รำลึกเหตุการณ์ 9/11 หนังอิงกระแส กับแผลในใจที่ยังไม่หายดี

มีคำถามมากมายในขณะนั้น จากคนอเมริกาและทั่วโลก ยิงตรงถึง Universal Pictures

ถึงการส่งหนังอย่าง United 93 เข้าฉาย เนื่องด้วยเหตุการณ์ 9/11 เพิ่งผ่านพ้นไปเพียง 5 ปี บาดแผลในใจของคนอเมริกันและชาวโลกยังไม่ทันหายดี แต่ทางสตูดิโอยืนยันว่า United 93 คือหนังสดุดีความกล้าหาญของคนในเที่ยวบินลำนั้น โดยผ่านการหาข้อมูลและทำเรื่องขออนุญาตไปยังญาติๆผู้เสียชีวิตในเที่ยวบินนั้นแล้วแบบเรียงตัว

ในขณะที่มีการถกเถียงกันอย่างรุนแรง หนังทุนสร้างเพียง 15 ล้านเหรียญ เรื่องนี้ก็จบรายได้ทั่วโลกไปที่ 76 ล้านเหรียญ แน่นอนว่ามันไม่ค่อยน่าพอใจมากนักสำหรับหนังที่พูดกันตามตรงว่าเป็นการอิงกระแสจากเหตุโศรกนาฏกรรม ​ดูหนังออนไลน์​ 9/11 แต่เมื่อเทียบกับทุนสร้างแล้ว เรื่องนี้ได้กำไรไปเต็มๆหลายเท่า และมันน่าจะทำกำไรได้งามกว่านี้อีก หากหนังถูกสร้างหลังเหตุการณ์ 10 ปี ขึ้นไป ในวันที่บาดแผลชาวโลกเริ่มตกสะเก็ด ในปีนั้นมีหนังอีกเรื่องของ โอลิเวอร์ สโตน อย่าง World Trade Center ที่เข้าฉายหลัง United 93 สามเดือน แน่นอนว่าหนังก้ยังคงทำรายได้ไม่มากพอที่จะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จจากการเอากระแส และเมื่อเทียบกันแล้วผู้ที่ได้ดูหนัง ทั้งสองเรื่องในขณะนั้น หลายคนเทใจให้ United 93 ของผู้กำกับ พอล กรีนกราสส์ มากกว่า อย่างแรกคือมันเป็นหนังที่สร้างขึ้น เพื่อสดุดีเหยื่อในเที่ยวบินลำนั้นจริงๆ อย่างต่อมาคือเรื่องของความสนุกลุ้นระทึก แม้จะถูกค่อนขอดว่ามันใช่เวลามาสนุกกันมั้ย แต่มันก็ยังยืนอยู่บนพื้นฐานหนังที่น่าเสียเงินให้มากกว่ายานอนหลับขนาดยาวอย่าง World Trade Center ของ โอลิเวอร์ สโตน ที่สร้างขึ้นเพื่อสดุดีเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ด้วยความที่บารมีของผู้กำกับบรมครู ทำให้หนังจบรายได้ที่ 163 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าค่อนข้างผิดฟอร์มเมื่อเทียบกับทุน 65 ล้านเหรียญ


ดูหนังออนไลน์

หนังสองเรื่องล้วนมีจุดประสงค์ที่ดี แต่ยังคงเร็วไป ว่ากันว่ามีผู้สร้างอีกหลายเจ้าที่จ้องจะทำหนังเกี่ยวกับ 9/11

ในขณะนั้น หรือก่อนหน้านั้นก็ตาม หนึ่งในนั้นคือหนังของ ไมเคิล เบย์ กับ โรแลนด์ เอมเมอริค ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกล่มโปรเจ็คไปก่อนที่มันจะโดนด่าไปกว่านี้ แต่มาคิดดูอีกที สมมติหาก ไมเคิล เบย์ ทำหนังอิงกระแส 9/11 ณ ตอนนั้น เชื่อขนมกินได้เลยว่า แกจะทำบ่อน้ำตาคนดูแตก และทำรายได้มหาศาลได้อย่างแน่นอน เพราะเบย์ถือเป็นผู้กำกับสายแมส ที่แม้จะขี้โม้ไปบ้าง

แต่เขาทำหนังเกี่ยวกับการปลุกใจเพื่อนร่วมชาติอเมริกาได้ฮึกเหิมคนหนึ่งเลยทีเดียว จริงๆค่ายหนังน่าจะวัดดวงกันไปเลย อยากเห็นเหมือนกันว่า ไมเคิล เบย์ จะโดนด่ามั้ย เพราะปรกติหนังของเขาก็โดนด่าอยู่แล้วแต่เสือกทำเงินแบบมโหฬาร เว็บดู​หนัง ยุคนั้นหากไม่ได้ทำหนังเกี่ยวกับ 9/11 โดยตรง ผู้กำกับหนังหลายๆคนก็พากันแอบหยอดประเด็นนี้เข้ามาบ้าง แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าหนัง 9/11 ที่ทำกำไรที่สุดในช่วงเวลานั้นคือหนังสารคดีของ ไมเคิล มัวร์ อย่าง Fahrenheit 9/11 แถมมันถูกสร้างออกมาฉายหลังเหตุการณ์เพียง 3 ปี โดยทำเงินไปทั้งสิ้น 222 ล้านเหรียญ ด้วยทุนสร้างเพียง 6 ล้านเหรียญ แถมไม่มีใครด่า ไมเคิล มัวร์ ได้เลย ทุกคนมุ่งเป้าไปด่า จอร์จ ดับเบิ้ลยู.บุช กันหมด และหนัง Fahrenheit 9/11 เรื่องนี้เองทำให้สตูดิโอผู้สร้างเจ้าอื่นๆมั่นใจว่าคนอเมริกายังพอรับได้กับการที่จะมีใครสร้างหนังอิงกระแส 9/11 เพราะขนาด ไมเคิล มัวร์ ทำหนังสารคดีให้ออกมาได้ตลกร้ายขนาดนั้นยังทำเงินไปเท่าไหร่ แล้วถ้าทำหนังที่มีเนื้อหาในเชิงสดุดีผู้อยู่ในเหตุการณ์ มันจะทำเงินสักแค่ไหน ก็อย่างที่เห็นกันนั่นแหละ เหมือนว่าทั้ง World Trade Center กับ United 93 จะมาเร็วไป จึงทำให้คนอเมริกาอาจยังไม่ได้เปิดรับ หนังสตูดิโอใหญ่ที่มีการเขียนบทเสริมเติมแต่ง มันต่างจากหนังสารคดีที่หลายๆภาพเหตุการณ์มันคือข้อมูลจริง จุดประสงค์มันย่อมต่างกันชัดเจนว่าหนังมันถูกสร้างมาเพื่ออะไร กรณีนี้ต่างออกไปจากหนังรางวัลออสก้าร์อย่าง Crash ปี 2004 ที่นำเสนอในเรื่องของผลกระทบและการสูญเสียของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ การที่หนังเรื่องนี้ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง มันถูกยกเป็นกรณีศึกษาและเป็นช่องทางอย่างดีให้สตูดิโอผู้สร้าง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำเสนอออกมาได้หลักแหลมหรือดูจงใจอิงกระแสกว่ากัน หลังจากแผลสดในใจของคนอเมริกา เริ่มตกสะเก็ดแล้วเป็นแผลเป็น ก็ถึงช่วงเวลาที่ฮอลลีวู้ดพร้อมใจกันเอาคืน

โดยการทำหนังทวงแค้นในรูปแบบตามล่าหัวผู้อยู่เบื้องหลัง The Hurt Locker (2008) กับ Zero Dark Thirty (2012) ของผู้กำกับหญิง แคทริน บิเกโลว์ คือหนังในประเภทนั้น และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อปลอบใจกันอีกแล้ว แต่เป็นการชำระแค้นให้อย่างที่ควรจะเป็น