มือปืนโลกพระจันทร์ หนังที่พิสูจน์ว่า ตลก ก็เล่นบท ดราม่าได้

จำกันได้มั้ยว่า ดู มือปืน โลก/พระ/จัน กันไปคนละกี่รอบ และความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้เป็นยังไง ลองมาทบทวนความจำกัน


"ฝันร้ายเกิดจากจิต ต้องดับที่จิต ไม่ใช่ที่ชีวิตคนอื่นนะโยม" ไดอะล็อกที่เป็นโครงสร้างหลักของหนัง ว่าหลักของศาสนาพุทธ คือการ "ให้อภัย" สุดท้าย...คนที่เป็นทุกข์จากการล้างแค้นคนอื่นมาตลอดชีวิต กลับเป็นคนที่ต้องการให้คนอื่นให้อภัยตัวเองมากที่สุด สิ่งที่ "คิด ไซเรนเซอร์" เรียนรู้จากการเป็นฝ่ายฆ่าพ่อคนอื่นบ้าง

ดูหนัง

ว่าการให้อภัย คือการจบทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ต้องมีการสูญเสีย คนที่ไม่สามารถปล่อยวางจากความแค้น ก็จะจมทุกข์อยู่กับฝันร้าย กับการล้างแค้นไปตลอดชีวิต "โลกของมือปืน" หนังพาไปสำรวจโลกของคนที่จิตใจเด็ดเดี่ยวพร้อมปลิดชีวิตคนอื่นเพียงแค่ลั่นไก แต่พวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ มีบาดแผล ดูหนัง และในโลกโทนสีมืดๆ ของพวกเขา มันมีมุมสว่างในแง่มิตรภาพ ความเป็นพี่น้อง การให้ความเคารพนับถือ สัจจะต่อกันในวงการ และการหักหลังเมื่อคุณหมดประโยชน์ ไปจนถึงมุขตลกเสียดสีคนอาชีพมือปืน ถึงความรู้การศึกษาอันต่ำต้อย จนทำให้เส้นทางของพวกเขา ก้าวหนีไม่พ้นยาเสพย์ติด และการฆ่าคนเพื่อเลี้ยงชีพ แต่หนังเรื่องนี้ ทำให้มือปืนดูเป็นมนุษย์ มีชีวิตจิตใจ และน่าสงสาร "มือปืนรุ่นเก๋าตกยุค ถูกดิสรัปต์โดยมือปืนรุ่นใหม่" นอกจากหลักพุทธศาสนา ต้อม ยุทธเลิศ ยังเล่นกับสัจธรรมของโลกที่ไม่มีใครอยู่คับฟ้า เมื่ออายุเยอะ ฝีมือตก ในโลกที่มือหนึ่งตกยุค ความเก๋า กลายเป็นของเก่า จนโดนเด็กรุ่นหลัง มือปืนฝรั่งเข้ามาโค่นบัลลังก์ คือสัจธรรมที่เกิดขึ้นได้ในทุกวงการ แต่ไอ้ความเก๋านี่แหละ ที่บ่มจนเกิดเป็นงานแอ็คชั่น-คอเมดี้ ที่เติมด้วยเหล้าวิสกี้ดราม่า-พุทธศาสนา เข้มๆ เขย่าเข้ากันอย่างลงตัว "คาแรกเตอร์โดดเด่น พาคนดูรักตัวละคร"รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ที่เอาใจช่วยนั่นคือมือปืน แต่การดีไซน์-สร้างปมอดีตให้กับตัวละคร ก่อนจะพาพวกเขาไปสู่ชะตากรรมอันแสนปวดร้าว ยิ่งทำให้เราอดรักตัวละครเหล่านี้ไม่ได้ ที่สำคัญ เรายังเห็นการบียอนด์ของดาวตลกหลายคน ที่ก้าวผ่านการเป็น "ตลก" มาเล่นหนัง แต่มา "แสดงหนัง" ในบทดราม่าเข้มๆ ต่างจากหนังยุคปัจจุบัน ที่เห็นนักแสดงตลก ก็รู้ทันทีว่าเราจะได้เห็นการแสดงแบบไหน มุขอะไรที่จะถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้ ป๋าเทพ น้าหม่ำ พี่เท่ง และอาถั่วแระ ทำในสิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น กับการสร้างการแสดงอันน่าจดจำเอาไว้ในระดับมาสเตอร์พีซ ที่ไม่รู้จะได้เห็นอีกหรือไม่จากพวกเขา ไม่แปลก ที่เราจะเสียน้ำตาให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน หมา ลูกบักเขียบ และ เอ๋อ เอลวิส แม้แต่เป๋ ปืนควาย เป็นการพิสูจน์ว่า พวกเขาคือนักแสดงฝีมือจริงๆ "จำลองโลก/สังคม ดิสโทเปีย ลายเซ็นต์อันโคตรชัดเจนของ ต้อม ยุทธเลิศ" อีกหนึ่งลายเซ็นของผู้กำกับ คือการจำลองสภาพสังคม หรือสถานที่ต่างๆ ให้มีการแบ่งแยกชนชั้น มีเผด็จการ ความไม่เท่าเทียม จุดเด่นแต่ละเรื่องของเขา มักสะท้อนวิถีการดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่รอดของชนชั้นกลางค่อนล่าง โสเภณี นักมวย เซียนพระ คนขายแผ่นหนังเถื่อน เหมือนที่เราได้เห็นชีวิตมือปืนตกรุ่นไม่ได้อัพเดทวินโดว์ พร้อมกับเสียดสีการเมือง ศาสนา สังคม การกดขี่ทางเพศลงไปอย่างกลมกล่อม ส่วนในมือปืน โลก/พระ/จัน หนังฉายภาพเมืองไทยในวันที่สภาพเศรษฐกิจเลวร้าย จนธุรกิจตกในมือต่างชาติที่เข้ามาหากิน แย่งงาน ซึ่งมันเลวร้ายถึงขั้นมีผู้สมัครนายกเป็นฝรั่ง และคนไทยต้องใช้เงินดอลลาร์ แย่งกันหางานแม้กระทั่งแวดวงมือปืน จนต้องกลับไปทำไร่ไถนา เป็นสังคมสมมติที่ดีไซน์ออกมาได้แรง และน่าสนใจ เมื่อแกนทั้งหมด ถูกเล่าผ่านวิธีการของยุทธเลิศ ที่เก่งกาจในการเล่นกับสถานการณ์เล็กๆ ที่บานปลาย ความอีรุงตุงนังที่พลิกไปมาจนคาดเดาไม่ได้ ซึ่งในมือปืนโลกพระจันทร์ การว่าจ้างผิดจน จากเป๋ ปืนควาย เป็น เป๋ ท่าทราย กลับกลายเป็นเรื่องการล้างแค้นระหว่างมาเฟียและมือปืนได้ หรือสายล่อฟ้า ก็เล่นกับเงิน 3 ล้านได้อย่างถึงของ "ฉากตลก ฉากแอ็คชั่น งานคราฟต์ที่เป็นส่วนสำคัญของเรื่อง" มือปืนโลกพระจันทร์ มีฉากจำมากมาย อาจเพราะเราไม่เคยเห็นนักแสดงอย่าง โปรแกรมหนัง หม่ำ จ๊กม๊ก, ป๋าเทพ, เท่ง เถิดเทิง ควงปืนเขวี้ยงระเบิดกันแบบนี้ มันจึงมีการคราฟต์ซีนต่างๆ ขึ้นมาเพื่อส่งให้พวกเขาโคตรเท่ และปล่อยหมัดเซอร์ไพรส์คนดู โดยเฉพาะฉากดวลปืน ฉาก "หมา ลูกบักเขียบ" ต่อสู้กับฝรั่งร่างยักษ์ด้วยระเบิด และภาษาท้องถิ่น เรียกเสียงเชียร์และเสียงปรบมือก้องโรง หรือฉาก หมาและผี เสพยาบ้าในวัด นี่คือซีนที่ตลกแบบคอมโบเซ็ต และฉลาดดีไซน์ขึ้นมา ซีนตลกของเรื่อง


คือการขยี้คาแรกเตอร์ หาใช่ขับความเป็นหม่ำ จ๊กมก หรือถั่วแระออกมาให้คนตลก นี่คืองานท็อปฟอร์มของยุทธเลิศ หรือเรียกว่ามาสเตอร์พีซก็คงไม่กระดากปากนัก มันได้สร้างปรากฏการณ์เอาไว้มากมาย เป็นหมุดหมายหนึ่งของวงการหนังไทยก็ว่าได้