ทำไมเราไม่กลัวหนังผีเมืองนอก แต่หนังผีไทยน่ากลัวฉิบหาย

จำความรู้สึกตอนดู Ju-on ครั้งแรกได้ดี เป็นหนังผีที่เขาว่ากันว่าคือหนังผีที่น่ากลัว


หลอนจน Box office ญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้านแถบๆนี้สั่นสะเทือน หนังน่ากลัวถึงขั้นฮอลลีวู้ดเอาไปรีเมค แม่งคงน่ากลัวจริงๆนั่นแหละถึงได้ดังขนาดนี้ แม่งคงไม่ออกมาง่อยๆแบบ The Blair Witch Project หรอกมั้ง จำได้ว่าดูอีหนังเหี้ยนี่แล้วเวียนหัวสัส กูยังสงสัยจนทุกวันนี้ว่ามึงกลัวเหี้ยไรกัน ถ่อสังขารเข้ากรุงเทพฯเพื่อมาดู Ju-on


เรื่องนี้โดยเฉพาะ(ปรกติช่วงนั้นอาศัยอยู่ซานฟรานฯ) ปรากฏว่าหนังผีเหี้ยนี่ทำกูเสียเวลามาก มากพอๆกับ The Blair Witch Project นี่แหละ ยังดีที่แม่งทำให้กูขำได้ ขำแม่งทุกซีนที่ผีออก อีผีบิดขี้เกียจตัวแม่ กับ ผีเด็กแป้งโคโดโหมะตัวลูก ออกมาแต่ละทีจินตนาการกูนี่บรรเจิดเลย อย่างอีผีบิดขี้เกียจที่มันบิดๆเลื้อยๆมาตามพื้นนี่มึงเป็นเหี้ยอะไร สันนิบาตแดกลำตัวมึงเหรอ ขี้เกียจหลอกคนขนาดนี้มึงไม่นอนในหลุมสบายๆวะ ดูหนัง เจอแบบนี้กูเตะผ่ากลางลำตัวแม่งจริงๆนะ ดูไม่ได้มีพิษมีภัยเหี้ยไรเลย แล้วไอ้เด็กตัวขาวอีกตัว แม่มึงทำแป้งหกใส่ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมเหรอไอ้สัส ยืนมองหน้ากูจับทอดแดกแม่ง ไหนๆก็ชุปแป้งขนาดนี้แล้ว ออกจากโรงมาด้วยจิตใจไม่เป็นสุข แล้วมานั่งคิดๆวิเคราะห์ดูว่าทำไมกูไม่เคยกลัวหนังผีต่างประชาติเลยวะ อย่างเช่น คืนผีเดือด ของฮ่องกงที่แม่งทำกันมาสิบกว่าภาคนี่เห็นเขาบอกว่าหลอนกันมากๆที่บ้านเขา กูเอามาดูทีไรเฉยๆมาก เฉยจนเลิกดูแม่ง แม้แต่หนังผีฝรั่งก็เหอะ ดูเอาสะดุ้งอย่างเดียว เลยจับสังเกตได้ว่า น่าจะเป็นเพราะเราไม่เคยชินกับบรรยากาศของชาตินั้นๆ ญี่ปุ่นเขากลัวของเขาเพราะเขามีวัฒนธรรม และเขาอยู่ในบรรยากาศนั้นมาตั้งแต่เกิด กูไม่เคยไปอยู่ญี่ปุ่น เจอผีญี่ปุ่นก็ถึงไม่ได้กลัวอะไร หนังผีไทยที่หลอนๆกันอยู่นี่ก็เพราะบรรยากาศมันคุ้นเคยไง ในวัดในวา เรื่องเปรต เรื่องปอบ อะไรพวกนี้ปู่ย่าตายายเล่าต่อๆกันมาตั้งแต่ขนตูดยังไม่ขึ้น ก็เลยกลัวกันเป็นธรรมดา

ดูหนัง

อย่างถ้าเอาคนจีนฮ่องกงมากำกับหนังไทย


เขาก็ทำออกมาอารมณ์แบบบ้านเขานะ คนเห็นผี ของ แดนนี่ กับ ออกไซด์ แปง สองพี่น้องคนฮ่องกงน่ะ บางซีนก็อารมณ์โคตรหนังผีฮ่องกง มันไม่น่ากลัวเท่ากับที่คนไทยทำหนังผีไทยเอง แต่บางฉากก็ใช้ได้ หลอนพอดูเลย ซึ่งรวมๆแล้วมันเป็นหนังผีไทยที่ให้อารมณ์จีนๆ ก็อาจเป็นผลพวงจากความเข้าใจและคุ้นเคยในบรรยากาศและวัฒนธรรม


หนังผีไทยเนี่ย ยุคนี้ส่วนใหญ่แม่งชอบไปตามหนังผีญี่ปุ่น หนังผีเจมส์ วาน ทั้งๆที่ทำให้คนไทยดูแม่งก็ตุ้งแช่!!กันอยู่นั่นแหละ มึงน่าทำเอาหลอนบรรยากาศกันป่ะวะ หนังผีที่หลอนบรรยากาศจริงๆก่อนจะมาตุ้งแช่กันทั้งบางนี่กูก็ต้องย้อนไปโน่นเลย เปนชู้กับผี ของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง นั่นน่ะคือคนทำหนังผีให้คนไทยดูจริงๆ แต่ยุคหลังๆมาผู้สร้างเขาเน้นขายนอก เลยพากันตุ้งแช่! Jump scare ตามๆเมืองนอกไป อย่างผีฝรั่งนี่ก็เช่นกัน เว็บดูหนัง แม่งกลัวอะไรกันวะ แดร็กคิวล่า , แวมไพร์ , หรือแม้แต่ผีหน้าดำๆแดงๆใน Insidious ก็เหอะ คือกูดูหนังมึงนี่ไม่ได้หลอนอะไรเลยนะ แค่กูไปดูเพื่อสะดุ้ง แค่นั้นเอง ที่ตามดูมึงมาหลายๆภาคนี่กูดูเอาสะดุ้ง ไม่ได้ดูเอากลัว พาสาวไปดูมันก็สะดุ้งมาซบไหล่ หนังผีทำเงินเยอะเพราะงี้แหละ ไอ้พวกหน้าหีชอบพาสาวไปดูแล้วทำเป็นปกป้องเธอ เผลอสะดุ้งกลัวเข้าหน่อยก็โอบ บางครั้งมีแอบจับราวนมก็มีสัส(สันดานกูเอง) แต่พอสอบถามเพื่อนๆฝรั่งดูมันก็บอกว่า ผีแม่ชีนี่แม่งโคตรน่ากลัว คือปรกติผีฝรั่งมันก็กลัวกางเขน กลัวอะไรๆที่อยู่ในโบสถ์อยู่แล้ว แต่นี่แม่งเป็นผีที่อยู่ในชุดแม่ชีอ่ะ คอมันยังห้อยกางเขนอยู่เลยอ่ะ คือแม่งไม่มีอะไรปราบมันได้อีกแล้วอีห่า อารมณ์เหมือนบ้านเราที่ พระเป็นผีซะเองอ่ะ นั่นแหละ คือแม่งผีกลัวพระ แล้วผีที่เป็นพระจะกลัวเหี้ยไรวะ กลัวคนไม่ออกมาใส่บาตรให้งี้เหรอ สรุปแล้วแค่จะบอกว่า หนังผีนี่จะน่ากลัวไม่น่ากลัวแม่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เราโตมาด้วยนะ ให้กูไปสุสานฝรั่งนี่กูเฉยๆ ทั้งที่เพื่อนฝรั่งกูแม่งบอกไม่ชอบไป แม่งน่าขนลุก แต่พอกูชวนมึงไปเดินดูวัด ดูพื้นที่ที่มีการฝังศพ เผาศพมากมาย มึงเสือกชอบดูชอบไป ไอ้สัสกูเดินกลางวันในตรงที่มีสถูปเจดีย์เยอะๆกูยังเยี่ยวแทบราด แต่แม่งเสือกชวนกูไปกลางคืนเนี่ยแหละ คือพอดตมามีการมีงานทำหน่อย ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปฮ่องกง ไปหลายๆประเทศแถบๆนี้ ก็เออแฮะ แม่งเริ่มกลัวขึ้นมาบ้าง อย่างญี่ปุ่นเนี่ยกูไปหมู่บ้านชาวประมงอิเนะ คือบรรยากาศบนเขามันก็จะมีพิธีแห่ศพอะไรไม่รู้ เพราะบนเขามันคือที่ทำพิธีศพหรือสุสานอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ได้ยินเสียงสวดตลอดเวลา บ้านเมืองก็เป็นแบบโบราณ แถมฝนยังตกรินๆอีก ฟ้าก็หม่นๆ ผู้คนก็ไม่ค่อยมี เมืองเงียบสงบและโคตรสวย


เขามีจักรยานให้ยืมฟรีๆขับตะลุยหมู่บ้าน กูขับผ่านบ้านเรือนแบบสมัยเก่าเขา แอบๆมองเข้าไปในบ้านหลายๆหลัง เขร้!! โคตร Ju-on เลยว่ะ น่ากลัวสัสๆ เสียงสวดแม่งก็แว่วๆมา บรื๋อ... หลังจากนั้นมากูลองเอา Ju-on กลับมาดูซ้ำอีก เออเว้ย และแล้วกูก็กลัวหนังผีญี่ปุ่นจนได้