กรณีของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์

กรณีของการสวมร่างเปลี่ยนวิญญาณ

น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์

รูปถ่ายเมื่อ พ.ศ.2517

กรณีนี้ ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล ศ.ดร.เอียน สตีเวนสัน และอาจารย์นาซิบ สิโรรส ได้เคยเดินทางไปพิสูจน์และสอบสวนกรณีนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2517 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2516 ซึ่งได้ลงเรื่องของเด็กนักเรียนสาวชาวนครศรีธรรมราช ที่เป็นลมสลบไปถึงสามครั้ง ปกติเธอพูดกลางไม่ได้ พูดได้แต่ภาษาถิ่นทางภาคใต้ พอฟื้นขึ้นครั้งที่สาม เธอกลับกลายเป็นอีกคนหนึ่ง เธอพูดภาษากลางได้คล่อง เธอบอกว่าบ้านของเธออยู่ที่กรุงเทพ ซึ่งอาจจะเป็นการที่วิญญาณได้สับเปลี่ยนร่างกัน

เรื่องราวในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐดังกล่าวนั้น ก็คือเรื่องราวของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ บุตรสาวของ นายทิ้ง-นางเพี้ยน กาญจนจำนงค์ บ้านอยู่ที่บางปู ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช(ใกล้วัดบางปู) น.ส.สัญญา เธอมีพี่น้องทั้งหมด 10 คน คือ

1. นางประยูร 6. นายสมเกียรติ

2. นางวรรณา 7. นายสมยศ

3. นายสามารถ 8. นางสารา

4. นายสุชาติ 9. นายเพลิน

5. น.ส.สัญญา 10. นายบังเอิญ

ซึ่งเหตุการณ์วิญญาณสับเปลี่ยนร่างกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2516 ตอนนั้น นางประยูร พี่สาวคนโตของ น.ส.สัญญา มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งอายุได้ประมาณห้าขวบกำลังน่ารัก ซึ่งน.ส.สัญญาเธอรักหลานคนนี้มาก แต่เด็กสาวได้ป่วยเป็นไข้เลือดออกและเสียชีวิตลง ด้วยความที่เธอรักหลานคนนี้มาก น.ส.สัญญา จึงเศร้าโศกเสียใจเธอร้องไห้คร่ำครวญถึงหลานรักตลอดเวลา ครั้นถึงวันที่จะต้องเผาศพของหลานรัก พวกญาติๆได้นำศพของเด็กสาวไปเผาที่วัดบางปู ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ขณะที่ศพกำลังถูกเผาอยู่นั้น น.ส.สัญญา ก็จ้องมองดูศพหลานด้วยความอาลัยอาวรณ์ ด้วยความที่เธอรักหลานคนนี้มาก ทำให้เธอคิดมากเสียอกเสียใจจนถึงกับเป็นลมสลบไป

นายทิ้งผู้เป็นบิดาก็ได้พา น.ส.สัญญา ไปที่โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ(ในอดีตเรียกว่ากองเสนารักษ์) ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เธอก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็ไม่ได้พูดจาอะไร บิดาจึงพากลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ไปโรงเรียนตามปกติ พอไปโรงเรียนได้สักพัก ประมาณเก้าโมงเช้า ครูที่โรงเรียนก็ให้คนมาตาม นายทิ้งผู้เป็นบิดาบอกว่า น.ส.สัญญาเป็นลมไปอีกแล้ว บิดาก็ไปพาเธอไปยังเสนารักษ์อีก เธอนอนพักอยู่ในห้องคนไข้จนถึง ประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง บิดาจึงพาขึ้นรถกลับบ้าน ระหว่างทางรถต้องผ่านวัดบางปู เมื่อมาบริเวณวัดปู น.ส.สัญญาก็เป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง บิดาและญาติๆได้ช่วยกันปฐมพยาบาลกันอยู่พักใหญ่ เมื่อเธอฟื้นพวกเขาก็พาเธอกลับบ้าน ตอนนั้นบิดาของเธอได้ไปนิมนต์พระมารดน้ำมนต์ให้ หลังจากรดน้ำมนต์ น.ส.สัญญาก็เริ่มพูดจาเพ้อเจ้อผิดไปจากเดิม เธอพูดภาษาปักษ์ใต้ แต่เลอะเลือนไปมาก พูดไม่รู้เรื่อง จนถึงเวลา ตีหนึ่งของวันใหม่ เธอก็ตื่นขึ้นมา น.ส.สัญญา บอกว่าเธอปวดศีรษะมาก บิดาจึงจ้างรถไปส่งที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน แต่พอมาถึงบริเวณวัดบางปูเธอก็เริ่มพูดภาษากลาง เธอบอกว่า “พ่อเป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น” เมื่อไปถึงสถานีอนามัยหมออนามัยก็ให้เธอกินยาระงับประสาท จากนั้นเธอก็หลับไป บิดาจึงพากลับบ้าน คืนนั้นเธอนอนหลับตื่นมาอีกทีตอนหกโมงเช้า พอตื่นขึ้นมานับตั้งแต่เช้าวันนั้น เธอก็พูดภาษากลางเรื่อยมา ตอนเช้าของวันนั้นเธอเตรียมตัวจะไปโรงเรียนตามปรกติ แต่เธอจำทางไปโรงเรียนไม่ได้ บิดาของเธอจึงต้องไปส่ง และตอนโรงเรียนเลิกก็ไปรับกลับ หลังจากนั้นประมาณสามวัน น.ส.สัญญา ก็เริ่มพูดว่า บ้านของเธออยู่ที่กรุงเทพฯ ตัวเธอ ชื่อว่า อุบลรัตน์ แต้มฉบับ เป็นบุตรสาวของ นายสวัสดิ์–นางประพันธ์ แต้มฉบับ เธออายุสิบหกปี เกิดที่ฝั่งธนบุรี เธอเกิดวันที่ 20 ตุลาคม 2501 (น.ส.สัญญา เกิดวันที่ 19 ตุลาคม 2501 ต่างกันวันเดียว)

นอกจาก น.ส.สัญญา จะพูดภาษากลางสำเนียงแบบชาวกรุงทั้งๆที่ไม่เคยพูดมาก่อนแล้ว เธอยังมีอากัปกิริยาผิดแปลกไปจากเดิม เช่น ลายมือการเขียนตัวหนังสือของเธอ ก็แตกต่างจากลายมือของ น.ส.สัญญา ครอบครัวของเธอเคยพาเธอให้แพทย์ตรวจดูว่าสมองของเธอได้รับผลกระทบกระเทือนอะไร ที่เกิดจากความเสียใจจนเธอสลบไปถึงสามครั้งหรือไม่ แต่แพทย์ก็ยืนยันว่าสมองของเธอปรกติดี

เวลานั้นชาวบ้านพากันโจษจันกันว่า วิญญาณของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ ได้มีการสับเปลี่ยนกันกับวิญญาณของ น.ส.อุบลรัตน์ แต้มฉบับ แล้ว

น.ส.สัญญาเคยบอกกับนายทิ้งบิดาว่า เธอมาจากเครื่องบิน ที่กำลังจะบินไปที่จังหวัดสงขลา เธอบอกว่าเธอหมุนลงมา และสำหรับครอบครัวของเธอที่กรุงเทพฯ เธอมีพี่ชายสองคน ส่วนเธอเป็นน้องสุดท้อง บิดาของเธอ คือ นายสวัสดิ์ แต้มฉบับ ทำงานบริษัท

มีครั้งหนึ่งมีวิญญาณของพระที่มรณภาพไปแล้ว ได้มาเข้าสิงนายทิ้งบิดาของเธอ บอกว่าฝากเด็กคนนี้ด้วยเธอเป็นคนดี และท่านเห็นว่านายทิ้งก็เป็นคนดี จึงเอามาฝากไว้

สำหรับข้อมูลเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนนี้ เป็นเรื่องราวของการสวมร่างเปลี่ยนวิญญาณ ที่ได้มีการพิสูจน์สอบถามโดย ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล ศ.ดร.เอียน สตีเวนสัน และอาจารย์นาซิบ สิโรรส เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2517 จากคำบอกเล่าของ นายทิ้งและนางเพี้ยน บิดามารดาของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ แต่น่าเสียดายที่ ไม่สามารถที่จะไปค้นหาบ้านที่อยู่และเรื่องราวของ น.ส.อุบลรัตน์ แต้มฉบับ หรือครอบครัวในกรุงเทพฯได้ ในสมัยนั้น

......................................................................................

ข้อมูลล่าสุด :

เมื่อปี 2547 ผู้เขียนได้เดินทางไปสอบถามหาบ้านของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ ซึ่งข้อมูลบอกว่าอยู่ใกล้ๆวัดบางปู(ศาลาบางปู)หรือวัดวิสุทธิยาราม ก็ได้พบกับบ้านของ นางประยูร พี่สาวของ น.ส.สัญญา ซึ่งอยู่ในซอยหลังวัดบางปู จากการสอบถาม นางประยูร เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นเธอเองมีลูกสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 5 ขวบ ได้เสียชีวิตลง น.ส.สัญญา น้องสาวซึ่งมีความผูกพันกับหลานคนนี้มาก ก็ร้องไห้เสียใจอย่างหนักจนเป็นลมสลบไป 3 ครั้ง พอฟื้นขึ้นมาครั้งที่ 3 เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอพูดภาษากลางแบบคนกรุงเทพชัดมาก ไม่มีสำเนียงคนใต้ปนเลย เธอมีอาการประหลาดๆไม่เหมือน น.ส.สัญญา คนเดิม เธอบอกว่า บ้านของเธออยู่ที่กรุงเทพฯ ตัวเธอ ชื่อว่า อุบลรัตน์ แต้มฉบับ เป็นบุตรสาวของ นายสวัสดิ์–นางประพันธ์ แต้มฉบับ เธอบอกว่าบ้านของเธอที่กรุงเทพเป็นหมู่บ้านจัดสรร ในหมู่บ้านนั้นมีดาราอยู่หลายคน เธอกับพี่ชายทั้งสองคนเรียนอยู่ที่ โรงเรียนโยธินบูรณะ ที่บ้านเธอมีห้องน้ำ เธอชอบตีแบทมินตันกับครอบครัว เธอนั่งเครื่องบินมากับพ่อจะไปสงขลา แล้วเธอก็หมุนๆลงมา รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในร่างของ น.ส.สัญญา นี่แหละ ตอนนั้นที่บ้านของ น.ส.สัญญา ยังไม่มีห้องน้ำห้องส้วม ใช้ไปขุดหลุมถ่ายเอาในทุ่งในป่า เธอบอกว่าเธอถ่ายแบบนั้นไม่ได้ที่บ้านของเธอมีห้องน้ำ จนพ่อของ น.ส.สัญญาต้องทำห้องน้ำห้องส้วมให้ ต้องซื้อไม้แบทมินตันให้

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2519 จังหวัดนครศรีธรรมราชได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ออกไปไหนไม่ได้ต้องใช้เรือออกไปอย่างเดียว ตอนนั้น น.ส.สัญญา อยู่ที่บ้านหลังเก่าของพ่อที่อยู่เข้าไปข้างในหมู่บ้าน วันนั้น น.ส.สัญญา ขอให้พี่ชายคนหนึ่งพาออกมาดูน้ำท่วมที่โรงเรียน (โรงเรียนอยู่หน้าถนนใหญ่ติดกันกับวัดบางปู) พี่ชายก็ถีบจักรยานให้น้องสาวซ้อนท้ายออกมา ระหว่างทางบางช่วงมีน้ำไหลเชี่ยวต้องลงจูงจักรยานข้ามทางน้ำ น.ส.สัญญา ซึ่งเดินเกาะท้ายรถจักรยานของพี่ชายมาเกิดเสียหลักล้มลง ทำให้ถูกน้ำพัดไปอย่างรวดเร็ว พี่ชายช่วยไว้ไม่ทัน ทำให้เธอจมน้ำเสียชีวิตในปีนั้น นี่คือคำบอกเล่าของ นางประยูร พี่สาวของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ ซึ่งนอกจากเธอจะบอกเล่าเรื่องราวความแปลกประหลาดของ น.ส.สัญญา ให้ฟังแล้ว นางประยูร ยังได้นำรูปถ่ายหน้าศพของ น.ส.สัญญา ออกมาให้ดูด้วย ซึ่งเป็นรูปถ่ายใส่กรอบที่ใช้ตั้งไว้หน้าศพที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา คือมีชื่อสองชื่ออยู่ในรูปถ่ายใบเดียว คือบรรทัดแรกเป็นชื่อของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ และบรรทัดที่สอง เป็นชื่อของ น.ส.อุบลรัตน์ แต้มฉบับ เสียดายภาพถ่ายที่ผู้เขียนถ่ายมาเก็บบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แล้วคอมฯเกิดเสียภาพถ่ายรูปหน้าศพไฟล์นั้นเลยหายไปด้วย พยายามหาทางกู้ไฟล์คืนแล้วแต่ไม่สามารถกู้ได้ เมื่อผมมีโอกาสได้ไปที่บ้านของ นางประยูร อีกครั้งก็ได้ถามหารูปนั้น นางประยูรบอกว่า รูปถ่ายใบนั้นน้องชายคนที่อยู่ปัตตานีเอาไปด้วย ก็เลยเสียดายที่ไม่มีรูปถ่ายสำคัญรูปนั้น ถ้ามีโอกาสได้ไปที่นครศรีธรรมราชอีกจะต้องขอเบอร์โทรติดต่อน้องชาย นางประยูร เพื่อขอให้ถ่ายรุปใบนั้นส่งไลน์มาให้จะได้นำมาลงไว้ให้ดูในที่นี้

พิกัดบ้านพี่สาวของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ :

https://www.google.co.th/maps/@8.5678396,99.9522282,3a,67.4y,78.39h,87.07t/data=!3m6!1e1!3m4!1sd-oiKB2a4Vxh2y7Z7OEwdA!2e0!7i13312!8i6656?hl=en

วัดบางปู(ศาลาบางปู) :

https://www.google.co.th/maps/@8.5695047,99.9494572,3a,75y,85.58h,91.31t/data=!3m6!1e1!3m4!1suJHjlLhyc6bT3CTDCK5kBQ!2e0!7i16384!8i8192?hl=en

ต่อมาเมื่อปี 2556 ผู้เขียนได้เดินทางไปที่ โรงเรียนโยธินบูรณะ แถวเกียกกาย บางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อพิสูจน์คำบอกเล่าตามที่ นางประยูร เคยบอกเล่าไว้ เพื่อค้นหารายชื่อศิษย์เก่า เมื่อสมัยปี 2515 - 2516 ซึ่งท่านรองผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้ให้นักเรียนช่วยกันค้นหาในภายหลังแต่ไม่พบชื่อของ น.ส.อุบลรัตน์ แต้ม ฉบับ หรือ พี่ชายที่นามสกุลแต้มฉบับเหมือนกัน ผู้เขียนคิดว่าถ้ามีโอกาสจะขอเข้าไปค้นหารายชื่อศิษย์เก่าของ โรงเรียนโยธินบูรณะ ด้วยตัวเองสักครั้งเพื่อไขปริศนาในเรื่องนี้

ส่วนการพิสูจน์เรื่องหมู่บ้านจัดสรร ในสมัยปี พ.ศ.2515-2516 นั้น จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยเราเพิ่งจะมีหมู่บ้านจัดสรรหมู่บ้านแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2516 คือหมู่บ้านเสนานิคม 1 ซึ่งสอดคล้องกันกับช่วงเวลา และคำบอกเล่าของ น.ส.สัญญา

อ้างอิง หมู่บ้านเสนานิคม 1 : http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=9224

เกี่ยวกับการสืบค้น ชื่อ และ นามสกุล "แต้มฉบับ" ในอินเตอร์เน็ต ยังไม่พบใครที่มี ชื่อ และ นามสกุลนี้อยู่เลย คงต้องหาทางสืบค้นในฐานทะเบียนราษฎร์ต่อไป

การสอบสวนสืบค้นหาข้อมูลของกรณีของ น.ส.สัญญา กาญจนจำนงค์ นี้ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ ในขณะที่ผู้เขียนไปสืบหาบ้านของ นางประยูร ครั้งแรก ตอนนั้น นางประยูรไม่อยู่บ้าน ออกไปแจกการ์ดแต่งงานลูกสาว ผู้เขียนได้ไปนั่งรออยู่ที่บ้านหลังติดกันก่อนถึงบ้านของนางประยูรซึ่งเป็นบ้านญาติของ นางประยูร และ น.ส.สัญญา ซึ่งพวกเขาก็ทราบเรื่องราวแปลกประหลาดของ น.ส.สัญญา ด้วยเช่นกัน เมื่อนั่งคุยสอบถามกันก็ได้ทราบว่า หลานชายคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ ก็จำอดีตชาติได้ คือจำได้ว่าเป็นพี่ชายของเจ้าของบ้านที่เสียชีวิตไปแล้วสืบชาติมาเกิดใหม่ ซึ่งมีหลักฐานเป็นรอยปานที่มีลักษณะตรงกันกับรอยป้ายศพของพี่ชายที่เจ้าของบ้านซึ่งเป็นน้องสาวป้ายไว้ด้วยตัวเองหลังพี่ชายเสียชีวิตและคำพูดของเด็กเป็นหลักฐาน นับได้ว่าเป็นหลักฐานหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า ประเพณีการป้ายศพเพื่อเอาไว้เป็นที่สังเกตเมื่อมาเกิดใหม่นั้นมีอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย แล้วผู้เขียนจะนำเรื่องราวการจำอดีตชาติของเขามานำเสนอในโอกาสต่อไป

เขียนเรียบเรียงโดย : ธวัชชัย ขำชะยันจะ

ที่มาของข้อมูล : จากหนังสือ ระลึกชาติและประสบการณ์ทางวิญญาณ โดย ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย : คุณณัฐสิทธิ์

......................................................