ดีแตก หนังที่ต่อจิ๊กซอว์ แล้วใช้ตีนเหยียบไม่เหลือชิ้นดี

จำได้ว่ากูเกลียดตอนจบมากๆ ตอนได้ดูครั้งแรกๆ เป็นความดาร์คที่หาไม่ได้ในหนังแนวๆไขว้คว้าฝันที่กำกับโดยลุงอังเคิล


ถ้าหนังตระกูล ซึม+ปลื้ม มันสามารถสร้างเป้าหมายให้วัยรุ่นยุคนั้นลุกขึ้นมาเติมไฟฝัน "ดีแตก" ก็ตรงตามชื่อของหนังเลยคือ งั้นกูขอฉุดมึงลงมาสู่โลกความเป็นจริงบ้าง ไอ้การที่พระเอกไปช่วยนางเอกที่ถูกจับตัวได้ทันเวลาโดยที่นางเอกไม่โดนแม้แต่จับนม เหมือนหนัง+ละครไทยเรื่องอื่นๆที่เห็นชินตา นั่นน่ะไม่ใช่สำหรับ "ดีแตก"

หนัง HD

แต่ก่อนจะตบกบาลคนดูในช่วงท้ายของหนัง ดีแตกถือว่าก่อร่างสร้างเรื่องราวได้เป็นอย่างดี เป็นความจริงที่ควบคู่ไปกับความฝัน พี่ชายอย่างวุฒิ คือฝั่งที่ยืนอยู่บนความเป็นจริง / ส่วนวิทย์น้องชายนั้นยังคงติดอยู่กับวังวนของความฝัน หนังไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด ทั้งคู่ล้วนมีเหตุและผลของตนเอง คนหนึ่งพยายามใช้ความเป็นจริงปกป้องน้องชาย หนัง HD ส่วนน้องชายนั้นลึกๆแล้วเรามองออกว่าวิทย์อยากโด่งดังร่ำรวยเพื่อที่ว่าในภายภาคหน้าพี่ชายจะได้ไม่ต้องซ่อมรถเนื้อตัวมอมแมมอีกต่อไป ต่างฝ่ายต่างมีเจตนาปกป้องกันและกัน แม้กระทั่งในแง่ของความรักเองก็ตามที บ่อยครั้งที่วุฒิบกพร่องในเรื่องของการทำหน้าที่คนรัก แต่เขาต้องทำเพื่อที่ว่าในอนาคตเขากับจ๋าจะได้ไม่ต้องลำบากลำบน มันคือการปกป้องคนรักในแบบฉบับคนที่โตแล้ว / แต่วิทย์เลือกปกป้องคนที่ตนรักด้วยความเพ้อฝัน เขาแทบไม่มีอะไรเป็นหลักประกันในความรักเลยนอกเสียจากการพาจ๋าเที่ยว ปลอบโยนจ๋า และซื้อของให้ นี่เองที่หนังแหกสูตรหนังหรือละครไทยด้วยกันให้กลับมาสู่โลกความเป็นจริงอันโหดร้าย การที่บทหนังให้จ๋ายังเลือกฝั่งที่ปกป้องเธอด้วยความเป็นจริง นี่แหละคือสิ่งที่หนังต้องการจะบอกคนดูว่า หยุดเพ้อฝันซักแป๊บ ตัวละครในหนังมีเจ็บมีตาย นางเอกแท้ๆก็มีโดนผู้ร้ายเอาได้เหมือนกัน มันจึงเป็นหนังที่ยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและซื่อสัตย์กับคนดูแบบตรงไปตรงมาที่สุดแล้วในยุคนั้น จำได้ว่ามีคนเกลียดหนังเรื่องนี้มากพอๆกับชอบ เกลียดในที่นี้คือไม่ใช่หนังไม่ดี แต่เกลียดในความที่มันเหมือนต่อจิ๊กซอว์มาเป็นอย่างดี เพื่อที่สุดท้ายแล้วลุงอังเคิลจะใช้ตีนขยี้ให้แผงจิ๊กซอว์นั้นแหลกคาตีน แล้วตะโกนใส่หน้าคนดูว่า ต่อใหม่เอาสิวะ โลกความเป็นจริงถ้าอะไรมันพังทลายก็ต่อเอาใหม่ ซ่อมเอาใหม่ รู้สึกแย่กับหนังเรื่องนี้ก็ไปหาเรื่องใหม่มาซ่อมความรู้สึกเอาสิ ก็กูอยากทำอย่างนี้ อาชีพในหนังของวุฒิคือช่างซ่อมรถ แม้จะดูเป็นอาชีพจริงๆจังๆมากกว่าการเป็นนักดนตรีของวิทย์ แต่หากมองให้ลึกแล้ว ช่างซ่อมรถเองก็หากินกับความฝันของคนเหมือนกัน คือลูกค้าทุกๆคนก็ฝันอยากได้รถที่มีสภาพดีดังเดิม และมันเป็นความใฝ่ฝันที่จับต้องได้จริง ชีวิตของวุฒิแม้จะดูไม่เท่เท่าวิทย์ แต่เขาเกิดมาเพื่อปกป้องทุกสิ่งอย่างทั้งครอบครัว ทั้งรถ ทั้งคนรัก สิ่งเดียวที่เขาทุบทำลายก็มีแค่กีต้าร์โปร่งของวิทย์ตัวนั้นแหละ หนังใช้เวลาราว 20 นาทีท้าย พังความรู้สึกคนดูทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของคุณความดีไม่ช่วยอะไร ในเรื่องของความใฝ่ฝัน อันเกี่ยวโยงไปถึงผลงานเรื่องก่อนหน้าของลุงอังเคิล หรือแม้กระทั่งในเรื่องการสร้างบาดแผลในจิตใจให้จ๋า นางเอกของเรื่อง คือเหมือนเป็นหนังที่แหกขนบ ตบหัวคนดูอย่างใจร้าย และในขณะเดียวกันมันก็สั่งสอนให้คนดูระแวดระวังการใช้ชีวิตได้ดีเหมือนกัน ความเหี้ยในสังคมมันมีทุกที่ ถึงแม้ไอ้วิทย์จะไม่ได้ไปกวนตีนขาใหญ่ในโต๊ะสนุ๊ก เรื่องก็มาถึงตัวพวกมันอยู่ดีเพราะป้าของจ๋าไม่ยอมขายที่ให้เสี่ยผู้มีอิทธิพล แม้หนังจะใจร้ายกับคนดูเพียงไรก็ตาม หนังก็ไม่ได้บอกว่าใครถูกหรือผิดระหว่าง วุฒิ กับ วิทย์ แต่หนังตั้งใจโยนความผิดให้คนชั่วในสังคม ลงโทษคนเลวให้คนดูเห็น นี่แหละคือสิ่งที่พอจะเยียวยาจิตใจหลังดูหนังเรื่องนี้จบได้นั่นคือการเห็นความพังพินาศของคนชั่ว นี่ถ้าลุงอังเคิลเลือกให้คนชั่วไม่โดนลงโทษ ไม่รู้ว่ากูจะเกลียดตอนจบเรื่องนี้แค่ไหน แต่คิดเล่นๆถ้าทำแบบนั้นจริงๆ "ดีแตก" มันจะเป็นตำนานความดาร์คของหนังไทยมากกว่าที่เป็น เว็บสตรีมหนัง พอโตขึ้นแล้วตกผลึกทางความคิดได้ กูค้นพบว่านี่คือตอนจบของหนังไทยที่จริงใจที่สุดเรื่องหนึ่งบนโลกภาพยนตร์ แม้ว่ามันจะพังความรู้สึกมากแค่ไหนก็ตาม แต่ชื่อหนังมันก็บอกอยู่ตรงๆตัวอยู่แล้วว่า "ดีแตก" และถึงแม้ว่ามันจะจบได้ตรงและดีสักแค่ไหนก็ตาม กูยังจำความรู้สึกตอนดูครั้งแรกได้อยู่ดีคือ "เกลียดตอนจบมากกกกก!!!!" กูมันสายอ่อนไหว ต้องให้เควนตินฆ่าฮิตเลอร์แบบโหดๆ


ให้ดูเพื่อปลอบโยนชาวยิว , ต้องให้เควนตินกระทืบฮิปปี้ให้ดูเพื่อปลอบใจชารอน เท็ต กับลูกในท้องบนสรวงสวรรค์ แต่เจอความดาร์คของลุงอังเคิลเข้าไป กูยอมแพ้เลย ใช่คนเดียวกับที่ทำ ปลื้ม+ซึมฯ แน่เหรอวะ