หัวข้อเรื่อง
ความหมายของการบริหารเวลา
วิธีการวางแผนเกี่ยวกับการบริหารเวลา
ประโยชน์ในการใช้เวลากับการขายตรง
หลักการทำงานของตัวแทนขายตรงที่ดี
หลักการบริหารเวลาสำหรับการขายตรงที่มีประสิทธิภาพ
สาระสำคัญ
การทำอาชีพขายตรงเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ในเวลาว่างจากงานประจำ ซึ่งไม่จำกัดว่าจะทำ ในช่วงเวลาใด ในขณะที่ผู้ประกอบอาชีพการขายตรงจะต้องทราบว่าหากต้องทำงานอาชีพนี้ จะต้องมีการบริหารเวลาให้เหมาะสม ซึ่งอาจมิได้คำนึงแค่เพียงตนเองเท่านั้นแต่ต้องคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลักในการจัดการบริหารเวลาในการขายตรง จึงต้องทำให้กระบวนการต่าง ๆ ของการเข้าพบลูกค้า เป็นไปได้อย่างลงตัวและประสบผลสำเร็จภายในเวลาที่ลงตัว ดังนั้นตัวแทนขายตรงทุกคนจะต้องคิดหาวิธีการหรือมีหลักปฏิบัติในการทำงานที่ดี โดยรู้จักการทำงานอย่างมีระบบ ระเบียบ แบบแผนที่เหมาะสมกับตนเองและมีประสิทธิภาพ
1. ความหมายและความสำคัญของการบริหารเวลา
1.1 ความหมายของการบริหารเวลา
การทำงานในทุกอาชีพมีเวลาเป็นเครื่องกำหนดในการทำงาน หากทุกคนสามารถบริหารตนเองให้ได้ตรงตามเวลาย่อมหมายถึง การสามารถบริหารจัดการตนเองได้ดีและยังส่งผลให้การปฏิบัติงานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้
การบริหารเวลา (Time administered) หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้การปฏิบัติงานประจำของแต่ละบุคคลที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของงานนั้น และได้รับความสำเร็จของงานตรงตามที่วางเป้าหมายไว้ (ภัทรานิษฐ์ วงศ์แก้ว, 25551 : 90)
การบริหารเวลา (Time administered) หมายถึง การทำสิ่งต่าง ๆ ในหน้าที่ให้บรรลุตามกรอบงานภายในระยะเวลาที่กำหนดและยังปฏิบัติกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้พอจะสรุปลักษณะ
1.2 ความสําคัญของเวลา ประกอบด้วย
1.2.1 เวลาช่วยให้มนุษย์ทุกคนได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น มีระบบ ระเบียบ แบบแผนแตกต่างกันไปองค์ประกอบส่วนหนึ่งของการบริหารเวลา มาจากการใช้เทคนิควิธีการหรือทักษะของแต่ละบุคคล
1.2.2 เวลาจัดให้เรื่องสําคัญมากขึ้น ตัวแทนขายตรงที่เป็นนักบริหารเวลามักจะไม่พลาดในการให้เวลากับภาระงานสำคัญอันเป็นกิจวัตรประจำวัน ส่วนอื่น ๆ แม้จะเป็นเพียงงานเล็ก ๆ ก็ต้องนำเข้าสู่ตารางเวลา เพื่อจะทำให้ผู้ต้องทำหน้าที่งานต่าง ๆ ทราบถึงจุดหมายปลายทางของงานที่ทำ
1.2.3 เวลาเป็นสิ่งเปลี่ยนแปลงให้เกิดความสมดุลในชีวิต ตัวแทนขายตรงต้องมีทักษะและมีหลักการบริหารเวลา เพื่อให้หน้าที่ตนเองที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าเรื่อง การงาน การเงิน ครอบครัวมีความลงตัว เพราะตัวแทนขายตรงส่วนมากไม่ได้ยืดอาชีพขายตรงเป็นหลัก ดังนั้นการจัดการเรื่องเวลาจึงเป็นหน้าที่ที่ตัวแทนขายตรงจะต้องวางแผนให้ได้เป็นอย่างดี
1.2.4 เวลาที่ต้องสร้างความสุขในการดำเนินชีวิต หลายคนที่เป็นตัวแทนขายตรงบริหารเวลางานหลักได้ แต่เมื่อต้องมาทำอาชีพขายตรงเป็นอาชีพเสริมหากทุ่มเทมาก อาจมีผลกระทบต่องานประจำซึ่งถือได้ว่าเป็นการบริหารที่ไม่ลงตัว และอาจทำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนได้
1.2.5 เวลาส่งเสริมให้ชีวิตบรรลุเป้าหมาย ตัวแทนขายตรงทุกคนจะต้องเชื่อว่าในการทำงานอย่างมีเป้าหมายอย่างไรก็สำเร็จไปแล้วครึ่ง ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าตัวแทนขายตรงเป็นนักบริหารเวลาที่ดีเพียงใด ทั้งนี้จะต้องทราบจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของตนเองเสมอเพื่อมิการทำงานเกิดการผิดพลาดได้
จะเห็นได้ว่าการบริหารเวลาให้ได้ก็เหมือนการบริหารชีวิตให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวแทนขายตรงทุกคนจะต้องตระหนักในการทำงานก่อนเสมอในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน เพราะทั้งหมดอาจหมายถึง ปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าที่ทุกคนต้องดำเนินงานต่อไปในหน้าที่ที่แตกต่างกัน
จากความหมายและความสําคัญของการบริหารเวลา สรุปได้ว่า การบริหารเวลา หมายถึง การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการทำงานให้มีระบบ ต่อเนื่องและวัดประสิทธิภาพการทำงานได้ว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่โดยพิจารณาจากผลของงานกับเวลามีความสัมพันธ์กันเพียงใด
1.3 ข้อดีของการทำงานแบบบริหารเวลาให้เป็นระบบ มีดังนี้
1.3.1 ทำให้การทำงานมีความชัดเจน เป็นระบบช่วยลดความกังวลในการทำงาน
1.3.2 ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำงานหรือการเดินทาง
1.3.3 ประหยัดเวลาในการทำงานและยังได้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น
1.3.4 งานบรรลุวัตถุประสงค์เพราะทำตามแผนงานที่กำหนดไว้
1.3.5 สามารถตรวจเช็คขั้นตอนการทำงานได้ทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
1.4 สาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียเวลาของตัวแทนขายตรง
1.4.1 สาเหตุจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบต่อการทำงาน เช่น พาหนะเสียระหว่างทาง โทรศัพท์เข้ากะทันหัน ลูกค้าเลื่อนนัด ไม่สบาย อุปกรณ์ในการขายสินค้าไม่พร้อมจะเสนอขาย เป็นต้น
1.4.2 สาเหตุจากปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในที่ทำงาน เช่น ปัญหาของตัวแทนขายตรงเอง ปัญหาการทำงานไม่เป็นระบบ การผัดวันประกันพรุ่ง เป็นต้น
2. วิธีการวางแผนเกี่ยวกับการบริหารเวลา
การทำงานของตัวแทนขายจำเป็นต้องมีการกำหนดตารางการทำงานให้แน่นอนและต้องมีการเผื่อเวลาในการเข้าพบหรือเสนอขายต่อลูกค้าเสมอ เพราะนั่นหมายถึงการรู้จักปฏิบัติและรู้วิธีการบริหารจัดการชีวิตของตนเอง ซึ่งปกติเวลามี 24 ชั่วโมง แต่ทุกคนมีหน้าที่ในการทำงาน การดูแลครอบครัว การออกสังคม พบปะสังสรรค์ต่าง ๆ ดังนั้น ตัวแทนขายตรงจึงยิ่งใส่ใจและให้ความสำคัญกับเวลาให้มาก และที่กล่าวมานี้ทั้งหมดนี้ ตัวแทนขายตรงควรวางแผนเกี่ยวกับการบริหารเวลาเป็นอย่างมาก
2.1 การวางแผนงานของตัวแทนขายตรงด้วยการบริหารเวลา มีดังนี้
2.1.1 กำหนดแผนงาน ตัวแทนขายต้องวางวัตถุประสงค์ของตนเอง ต้องมีกรอบทิศทางในการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ อาจกำหนดเป็นปฏิทิน รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือนหรือรายปี เช่นเดียวกับองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ เพราะการกำหนดแผนงานจะทำให้ทราบแนวทางหากมีปัญหาหรือมีความเสี่ยงย่อมสามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขได้ทันท่วงที
2.1.2 การจัดลำดับความสำคัญของงาน เป็นสิ่งแรกที่ตัวแทนขายตรงควรวางแผนหลังจากกำหนดแผนงานไว้แล้ว เนื่องจากตัวแทนขายตรงหลายคนอาจมีงานหลักและงานขายตรงเป็นงานเสริม การเรียงลำดับของงานสำคัญมากไปหาน้อย จะทำให้งานเป็นไปตามเป้าหมายแต่ขณะเดียวกันย่อมมีงานเร่งด่วน เช่น ลูกค้าว่างแต่ตัวแทนขายตรงไม่ว่างนั่นคือ ตัวแทนขายตรง ต้องให้ลูกค้ามาก่อนเสมอ ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับระบบการบริหารงานของตัวแทนขายตรงเองเป็นสำคัญ
2.1.3 ตรวจสอบแผนการจัดสรรเวลา แผนตารางเวลาในการทำงานของตัวแทนขายตรงเมื่อกำหนดและเรียงลำดับไว้แล้วจะต้องหมั่นดูและตรวจสอบเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันการผิดพลาดของสิ่งที่จะต้องปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าหรือสะดุดระหว่างปฏิบัติงาน ทั้งนี้ตัวแทนขายตรงอาจต้องเจอปัจจัยต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวแทนขายตรงต้องปรับตัวอยู่เสมอ
2.1.4 การกำหนดและแจกจ่ายงาน หากตัวแทนขายตรงเป็นผู้บริหารทีมเรื่องการกำหนดและแจกจ่ายงาน จัดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากดาว์นไลน์แต่ละบุคคลย่อมมีทักษะต่างกัน บางคนหรือหลายคนอาจต้องการคำแนะนำ ปรึกษา หรือช่วยเหลือทุกเรื่อง ทั้งนี้หากดาว์นไลน์ในทีมมีความชำนาญมากขึ้น ย่อมเป็นข้อดีของผู้บริหารทีมแต่หากดาว์นไลน์ในทีมยังไม่เชี่ยวชาญ บริหารทีมยิ่งควรเพิ่มศักยภาพการทำงานมากขึ้น ต้องกำหนดงานและให้รายละเอียดวิธีการงานแก่เครือข่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดที่กล่าวมามักเกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงหลายชั้น ในส่วน ของธุรกิจขายตรงชั้นเดียวอาจเป็นเรื่องง่ายในการกำหนดและแจกจ่ายงานเพราะไม่ต้องบริหารทีมจึงทำได้ง่ายกว่าหลายชั้น
2.1.5 การควบคุมเวลา เป็นการกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติที่ตัวแทนขายตรง ทุกคนจะต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายในเวลากำหนดในช่วงของการควบคุมเวลา ที่ถูกกำหนดไว้ในแผนแต่อาจมีบางขั้นตอนการปฏิบัติที่เมื่อเสร็จงานก่อนกำหนดก็อาจเป็นประโยชน์ ประเด็นนี้จึงจัดเป็นข้อดีของตัวแทนขายตรงที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรัดกุม ซึ่งมักจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย
2.1.6 การประเมินเวลา ตัวแทนขายตรงจะต้องมีการสรุปการปฏิบัติงานตามที่ได้กำหนดไว้และเมื่อมีการปฏิบัติแล้วเสร็จจะต้องบันทึกข้อมูลไว้ให้ชัดเจน ไม่ว่าผลนั้นจะออกมาในลักษณะที่มีการตอบสนองการซื้อจากลูกค้าหรือลูกค้ายอมรับในการชักชวนหรือไม่ก็ตาม เพราะผลทุกอย่างสามารถนำมาใช้เป็นข้อปรับปรุงให้แก่ตัวแทนขายตรง ได้นำข้อมูลเข้าไปไว้ในแผนการปฏิบัติได้และยังช่วยให้การปฏิบัติงานครั้งต่อไปเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.1.7 ทบทวนเวลา จัดเป็นสิ่งสุดท้ายที่ตัวแทนขายจะได้นำสิ่งที่ตนเองปฏิบัติมาทั้งหมดมาพิจารณาว่าคุ้มค่าหรือไม่ในการวางแผนงานแต่ละอย่างเผื่อไม่ให้เวลาบางส่วนพลาดไปในขณะที่ตัวแทนขายตรงจะต้องบรรจุเวลาส่วนตัวเข้าไปด้วย เช่น การพักผ่อน ท่องเที่ยวหรือให้ครอบครัว เป็นต้น
2.2 การบริหารเวลาของตัวแทนขายตรง
2.2.1 การทำงานล่วงเวลา (Over time) ได้แก่ เวลาที่ทำงานเกินกว่าปกติอาจเป็น ในธุรกิจหรือนอกเวลาที่ตนเองเลือกไว้แล้ว ซึ่งเป็นการทำงานที่ไม่กระทบกับในเวลาและตัวแทนขายตรงสามารถบริหารจัดการงานจนแล้วเสร็จ
2.2.2 การทำงานในเวลา (In time) ได้แก่ การทำงานในช่วงเวลาปกติอาจเป็นงานหลักที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำแต่ตัวแทนขายต้องบริหารให้ได้ตามลักษณะสำคัญของงานตามลำดับเพื่อลดความเครียดในการทำงาน
2.2.3 การทำงานที่ให้ผลตอบแทน (Pay-off-time) ได้แก่ เวลาที่ตัวแทนขายตรงอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานกับลูกค้าหรือผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าเพื่อขายสินค้าหรือแนะนำ ชักชวนให้เป็นสมาชิก
2.2.4 การทำงานที่เป็นการลงทุน ( Investment time) ได้แก่ เวลาที่ต้องลงทุน กว่าปกติ โดยเฉพาะกับลูกค้ารายสำคัญหรือเป็นนโยบายของธุรกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จนกระทบเวลาพักผ่อน
ตาราง 5 ตัวอย่าง ตารางการจัดตารางเวลาทำงานของตัวแทนขายตรง
นางสาวชไมพร มุขพรหม ทำงานประจำ เจ้าหน้าที่ทะเบียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด
ลำดับที่ สิ่งที่ต้องปฏิบัติ วันที่/เวลา สถานที่ หมายเหตุ
1. นำสินค้าไปส่งลูกค้า 1 ก.พ.55 (18.00 – 19.00) ร.ร.อนุบาลร้อยเอ็ด
2. นัดดาว์นไลน์ (คุณวิทวัสและคุณวิภาดา) 2 ก.พ.55 (19.00 – 20.30) อ.บ.จ.ร้อยเอ็ด นำแคตตาล็อกไปเพิ่ม
3 นำเสนอสินค้า (คุณแมวบิวตี้) 2 ก.พ.55 (18.00 – 19.00) ร้านเสริมสวยแมวบิวตี้
4 คลีนิคหมอบุญยงค์ 3 ก.พ.55 (19.00 – 20.30) คลินิก หมอบุญยงค์
2.3 การแบ่งเขตการขาย สามารถแบ่งเขตได้ดังนี้
2.2.1 แบ่งตามประชากร เพื่อความสะดวกในการเข้าพบลูกค้าที่มีเพศ วัย อายุ ต่างกันต้องพิจาณาว่าผู้เป็นลูกค้ามีพฤติกรรมแตกต่างกันตามความชอบหรือนิยมสินค้าต่างกัน ดังนั้นการแยกตามประชากรจะเป็นไปได้ง่ายเพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนที่สุด
2.2.2 แบ่งตามภูมิศาสตร์ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทำให้ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายและยังสามารถให้บริการลูกค้าได้เต็มที่
2.2.3 แบ่งตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทหรือขึ้นอยู่กับตัวแทนขายตรงแต่ละบุคคลที่จะปฏิบัติ เพราะจะไม่ถือว่าข้ามเขตการขายกัน เพราะต้องอาศัยองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ลูกค้าอยู่ที่ทำงานเดียวกันแต่ที่อยู่อาศัยคนละเขตกัน เป็นต้น
3. ประโยชน์ในการใช้เวลากับการขายตรง
การขายตรงเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยเวลาในการเติบโต ด้วยต้องรอจังหวะและเวลาซึ่งเกิดจากผลงานของตัวแทนขายตรงในขณะเดียวกันหากบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพหลัก เช่น การรับราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ย่อมสามารถเข้าสู่วงจรธุรกิจขายตรงได้และหากวางแผนเวลาได้ดีกับการนำอาชีพขายตรงมาเป็นส่วนหนึ่งในอาชีพ ย่อมทำให้เกิดประโยชน์ ความก้าวหน้าในอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น
3.1 ประโยชน์ในการใช้เวลากับการขายตรง
3.1.1 ได้ประสบการณ์ด้านการขาย ตัวแทนขายทุกคนอาจไม่ได้มีประสบการณ์ ด้านการขายหรือเรียนด้านการขาย ดังนั้นในการประกอบอาชีพหลักแต่ละบุคคลจึงมีอาชีพต่างกัน แต่อาชีพการขายตรงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทุกคนมีโอกาสเข้ามา ตักตวงเอาประสบการณ์ที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้แต่ละคนอาจจะนำเอาไปใช้หรือดัดแปลงแตกต่างกันไป ซึ่งจะใช้อย่างไรก็ตามย่อมขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีของตัวแทนขายตรงนั้น ๆ
3.1.2 ได้สังคมและเพื่อนใหม่ นี่คือประเด็นหนึ่งในการทำการขายตรง เวลาที่หมดไปหลังจากเลิกงาน เลิกการเรียน ย่อมเป็นเวลาว่างที่แต่ละคนสามารถทำสิ่งใดย่อมได้ แต่หากมีใครสักคนนำเวลาว่างมาทำธุรกิจขายตรง จึงมักจะได้สังคมใหม่ ๆ ในแวดวงธุรกิจเดียวกันแต่ต่างอาชีพกันจึงเป็นผลให้ได้เพื่อนได้สังคม ได้แนวคิดความรู้และประสบการณ์ของกันและกันอย่างไม่จำกัด
3.1.3 เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพราะการขายตรงเป็นงานที่ทำได้ในเวลาสะดวกของผู้เป็นตัวแทนขายตรง อาจเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงาน ช่วงพักเที่ยงหรือขึ้นอยู่กับการจัดเวลาทำงานของตัวแทนขายตรงจะจัดสรรกำหนดตารางการทำงานในลักษณะใด ทั้งนี้ต้องคำนึงว่าจะไม่กระทบกับเวลางานหลักเป็นสำคัญ
3.1.4 มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่จำกัดจำนวน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความขยัน อดทนและความ มุมานะของตัวแทนขายตรงที่จะทำให้ตนเองมีรายได้เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้มักสืบเนื่องจากการขายตรงเป็นเพียงโอกาสทางธุรกิจที่แต่ละคนที่เข้าสู่ธุรกิจอาจมีรายได้มากน้อยแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความใส่ใจและความมุ่งมั่นของแต่ละบุคคลนั่นเอง
3.1.5 ความภาคภูมิใจที่คาดไม่ถึง ทั้งนี้ความภาคภูมิใจย่อมมาจากการทำงานที่ประสบความสำเร็จที่เกิดขึ้นคนละแบบอย่างต่างกันไป เมื่อทำการขายตรงอย่างเต็มที่สิ่งที่ได้รับคือรางวัล เกียรติยศ สิ่งของ ความชื่นชมยินดี การได้รับโล่ เกียรติบัตร การได้รับการยกย่องถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่งที่ทุกคนต้องการ
3.2 ประโยชน์ที่ได้รับจากการบริหารเวลา
3.2.1 ทำให้ได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าและส่งผลให้ลูกค้าเก่าได้ช่วยแนะนำลูกค้าใหม่
3.2.2 ทำตัวแทนขายตรงได้ให้ความสำคัญกับเวลา
3.2.3 ทำให้ตัวแทนขายตรงได้มีโอกาสวางแผนงานเพื่อเพิ่มรายได้ส่งเสริมให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
3.2.4 ทำให้ครอบครัวมีความสุขเพราะมีเวลาเหลือจากการทำงาน
4. หลักการทำงานของตัวแทนขายตรงที่ดี
การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับวิธีการบริหารจัดการของตัวแทนขายตรง ที่จะต้องบริหารเวลาให้เหมาะสม แต่การจะทำให้ผลงานออกมาดีตัวแทนขายทุกคนย่อมต้องมีหลักการทำงานที่ดี ให้สอดคล้องกับเวลาที่วางแผนไว้ หากตัวแทนขายมีหลักในการทำงานที่ดีดังกล่าวมาแล้วย่อมส่งผลให้ตัวแทนขายตรงมีความสุขในการทำงานและไม่ย่อท้อกับงาน กระทั่งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการขายมากที่สุด
4.1 หลักการทำงานของตัวแทนขายตรงที่ดี มีดังนี้
4.1.1 ทัศนคติ (Attitude) การมีทัศนคติที่ดีต่องานขาย มีใจรัก ศรัทธาในงานมักทำให้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
4.1.2 พัฒนาและเรียนรู้ (Learn and development) ตัวแทนขายตรงควรเรียนรู้และปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ ตัวแทนขายตรงไม่ควรทำงานแบบเดิมตลอดเวลา ควรปรับเปลี่ยนหรือหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มขึ้น เหตุเพราะคู่แข่งขันมักมีจำนวนมากขึ้นหากไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติมอาจส่งผลให้การทำงานน่าเบื่อไม่มีความกระตือรือร้นได้
4.1.3 การทำงานเป็นทีม (Teamwork) การทำงานเป็นทีมสำหรับธุรกิจขายตรงเป็นเรื่องดีและสำคัญมาก เพราะธุรกิจขายตรงมักต้องการเครือข่ายการทำงาน ยิ่งมีมากอีกทั้งแต่ละคนมุ่งการทำงานเป็นทีมจะยิ่งเพิ่มศักยภาพของตัวแทนขายตรงให้เก่งขึ้นตามลำดับ
4.1.4 การวางแผน (Planning) มีการวางแผนงานที่ดีเป็นระบบและมีทิศทางของตนเอง
4.1.5 วัตถุประสงค์ (Objective) การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องมีการวางวัตถุประสงค์ปลายทางที่ต้องการและทำตามวัตถุประสงค์ให้ได้เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ทำส่งผลเป็นที่น่าพอใจมากน้อยเพียงใด
5. หลักการบริหารเวลาสำหรับการขายตรงที่มีประสิทธิภาพ
การรู้จักกำหนดหรือหาวิธีการบริหารงาน บริหารเวลาของตนเองได้อย่างเป็นระบบเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องมาทำงานเป็นตัวแทนขายตรงเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น ย่อมต้องวางแผนและบริหารเวลาของตนเองเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้ในเมื่อมีใจมุ่งหมายทำการขายตรงอย่างแท้จริง ตัวแทนขายตรงควรจะต้องบริหารเวลาให้ลงตัวและให้มีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ เพราะทั้งหมดหมายถึงความภาคภูมิใจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของตัวแทนขายตรงทุกคน
5.1 การบริหารเวลาสำหรับการขายตรง
5.1.1 มีการจดบันทึกการทำงานว่าได้ทำอะไรไปบ้างจากนั้นประมวลผลรวมและพิจารณาความเหมาะสมของเวลากับสิ่งที่ปฏิบัติว่าเหมาะกันหรือไม่
5.1.2 มีการวางแผนงานล่วงหน้า เพื่อมิให้เกิดการผิดพลาดและปฏิบัติตามความสำคัญของงาน จัดลำดับงานให้ดีเป็นขั้นเป็นตอน
5.1.3 ปรับเวลาใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลในการทำงาน การพักผ่อน การมีเวลาให้ครอบครัวจัดเป็นสิ่งที่ตัวแทนขายตรงต้องพึงระวัง เนื่องจากในความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันมีตัวแทนขายตรงจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในการขายตรงแต่เกิดความล้มเหลวทางครอบครัว
5.1.4 มีความฝันอยู่เสมอ เพราะความฝันเป็นส่วนผลักดันให้ทุกคนได้เป็น ได้เกิดความกระตือรือร้น ตัวแทนขายทุกคนอยากได้รางวัล โบนัส คอมมิชชั่นมากมาย ซึ่งความฝันจะทำให้ทุกคนมีความพยายามทำให้ได้
5.1.5 มีการจัดเก็บงานให้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจเช็คหรือค้นหาต้นสายปลายเหตุเนื่องจากข้อมูลเก่าเป็นข้อมูลที่สำคัญอันนการปูทางไปสู่ความเป็นไปของธุรกิจ
5.1.6 มีความรับผิดชอบ เป็นหน้าที่หลักของตัวแทนขายและในการทำงานในหน้าที่ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง หากทำได้ตัวแทนขายย่อมภาคภูมิใจในหน้าที่รับผิดชอบยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญหากเป็นงานาที่ยากแต่เมื่อทำสำเร็จนอกจากความภูมิใจที่ได้รับยังมีความชื่นชมยินดีจากคนรอบข้างอีกด้วย
5.2 การบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนี้
5.2.1 ทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันมีความลงตัวง่ายขึ้น
5.2.2 ทำให้ระบบขั้นตอนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตเสร็จสิ้นเร็วขึ้น
5.2.3 ทำให้ลดความเครียด ลดความวิตกกังวลในการทำงาน
5.3.3 ทำให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
5.3.4 เพิ่มศักยภาพให้กับตนเองและองค์กร
5.3.5 ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการทำงาน
5.3.6 ทำให้มีเวลาให้กับตนเองหรือครอบครัวเพิ่มขึ้น
การบริหารเวลาของตัวแทนขายตรงสามารถปฏิบัติและจัดระบบการบริหารตนเองได้ดีหากมีความตั้งใจในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรู้จักจัดแผนการทำงานของตนเองอย่างเหมาะสม นอกจากนั้นหากปฏิบัติโดยรวมกันทั้งองค์กรแล้วจะส่งผลให้องค์กรเหล่านั้นมีมาตรฐานในการทำงานที่ดีและมีภาพลักษณ์ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ในภาคธุรกิจด้วยกันและสังคมต่อไป