Jim Carrey จะกลับมาใน Ace Ventura 3

ดูหนังฟรี

จิมแคร์รีย์ จะกลับมาทำสิ่งที่ถนัดใน ACE VENTURA ภาค 3


Ace Ventura ภาค 3 นักสืบซุปเปอร์เก๊ก มีโอกาสสดใสที่จะได้ถูกสานต่อ โดยมีการเจรจากันอย่างเข้มข้นกับ จิม แคร์รี่ย์ แล้ว และค่ายหนังอย่าง Morgan Creek Entertainment ผู้สร้างภาค 1 และ 2 ยังออกมาสนับสนุนโดยการใช้แอ็คเค้าทน์ Twitt แชร์ข่าว Ace Ventura ภาค 3 พร้อมอิโมจิหน้ายิ้ม


นั่นบอกเราได้ว่า นักสืบสารพัดสัตว์หน้ามึน จะกลับมาอีกครั้งแน่นอน เราจะได้เห็น จิม แคร์รี่ย์ กลับมาทำอะไรๆที่เขาถนัดอีกครั้ง หลังจากโดนโรคซึมเศร้าเข้าเล่นงาน และเจอเหตุการณ์แฟนสาวฆ่าตัวตาย จิม แคร์รี่ย์ ก็ดูเหมือนชีวิตจะเป๋ๆไปเยอะเลย เขาใช้ศิลปะบำบัดจนชีวิตเริ่มกลับมาปรกติสุข


แต่ด้วยความที่อยากฉีกตัวเองออกจากการเป็นดารา ดูหนังฟรี หนังตลก เขาจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะแบกรับบทในหนังดราม่าที่หลากหลาย และดูเหมือนว่าคนจะยังจดจำ จิม แคร์รี่ย์ ในบทบาทของตัวละครหน้าตายที่มักทำหน้าและท่าทางแปลกๆให้คนดูได้ขำกลิ้งอยู่ดี แม้ว่าจิมจะพยายามรับบทในหนังดราม่ามากเท่าไหร่ในช่วงหลังๆ


แต่คนยังคงคิดถึงเขาในแบบที่เขาเป็น 706 ล้านเหรียญ คือรายได้รวมของหนังที่ จิม แคร์รี่ย์ แสดงในปี 1994 ซึ่งเข้าฉายในปีเดียวกันหมดเลย ทั้ง Ace Ventura: Pet Detective ทั้ง The Mask และ Dumb and Dumber หากใครยังจำกันได้ในยุคนั้นถือเป็นปรากฏการณ์ที่โหดสัส เพราะรายได้รวมจากหนังที่ดาราคนเดียวแสดง ปีละ 706 ล้าน


ยุคนั้นถือว่ามหาศาลมาก และตอกย้ำความบ้าด้วยปี 1995 จิม แคร์รี่ย์ มีหนังเข้าฉายแค่ 2 เรื่องคือ Batman Forever กับ Ace Ventura 2 : When Nature Calls สองเรื่องรายได้รวมกันราวๆ 550 ล้านเหรียญ ส่งผลให้อดีตตัวประกอบคนหนึ่งในหนัง คลินท์ อีสต์วู้ด อย่างพี่จิม กลายมาเป็นโคตรดาราที่มีค่าตัวมหาศาล 20 ล้านเหรียญต่อเรื่อง


และได้ส่วนแบ่งจากรายได้ของหนังบางเรื่องด้วย เอาหนังเฮีย Jim Carrey มาพูดถึงบ้างดีกว่า รู้สึกว่าพูดถึงหนังแกไม่เยอะแฮะ ส่วนนี่ก็คืองานแจ้งเกิดแบบเต็มตัวเต็มบาทาเลยนะครับ ในบท เอซ เวนทูร่า นักสืบสารพัดสัตว์ที่เดิมทีแกรับงานสืบแบบก๊อกๆ แก๊กๆ ไปเรื่อย แต่พี่ท่านเก่งจริงนะครับ รู้ใจสัตว์ รู้เรื่องสัตว์ระดับสุดยอด


กินนอนกับสัตว์ด้วยซ้ำน่ะจะว่าไปแล้ว แล้วงานใหญ่ก็เข้าครับ ปลาวาฬอันเป็นมาสค็อตของทีมดอลฟินเกิดหายไป พี่ท่านเลยต้องวิ่งไล่ตามหา แล้วไหนยังต้องตามสืบคดีฆาตกรรมอีกต่างหาก แสดงว่างานนี้ต้องมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง และมันต้องมีแผนร้ายแน่นอน แบบนี้ยอดนักสืบจอมเก๊กคงไม่อาจรอช้า ต้องลากคอมันออกมาให้จงได้


บทบ้าแบบเต็มพิกัดที่ทำให้ชื่อของ Jim Carrey เป็นที่จับตา ซึ่งตอนแรกหลายคนก็ไม่ชอบแกนะครับ เพราะมันบ้ามาก จนได้เข้าชิงรางวัลดารานำชายยอดแย่ของราซซี่อวอร์ดแน่ะ แต่ด้านรายได้โกยไป 72 ล้าน จากทุนแค่ 11 ล้านเท่านั้นเอง ในเรื่องพี่ Jim แกบ้าจริง แต่ก็น่ารักนะครับ ไม่ได้ทุเรศหรือเลวร้าย ไม่ได้หยาบคายมากมายด้วย


มิหนำซ้ำบทยังไม่ลืมว่านายเอซคนนี้คือยอดนักสืบ จึงมีการแทรกความฉลาดและไหวพริบในการสืบคดีของเขาไปตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดที่เยี่ยมนะครับ หนังฮาจริง แต่ไม่ได้ไร้สาระ ไม่ได้หลุดโลกไปเสียทั้งหมด คนดูจึงฮากับท่าทางของเอซ แล้วก็ทึ่งไปกับลีลาการสืบคดีของเขา ที่สืบแบบสังเกตจริง รู้จริง


แค่ท่าทางเขาครื้นเครงเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง หนังได้ Jim แกดึงความสนใจตลอดเรื่องครับ ด้านการสืบคดีก็ใช้ได้นะ ไม่ได้เลอะเทอะเลื่อนลอยอะไร จริงๆ มันก็ออกแนวคินดะอิจิแล้วก็โคนันน่ะครับ ที่พระเอกตามสืบแล้วก็เจอฆาตกรวายร้ายที่แฝงตัวในหมู่พวกเขามาตลอด เพียงแต่การไขคดีแกจะเน้นฮาน่ะครับ


เลยไม่ลุ้นแต่ขำมากกว่า ดาราในเรื่อง หนังถ่ายทอดสด ก็โดนพี่แกแย่งความเด่นไปหมด ตั้งแต่นางเอก Courteney Cox ในบทเมลิสซ่าที่มาสวยเป็นหลัก กับ Sean Young ในบทตำรวจสาวลอยส์ เอนฮอร์น ก็ดูดุดันร้ายกาจ และรำคาญลีลานายเอซมาก (เป็นผมก็รำคาญนะบางทีน่ะ) และก็ยังได้ Dan Marino นักกีฬาตัวจริงมาเล่นรับเชิญให้ด้วย


ถือเป็นหนังที่ทำให้เฮีย Jim และ Tom Shadyac ผู้กำกับดังไปด้วยกัน ตัวหนังก็สนุกครับ แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบมุกฮาแบบแพรวพราว ลีลาตัวละครที่ออกแนวการ์ตูนแบบเกินร้อย แต่ถ้ารับได้ล่ะก็ ผมว่าคุณๆ น่าจะสนุกกับลีลาฮาแตกของนาย Jim คนนี้นะครับ ผมยังอดชอบไม่ได้เลย


หนังฮาแบบน่าจะเลอะเทอะ แต่ไม่เลอะเทอะแบบนี้ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ นะครับ มันต้องคุมอะไรกันพอควร แต่ก็ต้องปล่อยให้นาย Jim แกอิสระอีกเหมือนกันไม่งั้นหนังจะไม่สุด ก็ต้องขอชมทีมงานล่ะครับ ทำออกมาได้ค่อนข้างพอดีจริงๆ อยากขำล่ะก็ ไม่ผิดหวังหรอกครับ