เจ็ลใส่ผมในตำนาน ของ คาเมรอน ดิแอซ

ยังจำซีนในตำนานซีนนี้ในหนังจัญไรๆอย่าง There's Something About Mary ปี 1998 ได้ไหม


ซีนนี้มันมีความยุ่งเหยิง เพราะ คาเมรอน ดิแอซ ในช่วงนั้นถือเป็นพรีเซ็นเตอร์ขายดีให้สินค้าเสริมความงามหลายๆยี่ห้อ ไม่เว้นแม้แต่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม เธอรู้สึกกังวลกับซีนนี้มาก เพราะตามท้องเรื่อง เธอต้องเป็นสาวแหววใสซื่อที่เจอบางอย่างคล้ายเจลใส่ผมติดอยู่ที่ติ่งหูเท็ด(เบ็น สติลเลอร์)

ดูหนัง HD

แล้วเธอก็เอามือป้ายมันออกมาจากหูเขาแล้วนำมาเสยใส่ผมจนแข็งตั้งเด่ โดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือน้ำว่าวที่ตัวละครของเบ็นเพิ่งชักว่าวเสร็จไปเมื่อกี๊ แน่นอนว่าดิแอซกลัวภาพลักษณ์ของเธอจะเสีย เพราะเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม และ เบ็น สติลเลอร์ เองก็กังวลใจกับซีนนี้เช่นกัน โอเคหนังมันมีระดับความสัปดน จัญไรขี้ไคลหมาอยู่แล้ว แต่ฉากนี้มันเกินไป พี่น้องฟาเรลลี่ ผู้กำกับยืนยันว่าฉากนี้จะเป็นอมตะที่ถูกพูดถึงต่อๆกันไปนานเลย ดูหนัง HD ดาราทั้งคู่ก็ขัดไม่ได้ด้วย จึงเชื่อใจผู้กำกับแบบแบ่งรับแบ่งสู้ หลังจากซีนนี้ออกสู่สายตาชาวโลก แน่นอนเป็นอย่างที่ผู้กำกับคาดการณ์ไว้ มันคือฉากอมตะที่หากพูดถึงแมรี่ สาวโลกสวย เป็นต้องนึกถึงน้ำว่าวที่เธอนำไปใส่ผมจนแข็งเด่ แล้วยังไปนั่งร้านอาหารอีก ความเฮี้ยนของซีนนี้ทำให้หนังดังกระหึ่ม โกยรายได้ 370 ล้านเหรียญ ด้วยทุนสร้างแค่ 23 ล้าน ติดหนึ่งในหนังโรแมนติกคอมเมดี้เรต R ที่ทำรายได้สูงสุด หลังจากนั้น คาเมรอน ดิแอซ ก็ถูกสินค้าต่างๆรุมตอม โดยเฉพาะเกี่ยวกับเส้นผม แต่จวบจนทุกวันนี้ในงานต่างๆ เธอก็ยังคงต้องตอบคำถามขำๆจากผู้คนอยู่เสมอเวลาเห็นเธอทำผมทรงเก๋ๆมาปรากฏตัวในงานว่า " ผมของคุณที่ดูแข็งๆนี่คุณยังใช้เจลยี่ห้อเท็ดอยู่รึเปล่า " หนังเล่าเรื่องราวของ Ted เด็กหนุ่มซื่อๆ เขาหลงรักเพื่อนสาวแสนสวยนาม Mary แต่รักที่สุมอยู่เต็มอกของเขาก็ไม่เคยได้ไปถึงหูให้เธอได้รับรู้ เพราะเขาอายเกินที่จะเอ่ยความรู้สึกในใจนี้ไปทั้งยังกลัวจะเสียความเป็น เพื่อนที่มีมานาน และด้วยเหตุบางอย่างทำให้เขากับเธอต้องพลักพรากจากกันไป 13 ปีผ่านไป Ted ก็ยังคงถวิลหาแต่ Mary โดยขอความช่วยเหลือจากนักสืบรายหนึ่ง ทว่านักสืบรายนี้กลับจ้องครองใจ Mary เสียเอง ถึงเวลาที่ Ted จะต้องออกตามหาและพิชิตใจเธอให้ได้เสียแล้ว และเรื่องราวดูจะชุนมุนวุ่นวายยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขารู้ความจริงที่ว่า ไม่ใช่จะมีเพียงพวกเขา 2 คนเท่านั้นที่หลงรัก Mary แต่ยังมีชายหนุ่มอีกหลายคนรอบกายที่หวังจะพิชิตใจเธอเช่นเดียวกัน There's Something About Mary จัดเป็นหนังโรแมนติด – คอมเมดี้ ที่แหวกแนวเรื่องหนึ่งครับ หนังมาพร้อมความรักในมุมมองที่ไม่ค่อยพบเห็นสักเท่าไหร่นัก พร้อมมุขตลกสัปดน บวกกับตลกท่าทางที่กระจายอยู่ตลอดแทบทั้งเรื่อง หนัง เรื่องนี้มี “เสน่ห์” เฉพาะตัวที่ผมคิดว่าว่ายังไม่มีหนังเรื่องไหนที่ให้อารมณ์อย่าง ที่หนังเรื่องนี้มีเลยครับ ตัวหนังดำเนินเรื่องด้วยความสนุกสนาน มีมุขตลกฮาๆ บวกบทตลกร้ายๆ ยิงใส่ผู้ชมเป็นระยะๆ สลับไปมา พร้อมเผยให้เห็นความสัมพันธ์และความรู้สึกของตัวละครเอกทั้งสองไปพร้อมๆกัน หนังนำเสนอเรื่องของชายคนหนึ่งที่หลงรักผู้หญิงคนเดียวมานานแสนนาน พร้อมกับความจริงที่ว่า ใครที่ได้อยู่ใกล้ Mary ก็ล้วนต้องตกหลุมรักเธอไปสะทุกราย นั่นทำให้ตัวละคร Ted พร้อมทั้งผู้ชมเอง ต่างก็เกิดคำถามหนึ่งขึ้นในใจว่า “ Mary มีอะไรงั้นหรือ ?” ทำไมทุกคนถึงชอบเธอไปหมด โดยเฉพาะกับ Ted ที่หลงรักเธอมานาน ก็ต้องกลับมาถามหัวใจตัวเองอีกครั้งว่า “ทำไมต้องเป็น Mary ?” และร่วมหาคำตอบไปพร้อมๆกัน นักแสดงในเรื่องถือว่ามีส่วนมากที่ทำให้หนังเรื่อง นี้ดูมีสีสันมากขึ้น นอกจากเรื่องของ “ตัวบท” โดยเฉพาะรายของสาว “Cameron Diaz” ในบท Mary เจ้าของชื่อเรื่องที่ใครๆก็ต่างพากันหลงรัก เธอเล่นได้สวยใส น่ารัก ดูมีเสน่ห์มากพร้อมทำให้ผู้ชมหลงรักเธออย่างชายหนุ่มได้เรื่องได้ไม่ยากครับ อีกคนก็คือหนุ่ม “Ben Stiller” ในบท Ted หนุ่มแสนซื่อที่รักเดียวใจเดียวมานาน ยอมรับว่าตอนนั้นรู้จักพี่ Ben ก็จากหนังเรื่องนี้แหละครับ พี่แกเล่นได้ฮามากในฉากมุขตลกต่างๆในเรื่อง ( แค่หน้าพี่แกในฉากเปิดเรื่องก็เล่นเอาท้องแข็งแล้วครับ ) ส่วน “Matt Dillon” ก็ดูกวนโอ้ยดีครับกับบทนักสืบจอมขี้โกง หนังออนไลน์ There's Something About Mary มีฉากตลกเด็ดๆ ที่ถูกพูดถึงและฮือฮามากๆ หลายฉากครับ เริ่มจาก ฉากตอนต้นเรื่องที่ตัวละครของ Ben Stiller ประสบอุบัติเหตุไข่กับไส้กรอกในห้องน้ำ ที่บอกตามตรงครับ มันเป็นฉากที่ฮามากๆที่สุดฉากหนึ่งที่จำติดตามาจนถึงทุกวันนี้เลยทีเดียว, ฉาก เจลใส่ผมมหัศจรรย์ ,ฉากเบ็ดตกปลา รวมทั้ง ฉากต่อสู้ระหว่างหมากับ Ted ที่ล้วนใส่มาอย่างถูกจังหวะ และ ฮา (มาก) สะจริงๆ โดยรวมแล้วจัด เป็นหนังตลกที่หยิบมาดูกี่ครั้งก็ยังดูสนุกเรื่องหนึ่งครับ เพราะนอกจาก นักแสดงฝีมือดี และมุขตลกเด็ดๆแล้ว หนังยังมีเพลงประกอบไฟเราะที่ฟังเพลินๆ พ่วงมาอีกด้วย เรียกได้ว่าคุณภาพความบันเทิงครบครันครับ


หลังหนังเปิดตัวและไต่อันดับกลางๆตารางมา 7 สัปดาห์ติดต่อก่อนหน้านั้น ก่อนจะมาขึ้นอันดับ 1 ใน Box office 2 สัปดาห์ซ้อน เก็บรายรับไปกว่า 176 ล้านเหรียญในบ้าน และอีกเกือบ 200 ล้านจากการฉายรอบ