แนวคิด
กรมการพัฒนาชุมชนแบ่งผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นออกเป็นประเภทต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดหมวดหมู่ ได้อย่างชัดเจน และสะดวกในการดำเนิน โครงการต่างๆ เช่นโครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากด้านการจัดประเภทของผลิตภัณฑ์แล้ว กรมการพัฒนาชุมชน ยังได้ส่งเสริม ให้หมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้านโอทอป เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยหวังให้ชุมชนมีรายได้จากการขายสินค้า หรือให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
สาระการเรียนรู้
1. ประเภทของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
2. หมู่บ้านโอทอป
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับประเภทของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้
2. แสดงความรู้เกี่ยวกับหมู่บ้านโอทอปได้
ประเภทของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดประเภทของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ไว้ดังนี้
1. ประเภทอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตทางการเกษตร และอาหารแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวมีดังนี้
• มาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารและยา (มาตรฐาน อย.) ผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านขั้นตอน การตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่ตั้งและอาคารผลิตรวมถึงเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด นอกจากนี้ยังต้องผ่านในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ภาชนะบรรจุและการแสดงข้อมูลบนฉลากว่าครบถ้วนไม่โอ้อวด หลอกลวง หรือทำให้เข้าใจผิด
• มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) ผลิตภัณฑ์จะต้องมีระบบการผลิตที่ทำให้ เกิดผลผลิตที่ปลอดภัย ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมี สารกำจัดศัตรูพืช จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคกับคน และระบบการผลิตดังกล่าวจะต้องไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
• มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ผลิตภัณฑ์จะต้องมีกระบวนการผลิต อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคเกี่ยวกับอาหารเป็นพิษ หรืออันตรายอื่นๆ
• มาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) ผลิตภัณฑ์จะต้อง ผ่านระบบการจัดการคุณภาพด้านความปลอดภัย กล่าวคือมีกระบวนการผลิตที่ปราศจากอันตรายจาก เชื้อจุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
• เครื่องหมายฮาลาล อาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาลปรากฏอยู่เป็นอาหารที่มีการผลิต หรือไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ ซึ่งชาวมุสลิมสามารถบริโภคได้ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร ประกอบด้วย
1. ผลิตผลทางการเกษตรที่บริโภคสด เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น
2. ผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบ และผ่านกระบวนการแปรรูปเบื้องต้น เช่น ข้าวสาร เนื้อสัตว์บด อาหารประมงสด เป็นต้น
3. อาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป
2.อาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป
2.ประเภทเครื่องดื่ม แบ่งเป็น
2.1 ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ได้แก่ สุราแช่ สุรากลั่น เช่น สาโท อุ ไวน์ เหล้าขาว 35, 40 ดีกรี เป็นต้น
2.2 ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทพร้อมดื่ม ผลิตภัณฑ์ประเภทชงละลาย และผลิตภัณฑ์ประเภทชง เช่น น้ำผลไม้น้ำสมุนไพร ขิงผงสำเร็จรูป มะตูมผง ชาใบหม่อน ชาจีน เป็นต้น
3. ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย หมายถึง ผ้าทอ ผ้าถักจากเส้นใยธรรมชาติ หรือเส้นใยสังเคราะห์ รวมทั้งเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องแต่งกายที่ใช้ประดับตกแต่งประกอบการแต่งกายทั้งเพื่อประโยชน์ ในการใช้สอยและเพื่อความสวยงาม มีรายละเอียด ดังนี้
3.1 ผ้า หมายถึง ผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นที่ทำจากเส้นใย เส้นด้าย นำมาถักทอเป็นผืน มีลวดลาย เกิดจากโครงสร้างการทอ หรือตกแต่งสำเร็จบนผืนผ้า ทำด้วยมือหรือเครื่องจักร รวมถึงผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าเป็นหลัก และมีวัสดุอื่นเป็นองค์ประกอบผสม เช่น ผ้าไหม ผ้าขาวม้า ผ้าคลุมไหล่ ผ้าบาติก เป็นต้น
3.2 เครื่องแต่งกาย หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประดับตกแต่ง ประกอบการแต่งกายที่ทำจาก วัสดุทุกประเภท ทั้งเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย เช่น รองเท้า เข็มขัด กระเป๋าถือ ฯลฯ และเพื่อความสวยงาม เป็น สร้อย แหวน ต่างหู เป็นต้น
4. ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีไว้ใช้หรือตกแต่งประดับ ในบ้าน หรือสถานที่ต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องครัว เครื่องเรือน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้สอย หรือประดับตกแต่ง หรือให้เป็นของขวัญ เพื่อให้ผู้รับนำไปใช้สอยในบ้าน ตกแต่งบ้าน รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมท้องถิ่น และผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องไม่ผลิตโดยเครื่องจักร เป็นหลัก และใช้แรงงานคนเป็นส่วนเสริม หรือไม่ใช้แรงงานคนเลย แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้
4.1 ไม้ เป็นของใช้ ของตกแต่ง/ของที่ระลึก ที่มีวัสดุที่ทำจากไม้เป็นหลัก เช่น เฟอร์นิเจอร์ ไม้แกะสลัก กล่องไม้ เป็นต้น
4.2 จักสาน ถักสาน เป็นของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก ที่มีวัสดุเป็นเส้นใยธรรมชาติ หรือวัสดุสังเคราะห์ใด ๆ เช่น พลาสติก การนำพลาสติกมาถักทอเป็นตะกร้า การทำเสื่อกก การทำที่รองจานจากเสื่อกก เป็นต้น
4.3 ดอกไม้ประดิษฐ์/วัสดุเส้นใยจากธรรมชาติ หมายถึง ตอกไม้ ต้นไม้ กล้วยไม้ ผลไม้ที่ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ แต่ทำจากวัสดุต่าง ๆ เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ และ/หรือผลิตภัณฑ์ประเภท ของใช้ ของตกแต่ง/ของที่ระลึก ที่มีวัสดุทำจากกระดาษสาเป็นหลัก เช่น ถุงกระดาษ กล่องกระดาษสา ต้นไม้ประดิษฐ์ ผลไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น
4.4 โลหะ เป็นของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก ที่ทำจากโลหะต่าง ๆ เช่น เงิน ทองเหลือง ดีบุก สแตนเลส ทอง สังกะสี เป็นต้น เป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ข้อนส้อม มีด ผลิตภัณฑ์ภาชนะที่ใช้โลหะ ภาชนะที่ทำจากสแตนเลสทุบ ทองเหลืองทุบ พิวเตอร์บรอนซ์แกะสลักที่ใช้ตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น
4.5 เซรามิก/เครื่องปั้นดินเผา เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการนำวัสดุประสาทดิน ในแว้ไปขึ้นรูป และนำไปเผาด้วยความร้อนสูง เพื่อเป็นภาชนะ ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก เช่น เบญจรงค์ ด้วยสาม ภาชนะกระเบื้อง เซรามิก โอ่ง อ่าง กระถางต่าง ๆ เป็นต้น
4.6 เคหะสิ่งทอ เป็นของใช้/ ของตกแต่ง / ของที่ระลึก ที่ทำจากผ้ามาตัดเย็บ เช่น ชุดเครื่องนอน พรมเช็ดเท้า ผ้าปูโต๊ะ เป็นต้น
4.7 อื่น ๆ เป็นของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้ในวัสดุอื่นได้ นอกเหนือจากข้อ 4.1 - 4.6 เช่น ทำจากพลาสติก เรซิน แก้ว เทียน รูปวาด เปเปอร์มาเช่น กระจก ซีเมนต์) เป็นต้น
5. ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ อ้างใช้ประโยชน์ และอาจส่งผลต่อสุขภาพ ได้แก่ ยาจากสมุนไพร เครื่องสำอางสมุนไพร วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน เช่น น้ำยาล้างจานสมุนไพร สมุนไพรไล่หรือกำจัดแมลง รวมถึงสมุนไพร ที่ใช้ทางการเกษตร สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
5.1 ยาจากสมุนไพร
5.2 เครื่องสำอางสมุนไพร
5.3 วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน
หมู่บ้านโอทอป
กรมการพัฒนาชุมชนมีการดำเนินการโครงการหมู่บ้านโอทอปเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าท่องเที่ยวพร้อมกับเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน
กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดให้มีการประกวดหมู่บ้าน OVC (OTOP Village Champion และดำเนินการพัฒนาต่อยอดหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว ส่งเสริมหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ พัฒนาให้สามารถรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชม ใช้จ่ายในหมู่บ้าน ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น และอยากกลับมาเที่ยวซ้ำอีก
การส่งเสริมให้หมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้านโอทอป เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยการจัด ประกวดหมู่บ้าน OTOP Village Champion นั้น ใช้ 4 P เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
ตัวอย่างหมู่บ้านโอทอป
บ้านนกขะบา อยู่ในเขตพื้นที่ทะเลบัวแดง แหล่งน้าจืดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้าจำนวนมาก นักท่องเที่ยวมักนิยมไปท่องเที่ยวช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เนื่องจาก เป็นช่วงที่ดอกบัวแดงออกดอก และมีปริมาณมากที่สุด ดอกบัวจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ช่วงตอกบัวบาน นักท่องเที่ยวจะมองเห็นดอกบัวบานเต็มท้องนาหนองหานซึ่งมีความงดงามมาก
จุดเด่นของหมู่บ้าน ประชาชนในหมู่บ้านดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำสวน ปลูกผัก มีธรรมชาติที่งดงาม และมีความบริสุทธิ์ของลำห้วย โพนไพร ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของห้วยโพนไพร ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชุมชน บ้านขะบา
ผลิตภัณฑ์เด่น ประชากรในหมู่บ้านนี้ นอกจากจะประกอบอาชีพเกษตรกรแล้ว ยังมีฝีมือ ด้านการจักสาน ทำให้มีผลิตภัณฑ์เด่นเป็นที่รู้จักทั่วไป ดังนี้
1. เครื่องจักสาน เช่น ไซดักปลา ข้องใส่ปลา ต้มดักปลา เป็นต้น เครื่องจักสานเป็นภูมิปัญญา ชาวบ้านที่สืบทอดกันมายาวนาน จากวิถีชีวิตชาวประมงฝั่งหนองหาน มีการคิดหาเครื่องมือสำหรับหาปลา ทำจากไม้ไผ่ซึ่งมีอยู่มากมายในชุมชน มาประยุกต์ใช้กับภูมิปัญญาท้องถิ่น เกิดเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ใน การดำรงชีวิต พัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพเสริมในครัวเรือน และรวมตัวเป็นกลุ่มอาชีพสร้างรายได้ให้กับสมาชิก
2. ผ้าฝ้ายทอมือลายบัวแดง แต่ก่อนชาวบ้านทอเพื่อใช้เองในครัวเรือน และมีการจำหน่าย เพื่อเป็นรายได้เสริม ภายหลังกลุ่มทอผ้าบ้านนกขะบามีการประยุกต์ลายผ้าให้เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน เรียกว่า “ผ้าลายบัวแดง”
3. เสื่อกก มีความละเอียด ลวดลายประณีต สวยงาม มีความคงทน
แหล่งท่องเที่ยว บ้านนกขะบา มีแหล่งท่องเที่ยว ดังนี้
1. ลานวัฒนธรรม กิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ รับประทานอาหารพาแลง
2. ศูนย์เรียนรู้ชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
3. แปลงดำนา ลองดำนากับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนาชนบท
4. ตลาดน้ำและแพอาหารพื้นบ้าน
ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ประเพณีบุญบั้งไฟเป็นประเพณีที่ชาวบ้านเชื่อว่า - หากมีการจัดงานบุญประเพณีบั้งไฟแล้ว ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล เกิดความอุดมสมบูรณ์ จึงต้องจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งชาวบ้านให้ความสำคัญมาก ชาวบ้านที่เดินทางไปทำงาน หรือไปอยู่ที่ต่าง ๆ มักจะกลับบ้าน เพื่อเข้าร่วมงาน ประเพณีบุญบั้งไฟจึงช่วยก่อให้เกิดความสามัคคีอีกด้วย
บ้านท่าเรือ เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เป็นหมู่บ้านตั้งเดิม
ที่สืบเนื่องจากวิถีชีวิตตั้งเดิมของชาวท่าเรือ คือในช่วงฤดูฝนมีน้ามาก และไหลเชื่อมโยงกันในแม่น้าต่าง ๆ เรือพ่วงขนาดใหญ่บรรทุกสินค้ามาและจอดเทียบฝั่งเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้ากันทุกปี หมู่บ้านนี้จึงเปรียบเสมือน เมืองท่าของพ่อค้านำสินค้าต่าง ๆ มาแลกข้าวกับชาวท่าเรือซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวที่อุดมสมบูรณ์
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ชาวบ้านท่าเรือใช้ชีวิตตามวิถีแห่งภูมิปัญญา และวัฒนธรรม ท้องถิ่นสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีการรวมกลุ่มกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาในเรื่องการทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน เป็นแหล่งผลิตเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้รับฉายาว่า “หมู่บ้านแห่งเสียงดนตรี” เครื่องดนตรีที่ทำ ได้แก่ แคน พิณ โหวด โปงลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างคุณค่า และสร้างรายได้แก่ชุมชน อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการทอผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ ประณีต มีลวดลายพื้นบ้าน ประชาชน ชาวบ้านท่าเรือได้รับการถ่ายทอดให้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนเป็นอย่างดี
ผลิตภัณฑ์เด่น หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับฉายาว่า “หมู่บ้านแห่งเสียงดนตรี” ตั้งแต่บรรพบุรุษชาวบ้าน
แทบทุกครัวเรือนมีชีวิตผูกพันกับดนตรีพื้นบ้านอีสาน ทั้งแคน พิณ โหวด และโปงลาง ชาวบ้านแทบทุก ครัวเรือนประกอบอาชีพทำเครื่องดนตรี และยังมีการปลูกฝังให้ลูกหลานมีสำนึกของการอนุรักษ์ ร่วมสืบสาน วัฒนธรรมพื้นบ้านแห่งเสียงดนตรี โดยมีการเปิดโรงเรียนหมอแคนด้วย
นอกจากนี้ผู้หญิงชาวท่าเรือยังสืบทอดภูมิปัญญาในการมัดลาย ย้อมสี และสอดประสานเส้นไหม เป็นลวดลายต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ลายของผ้าไหมบ้านท่าเรือมีลักษณะเฉพาะที่สวยงาม และได้รับ ความนิยมจากท้องตลาดเป็นอย่างดี ดนตรีพื้นบ้านและผ้าไหมได้รับการพัฒนายกระดับคุณภาพกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าที่ดีที่สุด และยอดเยี่ยมที่สุด
แหล่งท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวบ้านท่าเรือ มีดังนี้
1. แหล่งท่องเที่ยวของชุมชนที่สำคัญ ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม แหล่งผลิตเครื่องดนตรีอีสาน พิณ แคน โหวด โปงลาง
กลุ่มหัตถกรรมผ้าไหม
2. ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชน ได้แก่ การจัดงานบุญประเพณีทุกปี คือบุญเดือนสี่ แห่พระเวสสันดร บุญประทายข้าวเปลือก นอกจากนี้ยังมีประเพณีวันเสียงแคนดัง ประเพณีงานสวนแตง และชาวบ้านท่าเรือยังมีความเชื่อเรื่องปู่ตา ป่าศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน
บ้านหม้อ ตั้งอยู่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านมีเชื้อสายมาจากไทพวน จากเมืองเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งอพยพเข้ามาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ชื่อหมู่บ้านว่าบ้านหม้อ เนื่องจากที่ในหมู่บ้านมีช่างปั้นหม้อดินขาย โดยมี “ทิตหม้อ” เป็นหัวหน้า จึงได้ชื่อว่าบ้านหม้อ
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน บ้านหม้อมีทิศเหนือติดแม่น้ำโขงกันกับประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ยาวตามแม่น้ำโขง ทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีจุดผ่อนปรนชั่วคราว ตรงข้ามนครหลวงเวียงจันทน์ จึงทำให้สามารถข้ามไปท่องเที่ยวในนครเวียงจันทน์ได้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ มีอาชีพเกษตรกร ทำนาปรัง ทำไร่ข้าวโพด ปลูกยาสบ และปลูกสับปะรด ซึ่งสับปะรดทำรายได้ให้กับ หมู่บ้านเป็นอย่างมาก
ผลิตภัณฑ์เด่น ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน ได้แก่ ปลาส้ม ปลาร้าหมัก ปลายอ ปลาส้มตัด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 4 ดาว ที่ผู้บริโภคทั่วไปซื้อเพื่อการบริโภคและเป็นของฝาก
ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่น่าสนใจ ชาวบ้านหม้อ เน้นการดำรงชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้อาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์แปรรูปปลา แปรรูปสับปะรด และทำสมุนไพร ประเพณีและวัฒนธรรม ที่น่าสนใจของบ้านหม้อ ได้แก่ ประเพณีแข่งเรือ และไหลเรือไฟในเทศกาลบุญออกพรรษา ประเพณีเลี้ยงบ้าน ประเพณีบุญมหาชาติ
แหล่งท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยม ได้แก่ วัดอรัญบรรพต วัดหอนหมากเป้ง ดอนเชิงชู้ หาดทรายสีทอง และจุดผ่อนปรนไทย – ลาว
บ้านหัวนายูง เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดเลย ที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความศรัทธา จนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากที่อื่นในอดีตบ้านหัวนายูงเป็นป่าไม้ที่ มีหนองน้ำขนาดใหญ่ ชื่อว่า “หนองใหญ่” มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ที่เด่นกว่าพื้นที่อื่น คือนกยูงป่า เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่เป็นที่ราบ ทำให้มีผู้คนอพยพเข้ามาทำนา และตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้
หัวนายง มาจากการผสมของคำว่า หัวนา หมายถึงที่ตั้งต้นของทุ่งนา และยูง หมายถึง นกยูง ดังนั้นบ้านหัวนายูง จึงหมายถึงหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณที่นกยูงลงมากินข้าวในนา
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ชาวบ้านหัวนายูง มีการใช้ชีวิตตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการพูดภาษาไทยเลย การแต่งกายพื้นบ้านสมัยนิยม และที่สำคัญชาวบ้านมีความสัมพันธ์ มีความเป็นอยู่กันอย่างพี่น้อง
ผลิตภัณฑ์เด่น ผลิตภัณฑ์เด่นของบ้านหัวนายง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกผีตาโขน
แหล่งท่องเที่ยว มีดังนี้
1. พระธาตุศรีสองรัก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระหว่าง กรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์ จะมีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะทิเบตด้วย
2. วัดเนรมิตวิปัสสนา เป็นวัดที่มีความสวยงาม เพราะพระอุโบสถทำมาจากศิลาแลง ภายในอุโบสถมีพระพุทธชินราชจำลอง และที่เป็นเอกลักษณ์คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังกวาด ซึ่งเป็นฝีมือของช่างเขียนอำเภอด่าน
3. น้ำตกแก่งสองคอน ลักษณะของน้าตก เป็นธารน้ากว้างไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อยมากมาย ลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวครึมทั่วบริเวณ มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน
บ้านทับลาน เป็นหมู่บ้านหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี มีสภาพอากาศดี เหมาะกับ การท่องเที่ยวและพักผ่อน ตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านป่าไม้ตามพระราชดำริ บริเวณริมถนนสาย 304 มีการคมนาคมที่สะดวก บ้านทับลานเป็นพื้นที่ที่ประชากรจากภาคตะวันออกเฉียงเหนืออพยพมาตั้งถิ่นฐาน เนื่องจาก เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชื่อหมู่บ้านทับลาน เนื่องมาจากบริเวณนี้มีต้นลานเป็นจำนวนมาก และต้นลานเหล่านี้ถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย จนสร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านทับลาน เป็นอย่างมาก
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ความหลากหลายของผู้คนที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ บ้านทับลานจึงมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรม เช่น ภาษาพูด ที่ประกอบด้วยภาษากลาง และภาษาอีสาน การใช้ชีวิตของประชากรเป็นไปตามวิถีของชาวพุทธ ชุมชนเป็นชุมชนเกษตรกรรม เน้นการทำเกษตรอินทรีย์ ทั้งทำนา ทำสวนทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ มีการจักสานเป็นอาชีพเสริม มีผลิตภัณฑ์จากลานที่มีคุณภาพ สวยงาม จำหน่ายในประเทศ และยังส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เด่น ผลิตภัณฑ์เด่นของบ้านทับลาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จักสานใบลาน ประเภทกระเป๋า หมวก ตะกร้า โคมไฟ เป็นต้น
ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่น่าสนใจ ได้แก่ ประเพณีสงกรานต์ เชิงใบลาน วิถีชีวิตชุมชน ในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ และศูนย์การพัฒนาชุมชนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บ้านหัวเขาจีน ตั้งอยู่ที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นถิ่นที่อยู่ของชนชาติหนึ่งเรียกว่า " ไทยทรงดำ” ซึ่งชาวไทยทรงดำได้อพยพถิ่นฐานมาจากแดนไกล และเข้ามาจับจองพื้นที่ส่วนหนึ่ง ที่อยู่ใต้สุดของอำเภอปากท่อ ซึ่งขณะนั้นสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม ที่เป็นผืนป่า หนองน้ำ และภูเขา ซึ่งยังไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จึงได้ตั้งหลักปักฐาน ณ บริเวณนี้ ส่วนที่มาของชื่อหมู่บ้านมีการเล่าสืบต่อกันมาว่า บ้านหัวเขาจีนในอดีตจะมีทะเลล้อมรอบและได้มีพ่อค้าชาวจีนน้ำเรือสำเภามาซื้อขายและแลกเปลี่ยน สินค้าบริเวณนี้ แต่ได้เกิดอุบัติเหตุเรือสำเภาแตก หัวเรือมาติดอยู่กับภูเขา จึงเรียกว่า หัวเขาจีน ต่อมาได้ใช้เป็นชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหัวเขาจีน” จนถึงปัจจุบัน
อัตลักษณ์ความงามแห่งชุมชน ชาวบ้านหัวเขาจีนมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวไทยทรงดำ รักษาและอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมและการประกอบอาชีพไว้อย่างเหนียวแน่น จนได้รับการคัดเลือก ให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดราชบุรี
ผลิตภัณฑ์เด่น บ้านหัวเขาจีน มีผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ ผ้าขาวม้าทอมือ และผ้าซิ่นลายแตงโม
ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ได้แก่ การเรียกขวัญ การเยื้อง (การทำนาย) การกินดอง (การแต่งงาน) การปาดตง (เลี้ยงข้าวใหม่ต้นฤดูเก็บเกี่ยว) การเสนเรือน (การเซ่นไหว้ผีเรือน) การเล่นกลอน การรื่นเริงช่วงตรุษไทย สงกรานต์ การเอ๊ดเวียะลาง (การทำงานศพ) วัฒนธรรมการแต่งงาน และการทอผ้าพื้นเมืองลายแตงไทย
แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมไทยทรงดำ กลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าไทยทรงดำ และศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
บ้านดอน ตั้งอยู่ที่ในพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดอยผ้าห่มปกซึ่งสูงเป็นอันดับสองของประเทศไทย
บ้านดอนเป็นหมู่บ้านวิถีชีวิตเกษตรกรรมแห่งขุนเขา มีสายลมหนาวตลอดปี มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเดินป่าศึกษาเส้นทางดอยผ้าห่มปก เส้นทางการบินของนก (Fly Way) 1 ใน 8 ของโลก หรือ แช่ตัวกับน้ำพร้อนจากธรรมชาติ นอกจากนี้บ้านดอนยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกับหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีก 2 หมู่บ้าน คือ บ้านยาง และบ้านนอแล จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำริที่มีความงดงาม และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่สร้างความสุข นอกจากนี้บ้านดอนยังจัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ 365 วัน
ผลิตภัณฑ์เด่น ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน ได้แก่ ไม้กวาดดอกหญ้า ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเจียวกู่หลาน ผลิตภัณฑ์ถั่วเน่าแผ่น และผลิตภัณฑ์สบู่ ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิวจากแร่
ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ได้แก่ ประเพณีการบริหารจัดการน้าระบบ แก่เหมือง ฝ่าย
แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ โป่งน้ำร้อนธรรมชาติดอยผ้าห่มปก เส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้านท่องเที่ยว ตามแนวพระราชดำริ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยผ้าห่มปก และซมเส้นทางการบินของนก (Fly day) 1 ใน 8 ของโลก
บ้านแม่ปิง เป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาติพันธ์ ปกาเกอญอ หรือชาวกะเหรี่ยง มีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนเอง ปัจจุบันมีชาวปกาเก่อญอ อาศัยอยู่จำนวน 229 ครัวเรือน รวมประชากรทั้งสิ้น 893 คน นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสเตียน และมีหย่อมบ้าน 2 หย่อมบ้าน คือ บ้านห้วยหวาย (ซาติพันธุ์ลาหู่) และบ้านแม่ยะน้อย (ชาติพันธุ์ลีซู)
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน อัตลักษณ์ที่สำคัญของคนในหมู่บ้าน ได้แก่ การแต่งกาย ชาวปกาเก่อญอ ผู้ชายแต่งกายด้วย เชคอ (เสื้อแดง) เป็นเสื้อผ้าทอกะเหรียง ลักษณะสีแดง ทอออกลวดลายสวยงาม มักใส่คู่กับกางเกงสะดอ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่งกายด้วย เซซู หรือเซเบอะ เป็นเสื้อทอกะเหรี่ยงพื้นดำประดับลวดลายด้วยลูกเดือย ตามความเชื่อว่า ลูกเดือยทำให้ชีวิตราบรื่นและ สงบสุข มักจะใส่คู่กับผ้าถุงทอกะเหรี่ยงสีแดงมีลวดลายสวยงาม ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานแต่งกายด้วย เซกวา (ชุดขาว) เป็นชุดยาวสีขาวมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ของปกาเก่อญอ บริเวณแถบข้างล่างสวยงาม และการใส่ชุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของสาวบริสุทธิ์ นอกจากนี้ ผู้หญิงปกาเก่อญอ ยังนิยมร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ ทำเป็นเครื่องประดับ และมีผ้าโพกหัวสีขาวทอลวดลาย สวยงามด้วย
ผลิตภัณฑ์เด่น ชาวบ้านแม่ปิงมีภูมิปัญญาด้านการทอผ้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องนุ่งห่ม ใช้เองในครอบครัว และมีการพัฒนาจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ ผ้าทอจากสีธรรมชาติ ย่ามใส่ของ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อลูกเดือย (เสื้อแม่บ้านกะเหรี่ยง) ผ้าห่มทอจากฝ้าย เสื้อเชกวา (ชุดขาว เสื้อเชคอ (เสื้อแดง)
ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ชาวบ้านแม่ปิงนับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ในวันสำคัญต่าง ๆ จะมีการทำกิจกรรมที่แสดงถึงความสามัคคี และความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ประเพณีที่ เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจของชาวปกาเก่อญอ ได้แก่ ประเพณีมัดมือ ซึ่งจัดปีละครั้งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม เป็นการมัดมือครอบครัว เพื่อขอพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน เชื่อว่าเป็นการขอขมาและขอพร เพื่อเสริมให้ชีวิตและการงานรุ่งเรือง
ประเพณีลื่อหอผี (เลี้ยงผีบ้าน) ทำปีละ 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 จะเลี้ยงด้วยไก่ ส่วนครั้งที่ 2 เลี้ยงด้วยหมู เฉพาะผู้ชายที่สามารถเข้าทำพิธีนี้) เป็นพิธีกรรมที่เชื่อว่าเป็นการเลี้ยงผีบ้านผีเรือน หรือเจ้าที่ที่คุ้มครอง หมู่บ้านให้ชาวบ้านอยู่อย่างสงบสุข
แหล่งท่องเที่ยว จากหมู่บ้านแม่ปิง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ของอำเภอปายได้ทุกที่ ได้แก่ สะพานประวัติศาสตร์ โป่งน้ำร้อน แคมป์ช้าง ดอยกองเลน วัดพระธาตุแม่เย็น แผ่นดินแยกบ้านแพมกลาง ถนนคนเดิน อุทยานห้วยน้ำดัง
บ้านโคกไคร เป็นหนึ่งในหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านที่มีความน่าสนใจ วิถีชาวบ้านยึดอาชีพประมงพื้นบ้าน และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหลักในการดำรงชีวิต ที่มาของชื่อหมู่บ้าน “โคก” หมายถึง พื้นที่สูงหรือเนินสูง พื้นที่ของหมู่บ้านติดทะเล เมื่อนาลดจะเห็นพื้นที่สูงเหนือระดับ ฟ้าทะเลมาก “ใคร” เกิดจากคนในหมู่บ้านมักปลูกพืชสวนครัวเพื่อใช้ในครัวเรือน โดยเฉพาะต้นตะไคร์ แต่ต้นตะไคร้ที่ปลูก เป็นต้นตะไคร้กูด มีลำต้นใหญ่และสูง นิยมนำใบไปใช้ใส่ท้องแพะเพื่อดับกลิ่น คนในหมู่บ้านเรียกต้นตะไคร้ว่า “ไคร” จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านว่า “โคกไคร”
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ชาวบ้านโคกไคร มีวิถีชีวิตและชุมชนที่เข้มแข็ง มีทรัพยากรที่สมบูรณ์ ยึดหลักการผลิตที่พึ่งพา มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนสังคมมีความเข้าใจกัน มีปราชญ์หรือองค์ความรู้ มีทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนา นอกจากนี้ยังมีกฎกติกาในการจัดการ เพื่อการทำงานจัดการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว มีการกระจายผลประโยชน์ รวมถึงมีกองทุนที่เอื้อ ประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน มีระบบจัดการให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกัน บ้านโคกไครมีธรรมชาติที่งดงาม หลากหลาย ได้แก่ ถ้าที่สวยงาม หินงอกหินย้อย ป่าโกงกางที่สมบูรณ์ รวมทั้งมีสมุนไพรป่าชายเลน และสัตว์น้ำนานาชนิด ทําให้มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ
ผลิตภัณฑ์เด่น จากวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง มีการออกหาปู ปลา - กุ้ง ชาวบ้านได้นำสัตว์น้ำเหล่านั้นมาแปรรูปเป็นอาหาร เช่น กุ้งย่างทรัพย์สมุทร (กุ้งเสียบ) กะปิตำมือ ปลาเชียง และปลารมควัน
ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ได้แก่ พิธีกรรมทางศาสนา เช่น การละหมาดในมัสยิด เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวของชุมชน มีดังนี้
1. หาดทรายร้อน หรือหาดน้าร้อน เกิดจากรอยแยกของเปลือกโลก เมื่อระดับน้ำทะเลลดลง ทำให้เกิดน้ำทะเลร้อน ทรายร้อน และโคลนร้อน ชาวบ้านในพื้นที่ใช้บำบัดโรคเหน็บชา ปวดเมื่อย บริเวณหาดทรายร้อนในช่วงเช้า จะพบหมอกควันสีขาวอยู่รายรอบบริเวณหาด
2. หาดตั้งเลน เป็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ทอดยาวอยู่กลางทะเล ช่วงน้ำทะเลลดจะพบ ทัศนียภาพที่งดงาม เป็นพื้นที่ของปูมดแดง นับแสนตัว
ออกมาให้ชมอย่างใกล้ชิด
3. ดอนหอยตลับ หรือหอยปากหนา ชาวบ้านนำหอยตลับนี้มาต้มตะไคร้ หรือผัดน้ำพริกเผา หรือนำมาทำหอยดองหรือหอยเปรี้ยว ขายให้แก่
นักท่องเที่ยว ทำให้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเก็บหรืองมหอยตลับได้ด้วยตนเอง
บ้านท้ายเสาะ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ ติดกับทะเลสาบสงขลา มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีทรัพยากรสัตว์น้ำเป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับการทำประมงชายฝั่ง เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
ด้วยสภาพที่ตั้งเป็นหมู่บ้านท้ายเกาะ ชาวบ้านจึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านท้ายเสาะ” และได้รับ การจัดตั้งจากกรมพัฒนาชุมชนให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา เมื่อปี พ.ศ.2552
ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน ชาวบ้านท้ายเสาะได้รับการพัฒนาศักยภาพในการประกอบ อาชีพประมง เพื่อดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง และยอมรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้น โดยยังคงดำเนินวิถีชีวิตความสัมพันธ์ทางชุมชนแบบเครือญาติ และเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
ผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ ผ้าเกาะยอ และผลไม้ตามฤดูกาล
ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ชาวบ้านมักทำกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วิสาขบชา เข้าพรรษา ออกพรรษา รวมถึงประเพณีและเทศกาลต่าง ๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง ลากพระ และบุญเดือนสิบ เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยว มีดังนี้
1. วัดท้ายยอ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะ จุดเด่นมีกุฏิเรือนไทยปั้นหยา ที่สร้างด้วยไม้ ทรวดทรงสวยงาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาเกาะยอ ตัวเสาเรือนสร้างแบบภาคใต้โบราณ คือไม่ฝังลงดิน แต่จะใช้วิธีตั้งเสาไม้อยู่บนฐานปูน นับเป็นความสวยงามที่หาชมได้ยาก
2. เจดีย์สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะยอ