DOCTOR SLEEP (2019)

ดูหนังออนไลน์

ใครมันจะไปหลับลงวะ นี้มันหนังซูเปอร์ฮีโร่ชัดๆ


ทราบมาว่า แม้หนัง The Shining จะเป็นงานที่ขึ้นหิ้งเพียงใด แต่ทว่าผู้ประพันธ์นิยายอย่าง สตีเฟ่น คิง กลับไม่ค่อยปลื้มแนวทางที่ผู้กำกับ สแตนลี่ย์ คูบริค ทำเอาซะเลย ส่วน Doctor sleep ภาคต่อเรื่องนี้ทั้งแฟนเดนตายของนิยายและตัวสตีเฟ่น คิง เองถึงกับเอ่ยปากชมว่าเคารพฉบับนิยายและสามารถทำได้เด็ดดวงตรงตามที่หนังสือจะสื่อมากกว่า


ส่วนตัวแล้วไม่เคยอ่านฉบับนิยาย เลยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไปเจอเวย์นี้ของหนัง ส่วนหนังภาคแรกนี่ก็ค่อนข้างไปในทาง อืม..ก็โอนะ แต่ไม่ได้ยกย่องให้มันเป็นงานคลาสสิคขึ้นหิ้งอะไรเบอร์นั้น ส่วนหนึ่งเพราะกูไม่ค่อยเก็ตกับความสยองแนวฝรั่งมังค่าด้วยแหละ แต่สำหรับภาคนี้คือแม่งแทบจะไปคนละทางกับภาคแรกเลย


และกูเกือบปาผ้าคลุมซูเปอร์ฮีโร่เข้าไปในจอ ให้มึงสวมใส่กันแล้ว เพราะนี่มัน ดูหนังออนไลน์ ซูเปอร์ฮีโร่ชัดๆ ทิศทางของหนังมันไปทางนั้นเลย หน้าหนังแม่งไม่ได้ขายไปทางนั้น แต่ขอบอกสำหรับพวกที่เกรงกลัวว่าจะเข้าไป sleep ใส่หนังเหมือนชื่อของมัน พวกมึงจะหลับไม่ลงแน่นอน เวลาจะจ้วงแดกป๊อปคอร์นในมือจะมีรึเปล่ายังไม่รู้


คือแม่งซัดอัดคนดูด้วยความน่าฉงนแบบโรยทางเรื่องด้วยขนมปังให้เราตามเก็บแล้วมาปะติดปะต่อกันในตอนกลางเรื่อง แล้วแม่งก็ซัดคนดูด้วยการกลายสภาพเป็นหนังแนวคนเหนือมนุษย์เต็มตัว มีปะปนด้วยกลิ่นความสยดสยองหน่อยๆ ซึ่งแม่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเอามากๆ

แต่แฟนเดนตายภาคแรกอย่าเพิ่งหัวเสียกัน เพราะช่วงท้ายของหนังยังไว้ลาย ตบกลับมาเป็นงานที่มีกลิ่นภาคแรกเหมือนเดิม หน้าหนังไม่ได้ทำให้คิดเป็นเวย์นี้เลย แถมจงใจขายแค่ยวน แม็คเกรเกอร์ + ธีมเก่า + ขุดของเก่ามาหาแดกรัวๆ แต่เปล่าเลย พอเข้าไปดูจริงๆแม่งกลายเป็นหนังดูเอามันส์เรื่องหนึ่งได้เลย ไม่ sleep แน่นอน


แถมตัวหลักๆในหนังนี่แม่งพากันเท่เหลือแดก โดยเฉพาะ รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน ในบท อีโรสหมวกดำ นี่แม่งคือมาเพื่อติดโผตัวละครที่น่าจดจำคนหนึ่งในโลกภาพยนต์ ยวน แม็คเกรเกอร์ เรื่องนี้มาในบทตัวแทนของ สตีเฟ่น คิง เอง เพราะว่ากันว่าเรื่องนี้ คิง แต่งขึ้นโดยใส่ตัวเองตอนติดเหล้าติดยาลงไปในตัวละครแดน เด็กน้อยจากภาคแรกที่เติบโตมากับชีวิตที่ไม่ค่อยจะโสภาเท่าไหร่นัก


หนังภาคนี้เน้นไปที่ห้วงอารมณ์แห่งการปฏิเสธของมึนเมา ซึ่งน่าขันมากที่กูลุ้นกับการเลิกเหล้าของมึงมากกว่าตอนผีออก หรือตอนหน้าสิ่วหน้าขวานใดๆในเรื่องเสียอีก นี่เองที่ทำให้ สตีเฟ่น คิง ยอมกราบการดัดแปลงเป็นหนังของ ไมค์ ฟลานาแกน เลย แถมมีฉากที่ให้อารมณ์เหมือนตอนเสพยา พวกโคเคนอะไรเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นซีนไหนนั้นไปดูเอง แม่งได้อารมณ์อัพยากันเหี้ยๆ


ถ้าถามว่ายุคนี้ใครคือเบอร์หนึ่งที่ทำหนังแนวๆนี้ได้ดีที่สุด ตอบเลยว่าไม่ใช่ เจมส์ วาน แน่นอน ในขณะที่จักรวาลของ เจมส์ วาน อัดซัดคนดูด้วยความเป็นหนัง Jump scare (ตุ้งแช่!) โดยใช้มุกเดิมๆมาหาแดกจนเฝือในยุคหลังๆ ของอีตา ไมค์ ฟลานาแกน นี่ต่างออกไป ฝั่งนี่เก่งเรื่องปั่นหัวคนดู แถมนำเสนอด้านอ่อนไหวของมนุษย์ได้ดีมากๆ


ซึ่งความอ่อนไหวในอารมณ์ของตัวละครนี่แหละ มันทำให้คน ดูหนังผ่านเน็ต สนุกและลุ้นไปกับตัวละครจากบทหนังของไมค์ ฟลานาแกน แถมแกเข้าใจคาราวะของเก่าจนทั้งผู้เขียนนิยาย หรือแฟนเดนตายนั่งยิ้มไปตามๆกัน(ใน The Haunting of Hill House ก็เคยมาครั้งแล้ว) แม้แต่ สแตนลี่ย์ คูบริค เองก็คงนั่งยิ้มไม่หุบถ้าแก่ยังอยู่


ต้องเรียกได้ว่าเป็นยุคที่ สตีเฟ่น คิง ยิ้มแก้มไม่หุบรัวๆเลย เพราะผู้กำกับเก่งๆเอานิยายแกไปทำแล้วทำออกมาได้ดีรัวๆเลย ก่อนหน้านี้ก็ IT และเดี๋ยวมีตามออกมาอีกรัวๆ ส่วน Doctor sleep เรื่องนี้ บอกเลยว่าอย่าได้พลาด เป็น 2 ชั่วโมงครึ่งที่แทบไม่รู้สึกรู้สาว่ามันนานเลย แล้วคุณจะหลงรักทั้งพวกตัวร้ายและฝั่งคนดี


โดยเฉพาะน้องหนู ไคลี่กห์ เคอร์แรน ผู้รับบท แอบร้า ที่เอาไปสู้กับน้องแอลใน Stranger thing ได้สบายๆ แต่ขอหักคะแนนนึง เป็นจุดเล็กๆที่เบื่อมากคือความพล่ามไปเรื่อยของตัวร้ายก่อนที่จะลงมือฆ่าที่เห็นในหนังมาแล้วเป็นหมื่นๆเรื่อง มึงจะตั้งหน้าตั้งตาฆ่าเลยแม่มึงจะมีผัวใหม่กันเหรอ


*** พวกยิปซี พวกฮิปปี้อะไรพวกนี้โดนแซะรัวๆในหนังฮอลลีวู้ดเลยช่วงนี้ ก่อนหน้านี้ก็ Midsomar , Once Upon a Time in Hollywood , zombieland 2 , จริงๆคือแม่งโดนมานานแล้วล่ะ พอๆกับพวกวีแกนแดกแต่ผัก แต่ก็แค่แซะขำๆ แต่หลังๆมานี่โดนขุดมาแซะจนดูแย่ ดูต่ำตมไปเลย