เลิกเมียแล้วได้ดีก็มี พี่แบรด พิตต์ นี่แหละ

ดูหนัง

แบรด พิตต์ เข้าชิงออสก้าร์ในสาขาการแสดงทั้งหมด 3 ครั้ง


Twelve Monkeys (1995) เข้าชิงสาขาสมทบชาย สมัยยังละอ่อน คือแม่งมีไม่กี่คนบนโลกหรอกที่เล่นเป็นตัวละครที่น่ารำคาญ ให้ออกมาไม่น่ารำคาญ ดูเพลินเชียวล่ะมึงเอ๊ย ไดอาล็อกโคตรรัว พูดผิดๆถูกๆแกก็ด้นไปได้เพราะรับบทเป็นผีบ้าผีบอ แต่โดน เควิน สเปซี่ย์ คาบไปแดกจาก The Usual Suspects


คือตามจองล้างจองผลาญกันมาตั้งแต่ Seven แล้ว ตัดหัวเมียยัดกล่อง ยังตามมาแย่งกล่องกูอีก The Curious Case of Benjamin Button (2008) เข้าชิงนำชาย จากการแปลงโฉมมากมายเพื่อรับบทคนวัยกลับ เรื่องนี้ก็โอเค พี่แบรดเล่นดีเลยแหละ แต่เจอกระดูกเบอร์ใหญ่อย่าง ฌอน เพนน์ ในบทนักการเมืองเกย์จาก Milk เข้าไป ดูหนัง Once Upon a Time ...in Hollywood (2019) เข้าชิงสมทบชาย คือแทบไม่มีคู่แข่งเลยในปีนี้ เหมือนทุกอย่างลงตัวที่สุด และแสงสปอตไลท์ดูจะสาดส่องมาที่พี่แบรดคนเดียวเลย คือส่วนใหญ่ที่เข้าชิงปีนี้มีแต่รุ่นใหญ่ๆหน้าเก่าๆที่หนังไม่ได้โดดเด่นอะไร ทอม แฮ้งคส์ , แอนโธนี่ ฮอพกินส์ , อัล ปาชิโน่ ไรงี้ แต่โดยส่วนตัวยังเสียดายตอนเข้าชิงจาก Twelve Monkeys ไม่หาย นั่นน่ะเล่นดีที่สุดแล้ว โคตรสด เอาจริงๆที่ผ่านมาในชีวิตของ แบรด พิตต์ มีผลงานโดดเด่นมาแล้วมากมายทั้งในฐานะนำแสดงและสมทบ Seven , Fight Club , Seven Years in Tibet , Inglourious Basterds , Moneyball หรือแม้กระทั่งงาน ที่แทบไม่ค่อยมีใครได้ดูอย่าง โปรแกรมหนัง The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford ก็ล้วนเป็นผลงานการแสดงที่น่าจดจำทั้งสิ้น แต่ได้แค่โฉบๆรางวัลออสก้าร์ ไม่ได้ขึ้นไปคว้ามันบนเวทีซะที แต่พอเลิกกับเมีย ก็ดูเหมือนกราฟชีวิตจะพุ่งขีดสุด ทั้งเรื่องการงานการเงิน ดวงขึ้นถึงขนาดไปรับเล่นหนังสั้นให้บ่อนคาสิโน หนังความยาวไม่กี่นาที


พี่แบรดออกมานิดหน่อย รับเงินเข้ากระเป๋าเหนาะๆ 13 ล้าน แทบไม่ต้องแสดงอะไรเลย แถมมาได้ออสก้าร์ปีนี้อีก อย่างนี้ไม่ให้บอกว่าเลิกกับเมียแล้วได้ดีได้ยังไง เห็นแบบนี้แล้ว เรามาเลิกกับเมียกันเถอะ