ฮักบี้ระดับตำบล สู่ระดับตำนาน

ดูหนังฟรี

ชวนดูหนังกีฬาสุดน่ารักแห่งปีรอบพิเศษ


ที่ Lido Connect รายได้สมทบทุน บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง หลังจากการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคอีสานเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงไล่เลี่ยกันพอดีกับที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กำลังเข็นผลงานการกำกับครั้งใหม่ของเขาในชื่อ ‘ฮักบี้บ้านบาก’


ซึ่งเรื่องราวของหนังก็สร้างจากเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นที่ ดูหนังฟรี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หนึ่งในพื้นที่ประสบอุทกภัย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นทั้งอาสาสมัครกู้ภัยและบำเพ็ญประโยชน์ ในขณะเดียวกันเขาก็ทำงานเป็นผู้กำกับ ผลงานที่สร้างชื่อและกลายเป็นกระแสมากๆ โดยเฉพาะในหมู่คนอีสานก็คือผลงาน ‘ปัญญา เรณู’


ทั้ง 3 ภาค ที่ได้ใจชาวอีสาน ในแง่ของการเสนอความน่ารักและความซื่อชวนยิ้มของเหล่าไทบ้านได้เป็นอย่างดี ‘ฮักบี้บ้านบาก’ สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของทีมนักกีฬา ‘ฮักบี้’ สายประถม ของโรงเรียนบ้านบาก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อครูพละอดีตนักฮ็อกกี้ทีมชาติ ต้องสวมบทบาทครูสอนรักบี้จำเป็น


เพื่อตอบสนองคำสั่งอันผิดพลาดจากส่วนกลาง เมื่อทุ่งนาต้องกลายสภาพเป็นสนามรักบี้ ลูกชาวนาที่กำลังจะเรียนจบ ป.6 ต้องกลายเป็นนักกีฬาไร้ประสบการณ์ พร้อมกับการกลายมาเป็นกองเชียร์และสปอนเซอร์จำเป็นของชาวบ้านและครอบครัว ฟังดูเป็นจุดเปลี่ยนแสนธรรมดา เมื่อลูกอีสานต้องมาเล่นกีฬาตะวันตกแสนไม่คุ้นชิน


แต่พวกเขาก็ตั้งใจฝึกฝน และต่อสู้ฝ่าฟัน ความพยายามไม่เคยทำร้ายทุกคนที่ตั้งใจ ส่งผลให้จากทีมฮักบี้ระดับตำบล พวกเขาเอาชนะทีมเก่งกาจที่ใหญ่ขึ้นๆ เรื่อยๆ จนในที่สุด พวกเขาก็ได้เข้าชิงกับทีมระดับประเทศในรอบชิงชนะเลิศ ...เราขอไม่บอกผลการแข่งขัน เพราะเชื่อว่าหลายคนที่เคยติดตามข่าวก็จะทราบดีว่าพวกเขาไปไกลได้แค่ไหน


นี่คือหนึ่งใน ‘หนังกีฬา’ หนังถ่ายทอดสด จากหลายๆ เรื่องของไทยที่ได้รับผลการตอบรับค่อนข้างดี มากกว่านั้นคือมิติของหนังที่ไม่ได้มีแค่บรรยากาศการฝึกซ้อมและการแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่หนังยังเล่นประเด็นย่อยอย่างสภาพครอบครัวของเหล่าน้องๆ นักกีฬาแต่ละคน ที่ต่างก็พบเจอกับปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ไล่มาตั้งแต่เรื่องยาเสพติดไปจนถึงเรื่อง LGBT


เรื่องย่อ จากเรื่องจริงของทีมรักบี้ม้ามืดจากโรงเรียนบ้านบาก จังหวัดอุบลราชธานี ที่ขาดแคลนทั้งอุปกรณ์และโค้ชมืออาชีพฝึกซ้อม แต่ก็สามารถเข้าไปชิงในดีวิชั่น 2 ระดับประเทศ ได้เจอกับตัวแทนมหาสารคาม เจอกับตัวแทนกาฬสินธุ์ ตลอดจนเจอกับ ภปร.วิทยาลัย และวชิราวุธ ซึ่งล้วนเป็นโคตรรักบี้


แถวหน้าที่มีชื่อคว้าแชมป์กันอย่างต่อเนื่องทั้งนั้น แต่เหล่าเด็กบ้านบากต่างก็มีความมุ่งมั่น ทําให้พวกเขาเหล่านี้สามารถชนะทีมต่างๆ อย่างเหลือเชื่อเข้าไปชิงกับทีมวชิราวุธได้อย่างเหนือความคาดหมาย และเป็นข่าวที่ฮือฮาในสื่อระดับประเทศมาแล้ว จากเรื่องจริงที่เป็นข่าวดังเมื่อปี 2559


มาสู่หนังไทยสไตล์บ้านๆ ที่มีเด็กเดินเรื่อง ตามวิถีถนัดของผู้สร้างและผู้กำกับอย่าง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่เคยปั้นหนังเด็กอย่าง ปัญญา เรณู ออกมาฮิตติดใจจนกลายเป็นหนังไตรภาคสำเร็จ มาครั้งนี้บิณฑ์มุ่งมั่นที่จะนำเอาเรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจจากฉายาทีม นักสู้เท้าเปล่า เพราะขาดทั้งทุนทรัพย์และอุปกรณครบครันอย่างโรงเรียนดังๆ


ทีมอื่น แต่กลับใช้พลังกายพลังใจฝ่าฟันจนล้มยักษ์เข้าชิงระดับประเทศสำเร็จ โดยบิณฑ์ยังได้ดึง ธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับดังเจ้าของผลงานอย่าง บางระจัน (2543) มาช่วยกำกับและควบคุมงานสร้าง เพื่อหวังจะได้หนังกีฬาชั้นดีประดับวงการอีกเรื่องหนึ่ง