เดนเซล วอชิงตัน ชายผู้ทำให้ราชาก้มกราบ

ดูหนังฟรี

จะไม่มีราชาเสือดำ หากไม่มี เดนเซล วอชิงตัน


เคยมีคนแอบตัดต่อขำๆว่าหาก Black panther ถูกสร้างในยุค 90s ผู้ที่จะมารับบทฝ่าบาททีชาล่านั้น ถ้าไม่ใช่เวสลี่ย์ สไนป์ ก็ต้องเป็น เดนเซล วอชิงตัน นั่นแหละ แต่เปอร์เซนต์ค่อนไปทางฝ่ายแรกมากกว่า เพราะดูจะเป็นนักแสดงที่ครบเครื่องเรื่องบู๊กว่าฝ่ายหลังมากๆ ส่วนป๋าเดนเซลก็รับบทคิลมองเกอร์ไปซะก็ไม่เสียหายอะไร


เพราะเด่นไล่ๆกันทั้งสองบท ใครเลยจะรู้ว่าไอ้ที่แซวกันขำๆนั้นจริงๆมันมีคำว่าโชคชะตานำพากันอยู่ เพราะ แชดวิค โบสแมน ผู้รับบท Black panther นั้นเคยออกมายอมรับว่า หากไม่มี เดนเซล วอชิงตัน เขาคงไม่มีวันนี้ ย้อนกลับไปสมัยที่ แชดวิค โบสแมน ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด เขาและเพื่อนๆได้ลงทะเบียนขึ้น


บัญชีเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนด้านการละคร ซึ่งต้องได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ แต่ปรากฏว่า แชดวิค โบสแมน ไม่มีทุน และเพื่อนๆของเขาก็เช่นกัน มันคือโอกาสอันดีแต่พวกเขาไม่มีเงิน โชคดีที่พวกเขามี ฟิลิเชีย ราชาด อดีตนักแสดงทีวีที่เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการแสดงของ แชดวิค โบสแมน ที่ฮาเวิร์ด


ซึ่งเธอได้ใช้ความเป็นคนในวงการของเธอ เข้าไปขอการสนับสนุนจากเพื่อนๆในวงการเพราะเล็งเห็นว่าเด็กๆเหล่านี้เติบโตไปจะต้องเป็นนักแสดงที่ดีเข้าไปประดับวงการอย่างแน่นอน แล้วฝันของเด็กๆก็เป็นจริง พวกเขาได้ไปอ็อกซ์ฟอร์ด ด้วยทุนรอนจากเพื่อนฝูงในวงการของอาจารย์ฟิลิเชีย หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักทุนการศึกษาครั้งนั้น


คือ เดนเซล วอชิงตัน นั่นเอง ในงานรอบปฐมทัศน์ของ ดูหนังฟรี Black Panther เดนเซล วอชิงตัน แอบย่องมาในงานด้วย แชดวิค โบสแมน ในวันที่เป็นดาราดังแล้วเดินเข้าไปหาผู้มีพระคุณของเขา เดนเซลทักเขาอย่างกันเองว่า " เรายังไม่เคยเจอกันเลยนะไอ้หนู " ก่อนที่ แชดวิค โบสแมน จะตอบกลับอย่างตื้นตันว่า


" ผมมีหลายๆอย่างอยากจะบอกกับคุณจริงๆ คุณคือคนจ่ายเงินเรียนให้ผม " ในขณะที่กำลังจะซึ้ง เดนเซลก็ตอบกลับไปว่า "แน่นอนไอ้หนู เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะมาทวงตังค์เอ็งไง " แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะร่าอย่างออกรส ย้อนกลับมาพูดถึงเดนเซล วอชิงตัน กันต่อ อันที่จริงแล้วเขาค่อนข้างจะเป็นนักแสดงที่แปลกประหลาดเอามากๆ


เพราะในขณะที่เขาแสดงหนังดราม่าคุณภาพมาตลอด แต่ในทางการเป็นดารานักบู๊ เขาก็ดูเหมือนจะมีผลงานหนังแอ็คชั่นอยู่ในลิสต์ไม่น้อยเหมือนกัน แต่.....ทว่าแปลกมากที่คนแทบไม่ได้จดจำเขาในฐานะยอดนักบู๊เลย " ผมชอบหนังแอ็คชั่นนะ มันทำเงินได้เยอะดี " คำพูดง่ายๆถ้าออกจากปากดาราอย่าง เวสลี่ย์ สไนป์ หรือ วิน ดีเซล มันคงไม่ดูมีอะไร


แต่นี่มันออกจากปาก เดนเซล วอชิงตัน มันเลยดูเท่และไม่ดูเรื่องมาก ทำไมน่ะเหรอ เพราะเขาคือนักแสดงที่แปลกประหลาด ถ้าเอ่ยชื่อเขาผู้คนมักมีภาพจำเป็นดาราเจ้าบทบาทที่มีแต่รางวัลอยู่ในมือ แต่หากกางนิ้วนับดูดีๆ เขานี่แหละขาบู๊ของฮอลลีวู้ดตัวจริงไม่ค่อยอิงซีจี จำนวนหนังบู๊ในผลงานการแสดงของเขามีเยอะมาก


แต่เหตุใดคนจึงมองเขาเป็นดาราสายดราม่า นั่นเพราะเขาพยายามทำให้มันสมดุลกัน เขาชอบเล่นสนุกในกองถ่ายหนังแอ็คชั่น ในขณะที้เครียดจากบทดราม่า เรื่องมันเกิดตอนที่เขาถูกปฏิเสธบทนักล่าแวมไพร์ Blade เขาคิดว่ามันน่าสนุกแต่ต้องยอมเสียบทให้ เวสลี่ย์ สไนป์ ไปเพราะสไนป์เหมาะสมกว่า


หลังจากนั้นมาดูเหมือนว่าเขาจะพยายามอย่างหนักที่จะใส่ตัวตนลงไปในหนังบู๊ที่เขาแสดง มันไม่ใช่แค่การยืนทำเท่แล้วเหนี่ยวไกปืน แต่เป็นการใส่ความเป็นมนุษย์ลงไปท่ามกลางห่ากระสุนและเปลวระเบิดไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ จากชายผู้ถูกปฏิเสธบทนักล่าแวมไพร์ เขาคว้าออสก้าร์จากการแสดงหนัง เอ่อ....หนังแอ็คชั่น


อ่านไม่ผิดหรอก เขาคว้าออสก้าร์นำชายจาก Training Day หนังออนไลน์ แอ็คชั่นตำรวจ ซึ่งเป็นออสก้าร์ตัวที่สองของเขา นี่คือความมหัศจรรย์ และมีไม่กี่คนที่สามารถคว้าออสก้าร์จากหนังบู๊ได้ มันจึงเป็นความแปลกที่น่าพิศวง เขายิงปืนและได้ออสก้าร์จากหนังแอ็คชั่น แต่ไม่มีใครเรียกเขาว่า เดนเซล วอชิงตัน ดารานักบู๊ แม้กระทั้งในหนังอย่าง Book of Eli


เขาลงทุนลงแรงเล่นฉากสตั๊นท์เองทั้งหมด หัดใช้อาวุธมีดปืนให้ชำนาญเป็นแรมปีเพื่อเข้าฉาก แต่ก็นั่นแหละ ยังไม่มีใครเรียกเขาว่าดารานักบู๊อยู่ดี ว่ากันว่า Book of Eli คือหนังที่ช่วยเติมเต็มปมของเขาที่เคยชวดบท Blade เพราะมีการต่อสู้ที่ใกล้เคียงกัน และปัจจุบันเขายังคงเล่นบทบู๊ควบคู่กับดราม่าต่อไป พร้อมสร้างความแปลกประหลาดใจให้แฟนๆหนังเสมอๆ


ว่าบู๊ขนาดนี้ทำไมไม่มีคนเรียกดารานักบู๊ ปี 2019 ในงานมอบรางวัลเกียรติยศ AFI Life Achievement Award ครั้งที่ 47 เดนเซล วอชิงตัน คือผู้ที่ได้รางวัลนี้ไปครอง แชดวิค โบสแมน ขึ้นไปกล่าวสดุดีแด่ เดนเซล วอชิงตัน