อดีตเด็กเห็นผีจาก The Sixth Sense

ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์ อดีตเด็กเห็นผีจาก The Sixth Sense ในวัย 32 ปี

จากเด็กเห็นผี ตอนนี้กลายเป็นชายหุ่นหมีไปแล้ว อันที่จริงแกไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน ในทางกลับกันถือเป็นนักแสดงที่งานชุกคนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางซีรี่ส์กับหนังอินดี้เสียมากกว่า ในอดีตเขาถือเป็นดาราเด็กดาวรุ่งที่มีค่าตัวต่อเรื่องถึง 10 ล้านเหรียญ


จากการแสดงนำในหนัง A.I. Artificial Intelligence ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ก่อนหน้านั้นเขาเคยรับบทลูกชาย ทอม แฮงคส์ ใน Forrest Gump แล้วมากระหึ่มโลกกับหนังเด็กเห็นผี ดูหนังฟรี The Sixth Sense ถึงขนาดมีชื่อเข้าชิงออสก้าร์สาขาสมทบยอดเยี่ยม ด้วยวัยเพียง 11 ปี ด้วยความสำเร็จท่วมท้นตั้งแต่ยังเด็ก เขาเคยเป็นตัวเต็งที่จะได้บท Harry Potter ที่จะกำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก ทว่าโครงการไม่คืบหน้าเพราะ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ไม่ชอบแนวทางของพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดสักเท่าไหร่ เธออยากได้เด็กอังกฤษแท้ๆมากกว่า สปีลเบิร์กเจรจาต่อรองขอทำเป็นอนิเมชั่นก็ได้ แต่ก็ถูกเมินอีกเช่นกัน ท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้สร้างโดยน้ำมือพ่อมดฮอลลีวู้ด

ดูหนังฟรี

ด้วยรอยด่างเล็กๆนี่เองทำให้ ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์

แอบเซ็งไปเหมือนกันเพราะเขาคือแฟนเดนตายนิยายเรื่องนี้ จนกระทั่งสปีลเบิร์กพาเขาสร้างตำนานหุ่นเด็ก A.I. Artificial Intelligence นั่นถือเป็นรางวัลปลอบใจที่ดีมากๆสำหรับเขา แม้ A.I.จะได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ทว่ามันกลับกลายเป็นงานผิดฟอร์ม เมื่อเทียบว่านี่เป็นหนังของสปีลเบิร์ก


หนังทุนสร้าง 100 ล้านเรื่องนี้ทำรายได้ไปแค่ 235 ล้านทั่วโลก นี่จึงอาจเป็นลางหายนะในอาชีพการงานของดาราเด็กอย่าง ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจาก A.I.เขาก็ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้หนังฟอร์มยักษ์อีกเลย หนังออนไลน์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมื่อเติบโตขึ้น เขาดันมีปัญหาเรื่องความสูงและน้ำหนักตัวที่ไม่บาล้านซ์กันสักเท่าไหร่ เขาเริ่มไว้หนวดเคราเนื่องจากไม่สามารถรับบทในวัยผู้ใหญ่ได้เลย นั่นเพราะว่าในขณะที่ทุกอย่างในร่างกายเขาเติบโต แต่หน้าเขายังดูเหมือนตอนที่เขาแสดง The Sixth Sense อยู่เลย เป็นเหตุให้ต้องทำตัวแก่โดยการไว้หนวดเครา และรับงานโดยไม่เลือกบทมากมายนักเหมือนสมัยยังเด็กๆ ปี 2006 ตอนอายุ 18 ปี เวรกรรมซ้ำซัด เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แน่นอนว่าเป็นการเมาแล้วขับ และมีกัญชาในครอบครอง


เขาถูกคุมประพฤติ 3 ปี 60 ชั่วโมง และส่งบำบัดแอลกอฮอล์ แต่เชื่อไหมว่าตลอดระยะเวลาในการทำงานในวงการ เขาหายไปแค่ตอนปี 2008-2009 เพื่อเรียนต่อให้จบ แต่หลังจากนั้นมาเขาก็รับงานตลอดปีละหลายๆเรื่องด้วย