ทรงพลังไร้ที่ติ ไม่มีช่วงน่าเบื่อ ใน Just Mercy (2019)

ขอจั่วหัวว่าเป็นหนังที่มีฉากหนึ่ง ทำให้นึกไปถึงฉากเก้าอี้ไฟฟ้าใน The Green Mile

แค่นี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ไม่ต้องดูแล้ว แต่มันไม่ได้ให้อารมณ์แบบเดียวกันนะ เป็นอีกอารมณ์ที่ลุ่มลึกไม่แพ้กัน หนังเป็นงานหยั่งชั้นเชิงหยั่งกึ๋นของ เดสติน แดเนียล เครทตัน ผู้กำกับเชื้อฮาวาย-ญี่ปุ่น ก่อนที่จะโดดไปกำกับหนัง Marvel อย่าง Shang-Chi โดยนักแสดงก็ใช้ของ Marvel นี่แหละ ไมเคิล บี.จอร์แดน ปะทะ บรี ลาร์สัน ภายใต้ชายคา


เอ่อ.... Waener ดูย้อนแย้งทั้งแนวหนัง ดารา ผู้กำกับ และค่ายหนังกันเลยทีเดียว เป็นหนังแนวดราม่าขึ้นโรงขึ้นศาลน้ำดี คือเดี๋ยวนี้ฮอลลีวู้ดแม่งไม่ค่อยสร้างหนัง Courtroom drama ดีๆมาให้ดูกันละ เหลือแต่ Warner เนี่ยแหละที่ยังยืนหยัดทำออกมา แม้หนังจะไม่ขายแล้ว ดูหนังฟรี เรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงของทนายผิวดำไฟแรงที่เพิ่งฝึกงานจบสดๆร้อนๆแล้วก็เข้าไปรื้อคดีใหญ่ที่คนเมืองนั้นโกรธแค้น เป็นปฏิบัติการฝ่าตีนคนในเมืองเพราะเสือกไปช่วยฆาตรกรไม่ให้ถูกประหาร แต่เรื่องราวมันลึกไปกว่านั้น อันนี้ให้ไปตามดูเอาเอง บอกเลยว่าเป็นหนังดราม่าที่ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย เพลงประกอบแม่งก็บิ๊ลท์กูชิบหาย เพลงดีมากเรื่องนี้

ดูหนังฟรี

พูดถึงตัวหนัง จริงๆมันก็ตามขนบของหนังแนวๆนี้นั่นแหละ

คือทนายว่าความพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้จำเลย แต่หนังเน้นไปที่ชีวิตในคุกที่ขังนักโทษประหารไว้คล้ายๆใน The Green Mile นั่นแหละ หลายๆคนต้องโทษจากความฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่รัฐ บางคนก็ผิดจริงแต่เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยทางใจ ซึ่งพูดง่ายๆคือมีคนบริสุทธิ์จำนวนมาก ที่ถูกขังในที่นี้


และรอการตัดสินประหาร การรู้ว่าตัวเองว่ากำลังจะถูกตัดสินประหาร แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อาจจะอีกสามปี สองปี หรือเป็นพรุ่งนี้มะรืน ซึ่งหนังจะเข้าไปเจาะลึกจิตใจคนเหล่านี้ ได้ดีพอสมควร หนังทำให้เอาใจช่วยนักโทษประหารเหล่านี้ทั้งที่ผิดจริง และไม่ผิดเลยอย่างน่าประหลาด หนังออนไลน์ พูดถึงระบบการรื้อคดี การอุธรณ์ การค้นหาหลักฐาน สอบปากคำทั้งนักโทษเอง ทั้งครอบครัว ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ แน่นอนว่าพ่อหนุ่มทนายไฟแรงต้องเจอปัญหาสารพัดรวมไปจนถึงความเลวระยำของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย ถือเป็นหนังที่โชว์การแสดงของ ไมเคิล บี.จอร์แดน รวมไปจนถึง บรี ลาร์สัน ที่มาในบทผู้ช่วยสาวที่ถึงไหนถึงกัน เจมี่ ฟ็อกซ์ รับบทนักโทษประหารผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง คงไม่ต้องสาธยายใดๆกับการแสดงของแกแล้ว เรียกได้ว่าดูจบแล้วเกินอิ่ม ถือเป็นหนังดีที่อย่าได้พลาดกันเลยเชียว เพราะมันจะยิ่งอินไปเป็นเท่าตัวเมื่อเอามาเปรียบเทียบกับระบบยุติธรรมของประเทศในแถบๆนี้


หักไปคะแนนนึงเพราะยังขยี้พวกเจ้าหน้าที่รัฐได้ไม่สะใจพอ ก็จ้องเข้าใจว่าหนังสร้างจากเรื่องจริงมันมีผลกระทบกับคนที่มีตัวตน แต่นั่นแหละถ้าได้ขยี้ตรงนี้เพิ่มมันจะเพอร์เฟ็คมาก