Mr.Jones(2019) ปฏิบัติการ แหกกะลาแลนด์โซเวียด

หดหู่ ทรงพลัง เราคุ้นเคย กับกะลาใบนี้ดี

เจ็บปวด น่าสะพรึง และ ทำเหี้ยอะไรไม่ได้มากไปกว่าการก่นด่า นั่นคือคำจำกัดความสำหรับหนัง Mr.Jones เรื่องนี้ หนังพูดถึงปฏิบัติการงัดท่อนซุงด้วยไม้ตะเกียบของ กาเร็ธ โจนส์ ผู้สื่อข่าวตัวเล็กๆที่ในยุคนั้นคนหาว่าเขาบ้า เพราะไปตีพิมพ์บทความแหกผู้นำอย่าง โจเซฟ สตาลิน


ผู้ที่นำเสนอภาพของโซเวียตในเวลานั้นต่อชาวโลกว่าเป็นสหภาพที่มีอนาคต ประชาชนกินดีอยู่ดี แต่ในความเป็นจริงคนหลายล้านคนในยูเครนต้องอดอยากและตายอย่างหมาข้างถนน หนังมีการอ้างอิงความโสมมของนักข่าวชื่อดังที่ช่วยปกปิดความดำมืดของโซเวียต ดูหนังฟรี กาเร็ธ โจนส์ คือตัวแทนของคนดูที่ได้เห็นสภาพอันน่าเวทนา ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะออกมาแฉหรือเอนอ่อนตามเพื่ออนาคตอันสดใสในหน้าที่การงาน แน่นอนว่าในประวัติศาสตร์นั้น กาเร็ธ โจนส์ เลือกที่จะทำตรงข้ามกับนักข่าวชื่อดัง โดยที่ชีวิตของเขาต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย นี่อาจเป็นหนังที่ไม่บันเทิงเริงใจนักสำหรับคนชอบดูหนังเพื่อผ่อนคลาย แต่ด้วยความที่เหตุการณ์จริงในหนังมันคล้ายคลึงกับประเทศเผด็จการหลายๆประเทศ รวมถึงบางประเทศในแถบนี้ด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้ต้องเรียกได้ว่าเป็น"หนังที่ควรค่าแก่การรับชม" ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะบทสนทนาในหนังแต่ละอันมันช่างเสียดแทง และดูคุ้นเคยราวกับว่าเราอยู่ในโซเวียตก็ไม่ผิดเพี้ยน หนังได้การแสดงระดับล่ารางวัลของ เจมส์ นอร์ตัน รวมไปจนถึงนางเอกในหนังตลาดจ๋าอย่าง วาเนสซ่า เคอร์บี้ ที่งานนี้เธอพาเอาหน้าสวยๆมาโผล่ในหนังคุณภาพบ้าง ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว อีกคนคือ ปีเตอร์ ซาร์สการ์ด ที่โผล่เรื่องไหนก็รับประกันได้ว่ากูเกลียดมึงแน่ๆ

ดูหนังฟรี

ถือเป็นหนังที่กล้าและบ้ามาก ที่เอาเข้าฉายในช่วงเวลานี้ได้

อย่างแรกเลยคือฝ่าสถานการณ์โควิด-19 ไอ้รอบที่ตั๋วร้อนไปดูนี่เห็นฝรั่งแก่ๆหลายคนเข้าไปรับชมด้วย เชื่อว่าลุงฝรั่งสามสี่คนนั้นคงแปลกใจไม่น้อยที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนังบ้านเรา อย่างต่อมาคือหนังเนื้อหาเสียดแทงเผด็จการแบบนี้ กองเว็นเซอร์น่าจะดูแล้วหลับ


จึงให้หลุดเข้ามาฉาย คือถ้าได้ตั้งใจดูจริงๆจังๆ จะพบเลยว่านี่มันหนังควายแดงชัดๆ หนังอาจไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ภาพความน่าหดหู่ และเบื้องลึกเบื้องหลังฉาวโฉ่ระหว่างประเทศแถบๆยุโรป สามารถตรึงเรากับเก้าอี้ไว้ได้ตลอดชั่วโมงครึ่ง หนังถ่ายทอดสด นึกสะอื้น สะท้อนใจถึงผู้กล้าหลายๆคนที่ออกมาปะทะกับเผด็จการโดยตรง แต่ละคนก็มีสถานะเป็นพลเมืองตัวเล็กๆไม่ต่างจาก กาเร็ธ โจนส์ นี่แหละ แม้ท้ายที่สุดแล้วบทลงเอยจะทำให้สลดหดหู่ไปกันใหญ่ แต่เป็นฉากจบที่ทรงพลังเหลือล้น เพราะตามประวัติศาสตร์นั้นสิ่งที่ กาเร็ธ โจนส์ ได้ทำไว้มันช่วยปลุกจิตสำนึกจรรยาบรรณของสื่อได้อย่างดีเยี่ยม เยี่ยมพอๆกับหนังเรื่องนี้นี่แหละ หัก 2 คะแนน เพราะมีเอื่อยไปบ้างช่วงกลางเรื่อง แนะนำว่าก่อนดูทำการบ้านเรื่องประวัติศาสตร์โซเวียตไปคร่าวๆจะเพิ่มอรรถรสมากขึ้น


วีรกรรมอันกล้าหาญของ กาเร็ธ โจนส์ เป็นแรงบันดาลใจให้ จอร์จ ออร์เวล แต่งหนังสือ Animal Farm นวนิยายเสียดสีการเมืองเรื่องโปรดที่ลุงแถวนี้แนะนำให้คนไทยอ่านนั่นเอง ใครเป็นคอนิยายเรื่องนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง