจผิด แก่ผู้บริโภคโดยเอกสารที่เผยแพร่นั้นต้องระบุชื่อและที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทหรือของผู้ขายตรงไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคติดต่อกลับได้โดยสะดวก
4.1.10 คำอวดอ้าง บริษัทและผู้ขายต้องรักษาจรรยาบรรณและปฏิบัติ ตามกฎหมายบ้านเมือง อย่างเคร่งครัดโดยไม่กล่าวคำอวดอ้างหรือคำยืนยันใดๆ ที่มิได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อความนั้น ๆ ลักษณะที่ไม่เป็นความจริงล้าสมัย ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไปไม่เกี่ยวข้องกับสินค้า ที่นำเสนอ หรือมีลักษณะชี้นำที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด
4.1.11 การเปรียบเทียบและการให้ร้าย ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานนของความยุติธรรมต่อผู้บริโภคผู้ขายตรงและเพื่อร่วมธุรกิจ ผุ้ขายตรงจึงต้องอธิบายคุณลักษณะและคุณประโยชน์ของสินค้าให้ผู้บริโภครับทราบ ด้วยการมีใจเป็นกลาง โดยไม่เปรียบเทียบด้วยการให้ร้ายป้ายสีบริษัทหรือสินค้าใด ๆ อย่างไม่ยุติธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อมและต้องไม่นำชื่อหรือสัญลักษณ์ทางการค้าของสินค้าหรือบริษัทอื่น ๆ เพื่อหาผลประโยชน์อย่างไม่ยุติธรรม
4.1.12 การเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว ผู้ขายตรงต้องเคารพสิทธิของผู้บริโภคและมีมารยาท ในการติดต่อ แนะนำหรือสาธิตสินค้าทั้งด้วยตนเองและทางโทรศัพท์อย่างรู้กาลเทศะ โดยจะติดต่อในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อรักษาสิทธิ ความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคและจะหยุดการแนะนำหรือสาธิตสินค้าทันที เมื่อผู้บริโภคแจ้งให้ทราบ
4.1.13 ความยุติธรรม ความไว้วางใจจากผู้บริโภคคือสิ่งแสดงคุณค่าของการเป็นผู้ขายตรง เพราะการที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจย่อมหมายถึงการได้บริการที่ซื่อสัตย์และจริงใจ ผู้ขายตรง จึงต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สินค้าอย่างถูกต้องตามความเป็นจริงและ ให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยไม่ฉวยโอกาส หาผลประโยชน์ ในทางมิชอบ จากการที่ขาดความรู้และประสบการณ์ของผู้บริโภคไม่ว่าในกรณีใด ๆ
4.1.14 การขายด้วยการขอรายชื่อแนะนำ บริษัทและผู้ขายตรงต้องไม่ใช้วิธีการโน้มน้าว โดยใช้ผลประโยชน์ลวงล่อผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าของตน เช่น การอ้างว่าผู้บริโภคจะได้รับส่วนลด ของแถมหรือผลประโยชน์อื่นใด หากสามารถชักชวนให้ผู้อื่นซื้อสินค้าที่ผู้ขายตรงต้องการเสนอขาย ซึ่งการลดราคาหรือการคืนสินค้าราคาดังกล่าวอาจเป็นเพียงเงื่อนไขที่ไม่สามารถยืนยันหรือรับรองได้ในอนาคต
4.1.15 การส่งมอบสินค้า การตรงต่อเวลาคือคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งของผู้ขายตรง ผู้ขายตรงจึงต้อง ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้บริโภคอย่างครบถ้วนและตรงเวลา อันจะเป็นการสร้างความประทับใจและสัมพันธภาพที่ดีแก่ผู้บริโภคในบริการที่ได้รับ
4.2 จรรณยาบรรณธุรกิจขายตรงโลกระหว่างธุรกิจขายตรงที่เป็นบริษัทสมาชิกและผู้ขายตรง
ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท ที่ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ขายตรง ระหว่าง ผู้ขายตรงและระหว่างบริษัทสมาชิกที่ประกอบธุรกิจขายตรงมีวัตถุประสงค์ เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้ขายตรง เพื่อส่งเสริมการแข่งขันอย่างยุติธรรมในขอบเขตของธุรกิจการค้าเสรี เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงในสายตาของสาธารณชนทั่วไป และเพื่อนำเสนอโอกาสทางอาชีพในวงการธุรกิจขายตรงอย่างมีจริยธรรม
4.2.1 การปฏิบัติของผู้ขายตรงตามบทบัญญัติ บริษัทสมาชิกต้องกำหนดให้ผู้ขายตรง ในสังกัดปฏิบัติตามจรรยาบรรณ หรือระเบียบปฏิบัติของบริษัท ที่สอดคล้องกับมาตรฐานของจรรยาบรรณ เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครอง และสร้างความยุติธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ขายตรงด้วยกันเอง
4.2.2 การชักชวนบุคลากร บริษัทสมาชิกและผู้ขายตรงต้องไม่ชักชวนผู้ใดให้เข้าร่วมธุรกิจกับตน โดยใช้วิธีการลวงล่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ยุติธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม
4.2.3 ข้อมูลทางธุรกิจ บริษัทสมาชิกต้องเสนอข้อมูล ที่เป็นจริง สมบูรณ์ครบถ้วนและถูกต้องแม่นยำ เกี่ยวกับธุรกิจและผลประโยชน์ที่จะได้รับแก่ผู้ขายตรงและผู้สนใจธุรกิจโดยทั่วไป โดยข้อมูลเหล่านั้นต้องยืนยัน ถึงความถูกต้อง ยุติธรรมและมีจรรยาบรรณ ทั้งยังสามารถปฏิบัติให้บังเกิดผลในความเป็นจริง
4.2.4 การอ้างตัวเลขรายได้บริษัทสมาชิกต้องปลูกฝังคุณธรรมและความซื่อสัตย์ แก่ผู้ขายตรงในสังกัด โดยต้องแนะนำมิให้ผู้ขายตรงกล่าวอวดอ้าง ตัวเลขยอดขายเกินความเป็นจริงแก่ผู้อื่น ที่มาของรายได้ที่ผู้ขายตรงจะได้รับต้องตรวจสอบได้และได้มาจากการทุ่มเททำงานหนักอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและจากการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องและจริงจังเท่านั้น
4.2.5 ความสัมพันธ์ บริษัทสมาชิกต้องชี้แจงให้ผู้ขายตรงในสังกัดทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ขายตรงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายตรงกับบริษัทพันธกรณีต่าง ๆ ในทางกฎหมายการขอใบอนุญาตการจดทะเบียนในรูปองค์กร ทางธุรกิจ การชำระภาษีในฐานะ นักธุรกิจขายตรง รวมทั้งจรรยาบรรณ และระเบียบ ปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจอันถือเป็นหัวใจ ของการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและยุติธรรมต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้บริโภค
4.2.6 ค่าธรรมเนียม บริษัทสมาชิกต้องปลูกฝังคุณธรรมในจิตใจของผู้ขายตรงให้มีความเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนร่วมธุรกิจ ด้วยการไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิการเข้าร่วมและการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ในอัตราที่สูงเกินความเป็นจริง
4.2.7 การสิ้นสุดสมาชิกภาพในกรณีที่ผู้ขายตรงประสงค์จะลาออกจากสมาชิกภาพการเป็นผู้ขายตรง บริษัทสมาชิกต้องรับซื้อสินค้าที่อยู่สภาพดี รวมทั้งชุดคู่มือการดำเนินธุรกิจ คืนจากผู้ขายตรงทั้งหมด โดยคืนเงินให้ผู้ขายตรงในราคาที่ซื้อไปและหักค่าดำเนินการไม่เกิน 10% ของราคาซื้อสุทธิรวมทั้งหักยอดรายได้ต่าง ๆ ที่ผู้ขายตรงได้รับซึ่งพิจารณาจากยอดขายเดิมของสินค้าที่ ส่งคืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ขายตรงในการจัดการกับสินค้าในกรณีที่ต้องการเลิกทำธุรกิจ
4.2.8 สินค้าคงคลัง บริษัทสมาชิกต้องไม่ส่งเสริมหรือกระตุ้นให้ผู้ขายตรงสั่งซื้อสินค้าในปริมาณมากเกินกำลังหรือความสามารถ ที่ผู้ขายตรงคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายแก่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะชี้แจงให้ผู้ขายตรงทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณที่พอเหมาะ กับสภาพความเป็นจริงที่จะจำหน่ายได้รวมทั้งตามนโยบายการรับประกันความพอใจและการรับคืนสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ขายตรงไม่ต้องรับภาระมากเกินความจำเป็นในการจัดเก็บและการจัดการเกี่ยวกับสินค้านั้น ๆ
4.2.9 ค่าตอบแทนและระบบบัญชี บริษัทสมาชิกต้องแจ้งยอดบัญชีต่าง ๆ ให้ผู้ขายตรงทราบอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดอายุสมาชิกภาพการเป็นผู้ขายตรง โดยเฉพาะผลตอบแทนที่ ผู้ขายตรงพึงมีพึงได้จากการดำเนินธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นพยายามโดยเป็นไปตามแผนการจ่ายผลตอบแทน ซึ่งบริษัทได้แจ้งให้ทราบตั้งแต่เริ่มสมัครทำธุรกิจและหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทต้องแจ้งให้ผู้ขายตรงทราบ อย่างทั่งถึง รวมทั้งดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายและกำหนดวาระที่ผู้ขายตรงจะต้องเสียภาษี ตามระบบอย่างถูกต้องในฐานะพลเมืองทางธุรกิจที่ดีของสังคมและพลเมืองดีของชาติ
4.2.10 การให้ความรู้และการฝึกอบรม บริษัทสมาชิกต้องให้ความรู้และการฝึกอบรมในรูปแบบต่าง ๆ อย่างพอเพียง เพื่อให้ผู้ขายตรงสามารถดำเนินธุรกิจขายตรงของตนเองได้ อย่างมีคุณธรรมและยุติธรรมต่อผู้บริโภค การให้ความรู้อาจเป็นในรูปของการฝึกอบรม การประชุม การสัมมนา สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กโทรนิกส์หรือโสตทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ
4.2.11 หลักการบริษัทสมาชิกต้องปฏิบัติต่อบริษัทสมาชิกอื่น ๆ อย่างมีความยุติธรรม ในฐานะเพื่อนร่วมธุรกิจที่ดีและไม่เอารัดเอาเปรียบบริษัทสมาชิกอื่น ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
4.2.12 การจูงใจ บริษัทสมาชิกหรือผู้ขายตรงต้องไม่จูงใจหรือชักชวนโดยใช้วิธีการชี้นำในทางที่ผิดลวงล่อหรือไม่ยุติธรรมต่อผู้ขายตรงของบริษัทสมาชิกอื่นๆ
4.2.13 การให้ร้าย ทั้งนี้บริษัทสมาชิกต้องไม่ให้ร้ายหรือปล่อยให้ผู้ขายตรงในสังกัด ใช้วิธีการชี้นำในทางที่ผิดหรือไม่ยุติธรรมและต้องไม่ปล่อยให้ผู้ขายตรงในสังกัดให้ร้ายบริษัทอื่น ๆ ในด้านสินค้า แผนการจ่ายผลตอบแทนหรือลักษณะองค์กรของบริษัทนั้น ๆ โดยไม่ยุติธรรม
4.2 ข้อควรพิจาณาในการประกอบอาชีพด้านธุรกิจขายตรง
ปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากที่ได้ถูกบริษัทขายตรงหลอกลวงและอ้างว่า ได้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำการเสนอแนะ เชิญชวนให้เกิดความสนใจ เมื่อลูกค้าสนใจและจ่ายเงินค่าสมัครมักจะปิดบริษัทไป ดังนั้นประชาชนและผู้บริโภค จึงควรใส่ใจในสิ่งเหล่านี้ไว้เสมอ โดยขอตรวจหลักฐานทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง ซึ่งออกโดยนายทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงกำหนดขึ้น พร้อมพิจารณาว่าเป็นไปตามที่พ.ร.บ.ขายตรงฯ กำหนดไว้หรือไม่และต้องทำธุรกิจขายตรงเพียงธุรกิจเดียวโดยเลือกจากธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายตลอดจนต้องทำความเข้าใจธุรกิจนั้น จนเกิดความศรัทธาอย่างถ่องแท้เสียก่อน
5. ปัจจัยที่ทำให้ตัวแทนขายตรงขาดจรรยาบรรณในวิชาชีพ
5.1 ปัจจัยที่เกิดจากภายใน
5.1.1 ต้องการมีรายได้เพิ่ม ด้วยการนำเสนอขายหรือแนะนำสมาชิกให้มากโดยมิได้คำนึงถึงความถูกต้องหรือความเป็นจริง เช่น การชักชวนหรือแนะนำด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จต่อลูกค้า การนำเสนอสินค้าบริการที่มากกว่าคุณสมบัติของสินค้าที่มีอยู่
5.1.2 ความโลภ เมื่อตัวแทนขายตรงทำงานจนมีรายได้เพิ่ม มักเกิดความพอใจและหากถึงจุดที่มั่นใจมักจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อาจส่งผลกระทบกับความไม่เพียงพอในผลประโยชน์หรือรายได้ ดังนั้นตัวแทนขายตรงจึงควรตั้งตนอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง ดังแนวคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
5.1.3 ขาดความโปร่งใส ตัวแทนขายตรงจะต้องทำงานด้วยพื้นฐานของความจริงใจไม่ว่าต่อลูกค้า ต่อกิจการ ต่อคู่แข่งขันและต่อตนเองด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมาและมีความชัดเจนในการทำงาน ทุกขั้นตอน
5.1.4 ขาดการยับยั้งชั่งใจ ตัวแทนขายตรงต้องทำงานอยู่บนฐานของจิตใจที่ดีและมีสติในการทำงานตลอดเวลา โดยมิให้มีสิ่งใดยั่วเย้าจนเป็นเหตุให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด
5.2 ปัจจัยที่เกิดจากภายนอก
5.2.1 ค่าครองชีพสูงขึ้น จึงเป็นเหตุให้ตัวแทนขายตรงพยายามที่จะเสนอสินค้าและบริการด้วยวิธีการต่าง ๆ อันจะได้มาจนทำให้คุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวดีขึ้น
5.2.2 เกิดการแข่งขันทางการตลาดสูง อันเนื่องมากจากการเติบโตของธุรกิจขายตรงจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นและมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปสู่ภูมิภาคหรือท้องถิ่นในเชิงก้าวกระโดดจึงเป็นเหตุให้เกิดการเข้าสู่ธุรกิจขายตรงของคนจำนวนมาก
5.2.3 การเติบโตของธุรกิจขายตรงที่มีจำนวนมากขึ้น ประกอบกับความมั่นคงและของธุรกิจขายตรงดั้งเดิมยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงและมีการเกิดธุรกิจขายตรงบริษัทใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงอนาคตของธุรกิจขายตรงอีกมากมาย ที่เป็นสาเหตุให้ตัวแทนขายตรงได้เกิดการเปรียบเทียบและย้ายบริษัท
5.2.4 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมักจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเกิดความเปลี่ยนแปลงความคิดและการกระทำ รวมทั้งส่งผลต่อบทบาทของตัวแทนขายตรงที่ต้องการความก้าวหน้ามากขึ้น กระทั่งลืมบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบที่แท้จริงของตัวแทนขายตรง
6. แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจขายตรงในอนาคต
6.1 ด้านแนวโน้มตามกระแสเศรษฐกิจ
สามารถแยกตามลักษณะผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มความต้องการซื้อสูง โดยเรียงลำดับความสำคัญ ดังนี้
6.1.1 ผลิตภัณฑ์ความงาม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องและนับวันจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ความงามช่วยเสริมบุคลิกภาพให้บุคคลทุกเพศและทุกวัย ได้ดูแลตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ ดังนั้นธุรกิจขายตรงจึงมุ่งเน้นการคิดค้น วิจัยและจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดีรวมทั้งมีการคัดสรรมาจากวัตถุดิบจากหลากหลายแหล่งที่มา เพื่อมาผลิตหรือจำหน่ายในรูปแบบ ของเครื่องสำอาง โลชั่นบำรุงผิว และอื่น ๆ มากมายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ ดังจะเห็นได้จากแม้แต่บริษัทกิฟฟารีน ซึ่งดำเนินกิจการธุรกิจขายตรงมานานยังมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
6.1.2 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพในธุรกิจขายตรงยังคงมีการเติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงได้ใช้หลักการที่มุ่งเน้นการนำเอาผลิตภัณฑ์ ในท้องถิ่นหรือสมุนไพรในท้องถิ่นให้เข้ามามีบทบาทและแปรรูปมากขึ้น โดยมุ่งเน้นธรรมชาติบำบัด ในรูปของ น้ำหมักสมุนไพร น้ำดื่มผลไม้ที่มีประโยชน์ในการรักษาหรือชะลอโรคภัยต่าง ๆ ทั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น เช่น บริษัท ยูแคนดู ได้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัฑณ์เครื่องดื่มสมุนไพรโอตอง ทั้งนี้โอตองได้รับรางวัลการวิจัยว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณภาพมีผลดีต่อสุขภาพและร่างกาย เป็นต้น
6.1.3 ผลิตภัณฑ์การเกษตร เนื่องจากธุรกิจขายตรงพยายามเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายในขณะที่เดิมกลุ่มลูกค้าระดับรากหญ้ามิได้เป็นเป้าหมาย จนกระทั่งนักการตลาดขายตรงได้เล็งเห็นการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดไปสู่กลุ่มคนทุกกลุ่ม เช่น ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ซึ่งกลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่มที่ควรจะเป็นลูกค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยตรง เนื่องจากกลุ่มนี้มักจำเป็นต้องใช้ปุ๋ย ใช้ยาบำรุงต้นไม้ พืช ผัก หรือไม้ดอกอยู่เสมอ สินค้ากลุ่มนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ธุรกิจขายตรงต่าง ๆ พยายามแข่งขันกันอีกระดับหนึ่ง รวมถึงมีบริษัทขายตรงที่จำหน่ายสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นควบคู่กันไปกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพอีกจำนวนมาก นับว่าตลาดสินค้าเกษตรในระบบการขายตรงจึงเป็นตลาดที่พร้อมสู่หนทางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงต่อไปในวันข้างหน้า
6.2 แนวโน้มด้านรูปแบบวิถีชีวิต
สามารถแยกตามลักษณะผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มความต้องการซื้อสูง โดยเรียงลำดับความสำคัญ ดังนี้
6.2.1 ผู้หญิงมีบทบาทในครอบครัวและสังคมมากขึ้น ด้วยหน้าที่การทำงาน และความสามารถ การศึกษาที่สูงขึ้นส่งผลให้ผู้หญิงต้องเรียนรู้การปรับตัวและทำงานหารายได้เลี้ยงดูตนเองหรือครอบครัว นอกจากนั้นยังใส่ใจสุขภาพและความสวยงามตนเองมากขึ้น พร้อมกับการยินดีจ่ายเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่สร้างความมั่นใจให้ตนเองมากขึ้น
6.2.1 ค่านิยมของเทคโนโลยีการสื่อสาร เนื่องจากบทบาทและรูปแบบการใช้ชีวิต ของผู้บริโภคปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพา เครื่องมือสื่อสาร อีกทั้งรูปแบบการสื่อสารด้วยระบบดิจิตอล ออนไลน์ การเข้าถึงข้อมูล จึงมักเป็นเรื่องง่ายและสะดวก รวดเร็วมากขึ้น ธุรกิจขายตรงจึงมีการเพิ่มระบบช่องทางการสื่อสารข้อมูลถึงลูกค้าแบบหลากหลายมากขึ้น ทั้งอินเตอร์เน็ตหรือการส่งข้อความทางโทรศัพท์ (SMS) การเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ด้วยการผ่านแอฟต่าง ๆ ในระบบสมาร์ทโฟน เช่น เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม กูเกิลบวก เป็นต้น ทั้งนี้ในอนาคตระบบเครือข่ายการเชื่อมโยงของประเทศไทยจะก้าวหน้าต่อไปในเชิงรุก เนื่องจากมีการติดตามการวางระบบ 3G และระบบ 4G ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในประเทศไทย ซึ่งคาดหมายว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่การสื่อสารจะไร้ขีดจำกัดมากขึ้นภายใน 3-5 ปีข้างหน้าต่อไป
6.2.2 ความสำคัญของเวลา เนื่องจากการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคมักมีความเร่งรีบมากขึ้น ด้วยสภาวะของการเดินทาง ปัญหารถติด ตลอดจนภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลมีมากขึ้น การจับจ่าย การซื้อสิ่งของบริโภค ยังคงต้องการความสะดวกและต้องการสิ่งที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตแบบที่มีความรวดเร็ว ง่ายและมีคุณภาพจึงมากขึ้นเป็นลำดับ
6.3 การพัฒนารูปแบบการกระจายสินค้า บริษัทขายตรงได้มีการเพิ่มหรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการเข้าถึงลูกค้า ผ่านช่องทางและการกระจายร้านค้าทั่วประเทศโดยมีบริษัทเป็นเจ้าของมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความสะดวกให้กับตัวแทนขายตรงและลูกค้าในการซื้อสินค้าหรือเข้าใช้บริการ รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้ร่วมลงทุนเปิดร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าขายตรง เช่น ศูนย์ไลเซนกิฟฟารีน ตลอดจนการเปิดให้ตัวแทนขายตรงเป็นเจ้าของร้าน เป็นการสร้างธุรกิจเครือข่ายในรูปแบบเจ้าของช็อป เช่น นูทรีเมติค์ ยูนิไลฟ์ อาวียองซ์ คังเซนเคนโก เป็นต้น
6.4 การพัฒนาให้สินค้าท้องถิ่นเข้าสู่ธุรกิจขายตรง จัดเป็นการพัฒนาต่อเนื่องในด้านการผลิตและการจำหน่าย อันเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง จัดเป็นการส่งเสริมกลุ่มแม่บ้านในท้องถิ่นหรือที่เรียกว่า ส่งเสริมผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (Otop) ทั้งนี้ผลของการพัฒนาจะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นและยังช่วยลดปัญหาการว่างงาน เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในประเทศได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าการประกอบอาชีพใดก็ตาม หากผู้ประกอบวิชาชีพนั้นปฏิบัติตนให้เป็นไปตามข้อกำหนดหรือตามจรรณยาบรรณของวิชาชีพมักจะส่งผลดีต่ออาชีพหน้าที่การงานและครอบครัว ของบุคคลนั้น สำหรับผู้ประกอบอาชีพขายตรงหากมีจรรณยาบรรณในวิชาชีพการขายตรงแล้ว จะเป็นการส่งเสริมให้ตัวแทนขายตรง ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้ธุรกิจขายตรงนั้น ๆ มีความน่าเชื่อถือและมีภาพลักษณ์ที่ดีในแวดวงธุรกิจขายตรงด้วยกันสืบไป